แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1256 ผมเสียใจ เสียใจมากจริง ๆ
บุริศร์ไม่รู้ว่าตัวเองวางสายโทรศัพท์ไปได้ยังไง หนำซ้ำเขายังลืมไปด้วยซ้ำว่านรมนยังรอเขาอยู่ในร้านกาแฟ เขายืนอยู่ตรงนั้นตัวคนเดียว รถราที่วิ่งอยู่รอบข้าง ผู้คนที่เดินไปทั่วสำหรับเขาแล้วทั้งหมดต่างก็เป็นเหมือนภาพลวงที่มองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้
ในสายตาของเขา ในหัวสมองของเขาล้วนเป็นภาพโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น
โศกนาฏกรรมครั้งที่ไม่มีความเป็นมนุษย์ และโหดเหี้ยมไร้คุณธรรม
ตอนแรกนึกว่าจะมีกลลวงหรือหลุมพรางอะไรถึงได้ทำให้หมู่บ้านดารายนพังพินาศไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงแค่ความอิจฉาของผู้ชายคนหนึ่ง เป็นปฏิบัติการที่โหดเหี้ยมเพื่อที่จะฆ่าอาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลและบุญทิวาครั้งหนึ่งเท่านั้น
ธนเดช!
แกนี่มันสมควรตายจริง ๆ!
สมควรไปลงนรกขุมที่สิบแปดเลย!
ดวงตาของบุริศร์ปรากฏเป็นสีเหลืองทองขึ้นมาอีกครั้ง หนำซ้ำเลือดทั้งตัวก็กำลังเดือดปุด ๆ อยู่
และเพราะว่าหนอนพิษแห่งความทรงจำของเขา ทำให้สามารถรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังและความโศกเศร้าของคนในหมู่บ้านในตอนนั้นได้อย่างชัดเจน
หมู่บ้านดารายน เป็นหมู่บ้านที่สวยงามแค่ไหนในตอนนั้น แต่เพราะว่าการปฏิบัติการในครั้งนั้นกลับต้องมาหลั่งเลือดราวกับเป็นสายน้ำ
อยู่ ๆ ในหัวสมองของบุริศร์ก็เกิดภาพภาพหนึ่งขึ้นมา
มีผู้หญิงที่คุ้นเคยคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งในถ้ำ ดูท่าแล้วทั้งสองคนเหมือนกับว่าเพิ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จ อารมณ์ของทั้งสองคนยังไม่สงบนิ่ง และที่ข้างกายพวกเขาก็วางเด็กที่เพิ่งครบเดือนคนหนึ่งไว้
หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่ม แล้วพูดขึ้นอย่างทุกข์ใจเล็กน้อยว่า “พิรุณ ฉันแอบคลอดลูกชายคนหนึ่งให้คุณลับหลังคนในหมู่บ้าน นี่เป็นลูกชายของเรา คุณดูซิคิ้วของเขาซิเหมือนฉันมากขนาดไหน!”
ชายหนุ่มคว้าตัวหญิงสาวมากอดไว้ทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “คุณไปกับผมเถอะ คุณเป็นผู้หญิงของผม ลูกชายของเราจะขาดแม่ไม่ได้ คุณไปกับผมดีไหม?”
“พิรุณ ฉันเป็นลูกคนเดียวของพ่อฉัน เป็นนายน้อยของคนทั้งหมู่บ้าน กฎของหมู่บ้านเราคือห้ามแต่งงานกับคนภายนอก เพราะฉะนั้นเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก”
หญิงสาวร้องไห้จนหน้าตาเปรอะเปื้อน ในดวงตามีแววหมดหนทางและการยืนยันอยู่
เธอมีความรับผิดชอบของเธอ ไม่สามารถที่จะทิ้งคนทั้งหมู่บ้านไปอย่างไม่สนใจเพียงเพราะว่าความรักของหนุ่มสาวได้
“พิรุณ คุณก็รู้ หมู่บ้านของเราเป็นหมู่บ้านที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น หนอนพิษทองคำจะยอมรับแต่สายเลือดของคนในตระกูลดารายน ฉันมีหน้าที่ของฉัน ฉันไปจากที่นี่ไม่ได้”
“งั้นผมก็จะอยู่ต่อด้วย ผมกับลูกชายจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกับคุณไม่ได้ ไม่สามารถอยู่กับคุณได้อย่างเปิดเผยผมก็ยอม ผมรักคุณ คุณเองก็รู้ เพื่อคุณแล้วผมสามารถละทิ้งทุกอย่างได้”
พิรุณกอดหญิงสาวไว้แน่น หญิงสาวเองก็กอดเธอไว้แน่นเช่นกัน
หญิงสาวร้องไห้แล้วพูดขึ้นว่า “พิรุณ คุณพาลูกชายของเราไปจากที่นี่ หาที่ที่ไม่มีคนรู้จักพวกคุณสักแห่ง แล้วก็เลี้ยงลูกของเราให้ดี อย่าสอนเรื่องหนอนพิษให้เขา อย่าให้เขารู้ว่ามีหมู่บ้านดารายนแห่งนี้อยู่ แล้วยิ่งอย่าให้เขารู้ว่ามีแม่อย่างฉันอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นลูกชายของพวกเรา เป็นตัวแทนความรักของเรา เขาควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ตัวเองได้เลือกทางที่ตัวเองจะเดินเอง แต่ไม่ใช่เพราะว่าในร่างกายมีเลือดของตระกูลดารายนไหลเวียนอยู่แล้วจะต้องมาสืบทอดชีวิตที่ถูกวางไว้แล้ว มีเพียงแต่ต้องไปจากที่นี่ ไปจากหมู่บ้านดารายน เขาถึงจะมีความเป็นไปได้ ถึงจะมีชีวิตที่สว่างรุ่งโรจน์ได้ ขอแค่เขามีชีวิตที่ดี ๆ อยู่ นั่นก็คือวิธีที่ดีที่สุดที่ฉันจะอยู่ข้างตัวเขา จำไว้นะ ให้เขาไปช่วยฉันดูภูเขาทะเลที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ให้เขาไปมีชีวิตในแบบที่ฉันไม่เคยมี ถ้าหากว่าคุณรักฉัน ก็รับปากฉันได้ไหมคะ?”
“คุณทำไมถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้? ทำไมคุณถึงทำแบบนั้นกับผมได้?”
พิรุณตะคอกเสียงต่ำที่เจ็บปวดออกมา จนทำให้ลูกที่อยู่ข้าง ๆ ตกใจตื่นขึ้นมา
เด็กทารกร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
แล้วหญิงสาวรีบวิ่งไปปลอบโยนทันที
แววตาของเธออ่อนโยนสักขนาดนั้น อ่อนโยนจนทำให้คนรู้สึกอิจฉา
ที่ข้างนอกมีเสียงฆ่าฟันกันดังลอยเข้ามา หญิงสาวรีบนิ่งอึ้งไปทันที แล้วก็รีบใส่เสื้อผ้าขึ้นมาอัตโนมัติแล้วก็จะวิ่งไปข้างนอกเลย แต่กลับโดนพิรุณคว้าตัวมากอดไว้ทีหนึ่ง
“คุณจะไปไหน? พวกเราต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณไปกับผมเถอะได้ไหม? คุณไปกับผม! อย่าไปสนใจเรื่องของหมู่บ้านเลย แค่เป็นผู้หญิงที่ใสสื่อบริสุทธิ์ไปไม่ดีเหรอ?”
“พิรุณ คุณปล่อยมือนะ ฉันเกิดที่นี่ โตที่นี่ ญาติพี่น้องเหล่านั้นเคารพและปกป้องฉันมาตั้งแต่เด็กทุกคน พวกเขาเอาของที่ดีที่สุดเก็บไว้ให้ฉัน ฉันเป็นนายน้อยของพวกเขา ตอนนี้หมู่บ้านต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้วแน่นอน ฉันจะต้องออกไปดูสักหน่อย พ่อของฉันยังอยู่ในบ้านอยู่เลย”
หญิงสาวพูดแล้วก็จะวิ่งออกไปข้างนอกเลย แต่ว่าพิรุณกลับใช้สันมือสับไปที่คอเธอจนเธอสลบไปเลย
เขาพูดอย่างเจ็บปวดขึ้นว่า “ผมไม่สนว่าคนพวกนั้นจะเป็นหรือตาย แต่ว่าผมไม่อยากเห็นคุณตายไป ที่รัก คุณอย่าโกรธผมเลยนะ มีแต่หมู่บ้านดารายนไม่มีแล้ว คุณถึงจะกลายเป็นของผมอย่างแท้จริง ๆ ถึงจะอยู่กับผมและลูกของเราแล้วใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไปได้ ผมรักคุณนะ รักอย่างลำบากมาก ผมแค่ต้องการคุณแค่คนเดียว แค่ต้องการครอบครัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่มีคุณ ผมกับลูกจะไปมีความสุขได้ยังไง? ขอโทษนะ ผมเองที่เป็นคนบอกเส้นทางของหมู่บ้านให้คนพวกนั้น ผมเองก็รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรกับทั้งหมู่บ้านบ้าง เพราะฉะนั้นผมยิ่งไม่มีทางปล่อยให้คุณออกไป รอให้ทุกอย่างจบลงแล้ว พวกเราก็จะไปจากที่นี่ แล้วแอบซ่อนนามสกุลเอาไว้ ไปมีชีวิตของพวกเราเอง สิ่งที่ติดค้างคุณในวันนี้ ต่อไปผมจะรักคุณให้มากยิ่งขึ้น คุณอย่าโทษผมเลยนะได้ไหม?”
ที่ข้างนอกเสียงฆ่าฟันกันดังสนั่นหวั่นไหว ก้องไปทั่วทุกที่ แต่ว่าชาวบ้านพวกนั้นกลับหานายน้อยของตัวเองไม่เจอเลย
คนทั้งหมดล้มตัวลงบนกองเลือด
แถมพวกเขายังรู้สึกดีใจอยู่บ้าง ดีใจที่นายน้อยของพวกเขาไม่อยู่ ดีใจที่ในที่สุดหมู่บ้านดารายนยังมีรากเหง้าหลงเหลืออยู่ก้านหนึ่ง
ความน้อยใจของพวกเขา ความคลางแคลงใจของพวกเขา นายน้อยจะต้องช่วยพวกเขาเรียกร้องความยุติธรรมกลับมาให้ได้แน่
ภาพหมุนวนเปลี่ยนไป หลังจากที่หญิงสาวตื่นขึ้นมาและรับรู้ทุกอย่าง
จ้องมองศพของญาติพี่น้องในเผ่าพันธุ์ของตัวเอง จ้องมองพื้นดินที่เปื้อนเลือดเป็นผืนใหญ่ ดวงตาของหญิงสาวค่อย ๆ มืดขรึมลง
“พิรุณ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?”
นั่นเป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเอามีดชี้ไปใส่พิรุณตรง ๆ
ดวงตาของเธอไม่อ่อนโยนอีกต่อไป ไม่มีความรักแบบวันเก่าแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงแต่ความโกรธและความแค้น
“ที่รัก คุณฟังผมก่อน”
“ฉันไม่อยากฟัง พิรุณ ฉันยอมรับว่าฉันรักคุณ แต่ว่าคุณกลับทำให้ฉันเห็นด้านที่น่าสมเพชที่สุดของตัวเอง เพราะว่าความรักที่มีกับคุณได้ทำลายผู้คนทั้งหมู่บ้านของฉัน ทำให้ฉันกลายเป็นชั่วช้า ตอนนั้นคุณไม่เคยคิดเลยเหรอว่าชีวิตที่เหลือของฉันจะอยู่ยังไงต่อไป? ความรักของเราไม่ควรจะต้องให้คนพวกนี้มาเช็กบิล พิรุณ ระหว่างเรามันจบไปแล้ว”
ในที่สุดน้ำตาของหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมา แฝงไว้ด้วยความสิ้นหวังและความเด็ดเดี่ยว ทำให้พิรุณร้อนรนไปทั้งตัวเลย
“ไม่ มันยังไม่จบ ชีวิตของเราเพิ่งเริ่มต้น ขอแค่ไม่มีหมู่บ้านดารายน คุณก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งแล้ว คุณสามารถไปดูภูเขาทะเลกับผมและลูกได้ทุกที่ ไปทุกที่ที่คุณอยากไป ชีวิตแบบนั้นเป็นชีวิตที่คุณฝันหามาตลอดไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ ฉันฝันหาชีวิตแบบนั้น แต่ว่ามันไม่ควรจะต้องมาแลกกับแบบนี้ พิรุณ ตอนนี้ฉันเป็นคนบาปของหมู่บ้านดารายนไปแล้ว บนตัวฉันแบกรับความแค้นลึกซึ้งไว้ ฉันไม่มีทางที่จะอยู่ร่วมกันกับคุณแล้ว ยิ่งไม่กล้าคาดหวังชีวิตที่หอมหวานสามคนครอบครัวแล้ว ตอนนี้คุณพาลูกไปจากที่นี่เถอะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะตัดขาดกับคุณ ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย คุณอย่าบังคับฉัน ไม่งั้นละก็ฉันจะตายต่อหน้าคุณเลย จะไปรับโทษพร้อมกับคนในหมู่บ้านฉันที่นรกเลย”
หญิงสาวนั้นดูอ่อนโยน แต่หญิงสาวก็ดูเด็ดเดี่ยว
พิรุณอึ้งไปหมดทั้งตัวเลย แต่ก็ไม่กล้าบีบคั้นมากเกินไป ได้แต่คิดว่าพอพรุ่งนี้รอเธออารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยค่อยเกลี้ยกล่อมเธออีกที แต่ว่าเช้าวันที่สอง หญิงสามก็หายตัวไปไม่เห็นเงาแล้ว ถึงแม้ว่าพิรุณจะหาจนทั่วก็หาหญิงสาวไม่เจอแล้ว
ความทรงจำขาดตอนอยู่ที่ตรงนี้
บุริศร์ซวนเซทีหนึ่งจนเกือบจะล้มลง มือที่อ่อนนุ่มคู่หนึ่งมาประคองเขาไว้เบา ๆ
“คุณยังโอเคไหม?”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยของนรมนดังขึ้นมาที่ข้างหลัง
บุริศร์หันหน้าไปอย่างมีความมึนงงเล็กน้อย สีเหลืองทองในดวงตาได้หายไปแล้ว และก็มีน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“เมื่อกี้ผมเพิ่งเห็นความทรงจำของป้าโอกับพิรุณ ที่แท้เธอก็เคยใช้ใจไปรักผู้ชายคนหนึ่งขนาดนั้นมาก่อน หนำซ้ำยังปฏิบัติต่อลูกชายของเธอกับคนรักอย่างอ่อนโยนแบบนั้นด้วย ที่แท้เธอก็เคยเป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไปมาก่อน เคยที่จะอยากมีความสุขแบบนั้น แต่น่าเสียดาย…… น่าเสียดาย……”
คำพูดของบุริศร์ยังพูดไม่จบ ก็รู้สึกว่าหัวใจเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
นี่คือความทรงจำของหัวหน้าหมู่บ้านรุ่นก่อน และก็เป็นความทรงจำที่ลึกที่สุดในจิตใจป้าโอ และเพราะว่าความสัมพันธ์ของหนอนพิษทองคำ บุริศร์ก็เลยรับรู้ได้หมดทุกอย่าง
เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของป้าโอในตอนนั้น สามารถรู้สึกได้ถึงความสุขตอนที่เธอนอนอยู่ในอ้อมอกของพิรุณ หนำซ้ำยังสามารถรับรู้ได้ถึงความรักของแม่ที่แผ่ออกมาอย่างอ่อนโยนตอนที่เธอลูบตัวเด็กคนนั้น
สุดท้ายความรู้สึกสิ้นหวังในตอนที่รู้ว่าโดนคนรักหักหลังคนทั้งหมู่บ้านนั้น ก็เหมือนกับลูกศรทะลุผ่านหัวใจ ทำให้เขาเจ็บจนหายใจไม่ออก จนชักเกรงขึ้นมาเล็กน้อย
“บุริศร์ บุริศร์คุณเป็นอะไรคะ? สีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย พวกเรากลับบ้านกันก่อนดีไหมคะ?”
นรมนรู้สึกตกใจ
บุริศร์ในตอนนี้เหมือนกับว่าคือบุริศร์ และเหมือนกับว่าไม่ใช่เขา ความรู้สึกโศกเศร้าที่มากมายขนาดนั้นทำให้เธอรู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออกขึ้นมา
นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์พบเจอกับอะไรมา แต่ว่าวินาทีนี้ เธออยากจะให้บุริศร์ไม่ไปคิดอะไรเลย และไม่ไปดูอะไรเลย
อยู่ ๆ บุริศร์ก็กอดนรมนเอาไว้อย่างแรง เหมือนอย่างกับว่ากอดความอบอุ่นเสี้ยวสุดท้ายอยู่
เขาพูดอย่างสั่นคลอนขึ้น “นรมน ผมอิจฉา อิจฉาผู้ชายคนนั้นที่ชื่อบุณพจน์ อิจฉาที่ป้าโออ่อนโยนต่อเขา คุณรู้ไหม? เธอไม่อยากจะให้บุณพจน์รู้ชาติกำเนิดของตัวเองด้วยซ้ำ ไม่อยากจะให้เขารู้ว่าบนตัวมีเลือดของตระกูลดารายนไหลเวียนอยู่ เธอจะให้เขาเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง เพราะอะไร? ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นลูกชายเหมือนกัน ทำไมเธอถึงเอาความรักทั้งหมดให้กับบุณพจน์ไป แต่กลับสามารถหลอกใช้ผมได้แบบนั้นล่ะ? หรือว่าผมไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของเธอเหรอ? ผมไม่ใช่เลือดเนื้อที่เธอตั้งท้องสิบเดือนคลอดออกมาเหรอ? ทำไมเธอถึงเอาความดีงามทั้งหมดให้กับลูกชายคนนั้นไป แต่กลับเหลือเล่ห์กลและการหลอกใช้ทั้งหมดไว้ให้ผม? แถมยังจะให้ผมช่วยแก้แค้นแทนหมู่บ้านดารายนอีกเหรอ? มีสิทธิ์อะไร?”
นรมนไม่เห็นท่าทางบุริศร์เศร้าเสียใจแบบนี้มานานแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “บุริศร์ คุณยังมีฉัน ยังมีลูก ๆ พวกเราจะรักคุณมายิ่งขึ้นไปอีกนะคะ”
“มันไม่เหมือนกัน นรมน นี่มันไม่เหมือนกัน ถ้าหากผมไม่เห็นความอ่อนโยนที่เธอมีต่อบุณพจน์ บางทีผมอาจจะปลอบใจตัวเองได้ บอกว่าเธอเป็นคนเลือดเย็นตั้งแต่เกิด แต่ว่าผมเห็นแล้ว ผมเห็นความทรงจำที่อยู่ลึกที่สุดในจิตใจเธอ เห็นความดีที่เธอมีต่อบุณพจน์ ผมรู้สึกเสียใจ เสียใจมากจริง ๆ”
ตอนนี้บุริศร์เหมือนกับเด็กคนหนึ่งที่น้อยใจ ทำให้หัวใจของนรมนก็รู้สึกไม่ดีนักขึ้นมาเหมือนกัน
เธอคิดจะปลอบโยนบุริศร์สักสองประโยค จากนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี จะพูดได้หรือเปล่า หนอนพิษแห่งความทรงจำสามารถนำความทรงจำมากมายที่ไม่ใช่ของเขามาให้บุริศร์ ถ้าหากเลือกได้ละก็ นรมนยินดีที่จะไม่ให้เขามีหนอนพิษแห่งความทรงจำนี้อยู่ อย่างนี้อย่างน้อยเขาก็จะไม่ได้รับการโดนทำร้าย
แล้วอยู่ ๆ ตัวบุริศร์ก็แข็งทื่อ แล้วทั้งตัวก็อ่อนยวบลงไปเลย