แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1345 เธอไม่เคยคิดอยากจะเป็นน้องสาวของเขาเลย
“ไม่หล่อเหรอ?”
บุริศร์กลับไม่ใส่ใจ
“น่าเกลียดจะตาย”
นรมนพูดอย่างไม่ชอบใจ บุริศร์จึงยิ้มเล็กน้อย
“น่าเกลียดก็ถูกแล้วไง อย่างนี้จะได้ไม่มีคนสนใจผม ถึงยังไงแค่ชายวัยกลางคนอ้วนๆคนหนึ่งคนอื่นก็คงไม่สนใจจนเกินไปหรอก นอกจากนี้เฉียงยังเตรียมบัตรประจำตัวใหม่ให้พวกเราด้วย ค้นหาจากในอินเตอร์เน็ตก็เจอ”
คำพูดของบุริศร์กลับทำให้นรมนประหลาดใจมาก มีฝีมืออย่างนี้ได้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนที่เก่งกาจคนหนึ่ง
“ฉันลูบๆท้องคุณดู ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะคลอดเลย คุณบุริศร์ ฉันถามหน่อย คุณลำบากไหม?”
นรมนหยอกล้อขึ้นมาทันที
บุริศร์ยอมให้มือของเธอลูบๆอยู่บนท้องของตนเอง สิ่งที่คลุมอยู่หนาๆชั้นหนึ่งค่อนข้างเกะกะจริงๆ แต่ทว่ายังโชคดีที่อากาศตอนนี้ไม่ได้ร้อนมาก ยังพอทนได้
“เล่นพอหรือยัง?”
“ยัง ใบหน้านี้ของคุณคงทำให้ฉันสะดุ้งตื่นกลางดึก ฉันคงรู้สึกว่านอนกับผู้ชายผิดคนแน่ๆ”
นรมนพูดออกไปตามใจ จึงทำให้บุริศร์ถือโอกาสดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดทันที
“นอนกับผู้ชายผิดคน? เหรอ? ตั้งแต่มาที่นี่ก็กล้าขึ้นไม่น้อยเลยนะ”
บุริศร์พูดๆแล้วก็ยื่นมือปีศาจไปทางนรมน
“ฮ่าๆๆ อย่าเล่น จั๊กจี้!”
นรมนทนการจั๊กจี้ของบุริศร์ไม่ไหว รีบเอ่ยปากขอร้องด้วยเสียงหัวเราะ
ทั้งสองคนหยอกเย้ากันตามอำเภอใจ หลังจากมาถึงที่นี่ นรมนรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยตัวตนที่เป็นตัวเองออกมา ความสงบนิ่งเก็บตัวตอนที่อยู่เมืองชลธีโดนเธอละทิ้งไม่ได้ใส่ใจไปตั้งนานแล้ว ในทางกลับกันท่าทางที่สดใสเบิกบานเหมือนช่วงมหาวิทยาลัย ทำให้บุริศร์ยิ่งชอบ
นรมนไม่รู้ว่า นี่เป็นเพราะไม่มีคนที่คุ้นเคยอยู่ข้างๆกาย เธอจึงไม่จำเป็นต้องวางตัวให้เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทีของคุณนายบุริศร์เอาไว้ ตอนนี้ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตแบบที่ตนเองต้องการที่สุดแล้ว
ชัญญาเห็นทั้งสองคนหยอกเย้ากัน จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ยิ้มๆแล้วไปที่ห้องอื่น
หลังจากนรมนกับบุริศร์เล่นกันจนพอแล้ว ทั้งสองคนจึงล้มตัวลงไปบนเตียง กลิ่นอายของความยุ่งเหยิงวุ่นวาย นี่คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่าพวกเขาเพิ่งทำเรื่องที่น่าเคอะเขินอะไรแน่ๆเลย
เฉียงกับช่างแต่งหน้าออกไปอย่างเข้าใจสถานการณ์ ให้เวลาส่วนตัวแก่พวกเขา
นรมนกำลังเล่นนิ้วมือของบุริศร์ ถามขึ้น: “มาที่นี่คุณวางแผนอะไรไว้บ้าง? แล้วเราสองคนถือว่ากำลังเข้าถ้ำเสืออยู่หรือเปล่า?”
“ประมาณนั้น”
บุริศร์ลูบผมยาวๆของนรมน ความนุ่มลื่นทำให้เขาไม่อยากเอามือออกไป
เขาพูดขึ้น: “จริงๆผมก็ไม่ได้มีแผนการอะไร แค่เข้ามาดูๆ รวบรวมหลักฐานสักหน่อย ถ้าได้เจอคนที่พวกเราอยากเจอ ได้พากลับไปก็โอเคแล้ว ส่วนเรื่องอื่น ต้องดูว่าราเชนกับหงส์คิดยังไง ถ้าพวกเขายังคิดจะอยู่ที่ประเทศF พวกเราก็ยกประเทศFที่ใสสะอาดให้พวกเขา ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ เราก็ทำลายทันทีเป็นไง?”
สำหรับที่นี่บุริศร์ไม่มีความประทับใจ แล้วก็ไม่มีความรู้สึกใดๆด้วย ที่มาก็เพราะภารกิจของตนเองกับเรื่องบางอย่างเท่านั้น
ตนเองกับนรมนโดนลอบทำร้ายมานานขนาดนี้แล้ว ต้องรวบยอดคิดบัญชีทั้งหมดใช่ไหมล่ะ?
แต่ก่อนคิดมาโดยตลอดว่าเชษฐ์เป็นคนทำ แต่ตอนนี้ดูแล้วคงเป็นวิธีที่สมชัยยืมมือคนอื่นมาฆ่าทั้งนั้น
ความเกลียดชังของตระกูลพรโสภณ ความคับแค้นใจของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา การลอบทำร้ายของตระกูลโตเล็ก พวกเขาต้องให้คำอธิบายแก่ผู้สูญเสียที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย
นรมนพยักหน้า
เธอพูดขึ้น: “ฉันอยากให้โสธรกลับไปอย่างปลอดภัย”
“พวกเราจะปกป้องเขาอย่างดี วางใจเถอะ”
บุริศร์พูดขึ้น นรมนก็สบายใจ
“บุริศร์ จริงๆฉันรู้สึกว่าลงโทษสมชัยกับคนพวกนั้นก็พอ ส่วนประเทศF ประชาชนของที่นี่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่เหรอ?”
“เรื่องนี้ค่อยว่ากันอีกที”
บุริศร์รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องพวกนี้
เฉียงส่งคนให้นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้พวกเขา พายุหิมะที่ด้านนอกเริ่มหนักขึ้นแล้ว
นรมนยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่างฝรั่งเศส กำลังมองพายุหิมะข้างนอก อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “ดีที่พวกเรากลับมาแล้ว ไม่งั้นถ้ายังอยู่ที่เขตรกร้างคงหนาวตายแน่ๆ”
“อาจจะตายโดยที่ไม่มีใครรู้ด้วยก็ได้”
บุริศร์กอดเอวบางๆของนรมนจากด้านหลัง
ตอนนี้เธอสวมเสื้อไหมพรมสีขาว กับกางเกงยีนส์ที่รัดใต้ฝ่าเท้า ใบหน้าอ่อนวัยที่มีชีวิตชีวา ทำให้บุริศร์ใจเต้นโครมคราม
บุริศร์วางคางไว้บนไหล่ของนรมน พูดขึ้น: “ภรรยา ผมอยากศึกษาเรื่องราวบางอย่างระหว่างสามีภรรยาบนเตียงสักหน่อย จะได้ไหม?”
ระหว่างทางที่มานี้ บุริศร์อดกลั้นเอาไว้จนจะตายแล้วจริงๆ ทำไงได้นรมนสุขภาพไม่ดี สภาพแวดล้อมก็ไม่ได้ปลอดโปร่งมากพอ ทำให้เขาไม่กล้าทำเกินขอบเขตมาโดยตลอด ตอนนี้พายุหิมะทำให้พวกเขาต้องอยู่ที่นี่ชั่วคราว บุริศร์จึงอดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นมา
ลมหายใจอุ่นๆเป่าอยู่ที่ข้างหู นรมนแค่รู้สึกจั๊กจี้หู ภายในร่างกายราวกับมีความรู้สึกอะไรบางอย่างจึงเริ่มร้อนๆขึ้นมา
“เรื่องบางอย่างระหว่างสามีภรรยาอะไรกัน? ฉันไม่เข้าใจ เค้ายังเป็นแค่เด็กน้อยนะ!”
นรมนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่กลับโดนบุริศร์อุ้มขึ้นมา
“เด็กน้อยใช่ไหม? งั้นพ่อจะสอนบางอย่างที่เรียกว่าพิธีสู่การเป็นผู้ใหญ่ให้”
บุริศร์พูดเจ้าเล่ห์
นรมนรู้สึกว่านิ้วเท้าของเธอก็เขินอายจนแดงไปหมดแล้ว
“หึ่ย หน้าไม่อาย”
นรมนเพิ่งพูดจบ ก็โดนบุริศร์โยนลงไปบนเตียงทันที
“ได้แค่ภรรยาก็พอแล้ว จะสนใจหน้าอีกทำไม? อีกอย่างพวกเราก็มีใบรับรองถูกต้อง ประเทศชาติอนุญาตแล้ว ใครจะกล้าว่าอะไร?”
บุริศร์พูดแล้วก็ขึ้นไปบนเตียง
เริ่มแรกนรมนยังแสร้งผลักออกไป ภายหลังกลับเป็นฝ่ายเอาอกเอาใจขึ้นมาแทน
พายุหิมะด้านนอกยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ถึงกับรู้สึกว่าหนักขึ้นด้วย แต่ภายในห้องกลับอบอุ่น ราวกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ
ตอนที่นรมนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้านนอกก็มืดลงแล้ว
บุริศร์ยังอยู่บนเตียง กล้ามหน้าอกที่กำยำทำให้นรมนหน้าแดงได้เสมอ
“ตื่นแล้วเหรอ? หิวไหม? ผมเรียกคนเข้ามาส่งอาหารให้”
“ไม่เอา”
แค่นรมนพูด ก็พบว่าเสียงของตนเองแหบพร่าไปแล้ว
โอ้มายก๊อด เธอนึกถึงตนเองที่ร้องจนน่าอับอาย อดไม่ได้ที่จะยิ่งขวยเขิน
บุริศร์ก็ชอบมองท่าทางขวยเขินของนรมนอย่างนี้แหละ ราวกับอ่อนไหวง่าย น่ารักเหลือเกิน
เขายิ้มพูดขึ้น: “นี่มีอะไรให้ต้องเขินอีก พวกเราขับรถอย่างถูกต้องตามกฎหมายนะ”
“คุณเงียบไปเลย! เหนื่อยจะแย่แล้ว ฉันจะนอนต่ออีกหน่อย”
นรมนหันตัวไป จึงรู้สึกเหมือนกระดูกทั้งร่างกายจะหลุดออกจากกันอย่างนั้น ปวดเมื่อยสุดๆเลย
จู่ๆเธอก็นึกถึงคุณน้าธนเกียรติโกศล จึงถามขึ้นมาทันที: “คุณน้าธนเกียรติโกศลล่ะ?”
“ไปพักผ่อนที่ห้องข้างๆตั้งนานแล้ว”
บุริศร์รู้สึกว่าอาการรู้ตัวช้าของภรรยาช่างน่ารักมากจริงๆ
นรมนค่อนข้างเคอะเขิน ดึงผ้าห่มคลุมตนเองทันที
“หมาป่าหิวโซอย่างคุณ เอาแต่รู้สึกว่ากินไม่อิ่มสินะ?”
“อืม”
บุริศร์กลับยอมรับอย่างรวดเร็ว นรมนหมดคำพูดไปเลย
“ต่อไปฉันให้คุณแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“มันเหนื่อยนะ”
“ผมจะบันยะบันยังลงหน่อย”
บทสนทนาของทั้งสองคนอันตรายขึ้นเรื่อยๆ นรมนจึงเลือกที่จะปิดปากทันที
เธอหลับตาลงแล้วหลับไปอีกครั้ง
บุริศร์ได้ยินเสียงลมหายใจของเธอคงที่แล้ว จึงยิ้มแล้วห่มผ้าให้เธออย่างดี ส่วนตนเองไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง
มือถือดังติ๊งๆขึ้นมาสองครั้ง
บุริศร์ก้มหน้าดู เป็นข้อความที่หงส์ส่งมา
เขาถือมือถือมองไปที่เตียง เห็นนรมนยังหลับสนิทอยู่ จึงปิดประตูระเบียง แล้วกดรับวิดีโอ
อีกด้านปรากฏใบหน้าสวยๆออกมาทันที
“Hi เฮียบุริศร์ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ไม่ได้เจอกันนานเลย หงส์”
แววตาของบุริศร์ค่อนข้างอ่อนโยน
หงส์พบว่าบุริศร์เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแล้ว ใบหน้าที่เคร่งขรึมในตอนนี้มีความอ่อนโยน น่าเสียดายที่ความอ่อนโยนของเขาไม่ได้เป็นเพราะตนเอง
“เฮียดูอ่อนโยนกว่าเมื่อก่อนนะ”
หงส์ยิ้มบางๆ แววตาปรากฏความหงอยเหงาออกมาเล็กน้อย
บุริศร์มองเธอ พูดอย่างชัดเจน: “หลายปีนี้ลำบากเธอแล้ว”
“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก ก็แค่ใช้ชีวิตไปวันๆเอง”
หงส์ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
ด้านนอกหิมะกำลังตกหนัก แต่หงส์กลับใส่เสื้อเพียงตัวเดียว กำลังถือแก้วไวน์ เขย่าๆไวน์แดงที่อยู่ข้างใน จู่ๆก็ปรากฏเสน่ห์ที่เงียบเหงาออกมามากขึ้น
บุริศร์กลืนน้ำลายเล็กน้อย พูดขึ้น: “อายุเธอก็ไม่น้อยแล้วนะ ควรจะหาใครสักคนเพื่อแต่งงานได้แล้ว”
“ทำไม? ตอนนี้แม้แต่เรื่องแต่งงานของฉันเฮียบุริศร์ก็ต้องจัดการแล้วเหรอ?”
หงส์ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเจ็บปวด
“เฮียบุริศร์ น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าใครที่ฉันอยากแต่งงานด้วยที่สุด”
“หงส์ ฉันแต่งงานแล้ว มีลูกแล้วด้วย ฉันรักภรรยาและลูกๆของฉันมาก ตั้งหลายปีแล้วนะ เธอควรจะปล่อยวางได้แล้ว”
สีหน้าของบุริศร์ค่อนข้างแย่
ถ้าไม่ใช่เพราะธเนศพลที่ต้องการให้มาในครั้งนี้ จริงๆบุริศร์ก็ไม่คิดจะมา เพียงเพราะว่าที่นี่มีหงส์อยู่
หงส์ ผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นแค่ลูกน้อง แต่เธอกลับสนใจในตัวเขา หลงรักเขาแต่ไม่อาจครอบครองได้
ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ หงส์จึงฝืนยิ้มพูดขึ้น: “เฮียยังคงเหมือนเดิม ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเสมอ ไม่แคร์เลยว่าฉันจะรับได้ไหม เฮียบุริศร์ เฮียก็ทำแบบนี้กับภรรยาของเฮียใช่ไหม? ฉันได้ยินว่าครั้งนี้เธอก็มาด้วย เฮียไม่กลัวว่าเธอจะมองเรื่องบางอย่างระหว่างเราสองคนออกเหรอ?”
“ระหว่างเราสองคนไม่มีเรื่องอะไรเลย หงส์ อย่าดึงดันเข้าไปในทางตันดีกว่า เธอก็รู้ เธอจะเป็นน้องสาวที่ฉันเอ็นดูที่สุดตลอดไป”
คำพูดของบุริศร์ทำให้หงส์เงียบไป
เธอดื่มไวน์แดงในมือรวดเดียวหมด มองบุริศร์ที่อยู่ในวิดีโอด้วยความปวดใจ
น้องสาว?
เธอไม่เคยอยากเป็นน้องสาวของเขาเลย!
แต่ทว่าหงส์ก็รู้ ตนเองไม่ควรบีบจนแน่นเกินไป ไม่งั้นบุริศร์ก็จะยิ่งหนีเธอออกไปไกลขึ้น
ครั้งนี้พระเจ้าให้โอกาสเธอ ส่งบุริศร์มาที่ข้างกายของเธอเอง เธอมีเวลาที่จะค่อยๆใกล้ชิดบุริศร์ไม่ใช่เหรอ?
นึกถึงตรงนี้ หงส์จึงยิ้ม ยิ้มอย่างงดงาม
พระราชวังที่เงียบเหงาจนรู้สึกไม่ได้ถึงกลิ่นอายของผู้คน แต่เพราะบุริศร์ที่เพิ่งมาถึงกลับทำให้หงส์คาดหวังและตื่นเต้นมากขึ้นเล็กน้อย
“เฮียบุริศร์ สองวันนี้ในเมืองเคอร์ฟิว ข้างนอกก็มีพายุหิมะ ถ้าไม่มีธุระอะไรอย่าออกจากห้องดีกว่า รออีกสักกี่วัน ฉันจะไปรับพวกเฮียเข้าวังเอง”
เดิมทีหงส์อยากจะบอกว่ารับบุริศร์เข้าวัง แต่เพื่อไม่ให้บุริศร์เกิดความไม่พอใจ เธอจึงต้องเพิ่มคำว่าพวกเข้าไปด้วย
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยฝ่าอันตรายไปกับบุริศร์เลย หงส์รู้สึกว่าตนเองมีความมั่นใจที่จะเอาชนะ นรมนได้
นรมนยังไม่รู้ว่าตนเองโดนคนจัดลำดับการต่อสู้เข้าไปในตารางรายชื่อแล้ว ตอนนี้จึงยังหลับสนิท
แต่บุริศร์ราวกับมองความคิดของหงส์ผ่านทางวิดีโอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย พูดชัดถ้อยชัดคำ: “หงส์ ฉันหวังว่าช่วงนี้ที่ฉันอยู่ในประเทศF ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นพี่น้องระหว่างเราสองคน ฉันคิดว่าเธอรู้ว่าฉันหมายความว่าอะไรใช่ไหม?”
แค่พูดออกไป สีหน้าของหงส์ก็เปลี่ยนไปทันที