แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1349 ตรงไหนที่ฉันดูโง่ขนาดนั้น
เพื่อป้องกันไม่ให้หงส์พูดอะไรที่ทำให้เข้าใจผิดออกมา บุริศร์จึงรีบเอ่ยปากออกมาก่อน: “หงส์ มีข่าวดีอะไรใช่ไหม? พี่สะใภ้เธอก็ฟังอยู่ด้วยพอดี ตอนนี้หิมะตกหนักออกไปไหนไม่ได้ บอกมาแล้วคงประจวบเหมาะที่จะทำให้พวกเรามีเรื่องที่น่ายินดีบ้าง”
คำพูดนี้ทำให้หงส์ชะงักเล็กน้อย
นี่เขากลัวว่าเธอจะพูดอะไรออกไปต่อหน้านรมนใช่ไหม?
ในใจของหงส์คำรามอย่างเย็นชา เธออยากให้นรมนรู้อะไรสิถึงจะถูก แต่เธอก็รู้ว่าขีดจำกัดของบุริศร์อยู่ตรงไหน ในเมื่อพูดอย่างนี้ก็เป็นคำเตือนอยู่ลางๆ เพื่อนรมนเขากำลังเตือนเธออยู่!
จุดนี้ทำให้หงส์เสียใจมาก
แต่เธอกลับพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ: “อืม ถือเป็นข่าวดีก็ได้ ราเชนพี่รองของฉันเพิ่งมาเมื่อกี้ เขาน่าจะหลุดพ้นจากการกักบริเวณแล้ว ก็ไม่รู้ว่าพระราชาหมายความว่ายังไง แต่ตอนนี้ปล่อยพี่รองออกมากลัวว่าจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร ฉันรู้ว่าพี่รองกับพี่สะใภ้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ดังนั้นจึงโทรมาแจ้งพวกเฮียก่อน เพื่อให้พวกเฮียสบายใจหน่อย แล้วก็ เขายังส่งองครักษ์คนหนึ่งมาให้ ชื่อโสธร เป็นคนของเฮียบุริศร์ใช่ไหม?”
ตอนที่นรมนได้ยินชื่อของโสธรก็ร้อนรนอย่างยิ่ง อยากจะพูดอะไรแต่โดนบุริศร์ปิดปากเอาไว้
“เป็นคนของฉัน ดูแลเขาให้ดีนะ เขามีบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อฉัน”
บุริศร์กำลังพูดเช่นนี้ มองนรมนที่ถลึงตาใส่เขาแต่กลับส่งเสียงออกมาไม่ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เขารู้ว่าตนเองเปิดเผยออกมาแล้ว
แต่หงส์กลับไม่รู้เรื่องของบุริศร์ที่ด้านนี้ ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ จึงค่อนข้างดีใจขึ้นมาทันที
“ฉันรู้อยู่แล้วที่เขาโดนหักแขนหักขาตอนแรกเป็นแผนการเฮียบุริศร์ ในเมื่อคนๆนี้โหดร้ายกับตนเองเพื่อแผนการของเฮียบุริศร์ ฉันก็จะช่วยเขาให้ได้ วางใจเถอะ”
“อื้ม งั้นก็ขอบคุณมากนะ”
พูดจบบุริศร์ก็ตัดสายไปทันที แล้วก็ปล่อยนรมนออกในเวลาเดียวกัน
นรมนไม่ได้โง่ เรื่องนี้บุริศร์รู้มาโดยตลอด เพียงแต่เธอทำให้ตนเองสบายใจถึงได้แสดงความใสซื่อและไร้เดียงสาออกมา แต่ตอนที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เธอยังคงสังเกตเห็นและรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว
กำลังมองท่าทีเอาอกเอาใจที่หมดหนทางของบุริศร์ ใจที่หวาดระแวงเล็กน้อยของนรมนค่อยๆปล่อยวางลงได้
“พูดมาสิ เกิดอะไรขึ้น?”
นรมนนั่งลงไป ทั้งยังหาถั่วจำนวนหนึ่งคิดจะกินถั่วระหว่างฟังนิทานไปด้วย
ท่าทางนี้ของเธอไม่เหมือนท่าทางของผู้หญิงที่มีลางสังหรณ์ว่าสามีมีชู้เลย
บุริศร์ส่ายหัวอย่างเอาใจ หยิบเครื่องแกะเปลือกอัตโนมัติไปให้นรมนแกะเปลือกถั่ว
แต่นรมนกลับมองทั้งหมด แล้วพูดขึ้น: “อย่างที่พูดๆกันว่าผู้ชายที่แอบมีข่าวคาวๆอยู่ข้างนอกจะกลับมาเอาใจใส่ภรรยาเป็นพิเศษ สงสัยว่าคำพูดนี่จะจริงนะ”
มือของบุริศร์หยุดเล็กน้อย
“นรมน ผมไม่ได้เจอหงส์ตั้งหลายปีแล้วนะ ครั้งนี้มาที่นี่ก็อยู่กับคุณตลอด สภาพอากาศด้านนอกหิมะก็ยังตกหนัก คุณคิดว่าผมจะไปมีอะไรกับเธอได้ยังไง?”
“ถ้าออกนอกลู่นอกทางด้วยความรู้สึกก็ไม่ถือว่าเป็นการนอกใจงั้นเหรอ? ระหว่างคุณกับหงส์ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ”
นรมนพูดอย่างมั่นใจ ดวงตาโตๆคู่สวยคู่นั้นกำลังจดจ้องบุริศร์อยู่
บุริศร์ปวดใจขึ้นมาทันที
เขาไม่อยากเห็นนรมนเสียใจที่สุด
“ผมกับเธอไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าจะให้บอกว่ามีเรื่องอะไรจริงๆ ก็คงเป็นข่าวลือที่แพร่ออกมาว่าผมจะแต่งงานกับเธอ”
แม้จะเป็นนรมนที่รู้สึกตัวได้รวดเร็วแต่จากเมื่อครู่ที่บุริศร์ปิดปากตนเองเอาไว้ไม่ยอมให้เธอบอกว่าโสธรเป็นคนของเธอ นรมนก็พบว่าบุริศร์กำลังปกป้องเธอ ปกป้องโสธร ส่วนน้ำเสียงของหงส์ที่พูดกับบุริศร์มาพร้อมกับการเอาความดีความชอบมาเป็นของตนเองและเบิกบานใจเล็กน้อย
การเอาความดีความชอบมาเป็นของตนเองอย่างนี้ไม่ใช่ท่าทีที่ลูกน้องมีต่อหัวหน้า เธอเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าฟังออกถึงความรักความศรัทธาของหงส์อยู่แล้ว แต่ตอนที่ได้ยินบุริศร์บอกว่าเขาเคยมีข่าวลือจะแต่งงานกับเธอ จึงอดไม่ได้ที่เจ็บปวดเล็กน้อย สีหน้าแย่ลงไปบ้าง
บุริศร์รีบพูด: “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะ นรมน คุณฟังผมค่อยๆเล่าได้ไหม?”
“ได้”
นรมนดีกับบุริศร์ แล้วก็ใจกว้างเสมอ แค่เขายอมพูด นรมนก็จะไม่รีบร้อนเลย เพียงแต่หัวใจที่สับสนกลับค่อนข้างเสียใจ
เธอรู้มาโดยตลอดว่าผู้ชายของตนเองประสบความสำเร็จและโดดเด่นมาก จึงมีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าที่อยากได้เขา แต่ก่อนมีนลิน มีตุลยา แล้วก็มีผู้หญิงอื่นๆอีก ภายหลังยิ่งไม่น้อยเลย นึกถึงตรงนี้ นรมนกลับจิตใจสงบลงได้บ้างแล้ว
เห็นนรมนจิตใจสงบแล้ว บุริศร์จึงเล่าเรื่องระหว่างตนเองกับหงส์ให้ฟัง
ในคำพูดของเขาไม่มีการเข้าข้างและปวดใจใดๆเลย เพียงแค่พูดเรื่องๆหนึ่งออกมาตรงๆโดยไม่ได้แต่งเติม กลับทำให้นรมนรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
“เพื่อช่วยคุณเธอจึงได้รับบาดเจ็บที่มดลูก? เป็นแม่คนไม่ได้อีกแล้ว?”
“ใช่”
“เรื่องนี้พระราชารู้ไหม?”
บุริศร์ชะงักเล็กน้อย แล้วส่ายหัวทันที
“หลายปีมานี้ ผมฝากให้จิ้งจอกเงินหาวิธีการรักษาเธออยู่ตลอด แน่นอนว่าก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกไป แต่ก่อนสหายที่ติดตามผมล้วนแต่เป็นคนสนิท ดังนั้นจึงไม่มีใครฝ่าฝืนความต้องการของผม ปัจจุบันเรื่องนี้นอกจากคุณ ผม วินเซนต์ จิ้งจอกเงินและหงส์ ก็ไม่มีใครรู้อีกแล้ว”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนจมลงไปในห้วงความคิด
ช่างเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่จริงๆ
ความรู้สึกอย่างนี้แย่มาก แต่นรมนกลับทำได้เพียงเผชิญหน้า เธอเชื่อว่าวิธีการมีมากกว่าความทุกข์เสมอ อีกอย่างต่อให้บุริศร์จะปกปิดเอาไว้จนถึงที่สุด แต่เธอก็มองออกว่าบุริศร์ใส่ใจหงส์
เป็นความใส่ใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับความรักระหว่างชายหญิง เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง เป็นการปกป้องที่มีต่อผู้มีบุญคุณ แม้เขาจะไม่อยากให้นรมนเสียใจ แต่บางเรื่องก็อยู่นอกเหนือจากการควบคุมของตนเอง
นรมนรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่
ศัตรูคนนี้เธอตีไม่ได้ด่าไม่ได้ ถึงกับแสดงความไม่พอใจใดๆไม่ได้เลย เพียงเพราะว่าเธอใช้ทั้งหมดของความเป็นผู้หญิงมาช่วยเหลือบุริศร์ แค่บุญคุณนี้ก็สามารถยุแยงความรู้สึกระหว่างเธอกับบุริศร์ให้แตกกันได้เป็นอย่างดี
ถ้าแต่ก่อนนรมนคาดหวังที่จะได้เข้าวังมากขนาดไหน ตอนนี้ก็คงจะปฏิเสธเท่านั้นแหละ ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมก่อนมาที่นี่บุริศร์ถึงอยากส่งตนเองกลับไป
ถ้าเธอตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ก็คงแย่มากแน่ๆ
ต่อให้หงส์จะทำอะไรเธออย่างลับๆ เธอก็คงบอกบุริศร์ไม่ได้ ยังถึงกับต้องแสดงท่าทีใจกว้างของตนเองออกมา ไม่งั้นเธอก็จะเนรคุณ แล้วก็จะทำให้บุริศร์เดือดร้อนไปด้วย
หมวกใบใหญ่อย่างบุญคุณนี้สามารถกดทับให้ตายได้เลย
นรมนกำลังมองบุริศร์ เธอเชื่อบุริศร์ ถ้าเขามีความรู้สึกกับหงส์ ตอนนี้ก็คงไม่มีเรื่องเธอตั้งนานแล้ว แต่ว่าเธอก็ยังทุกข์ใจ
“ขอโทษนะ นรมน จริงๆผมไม่อยากให้คุณรู้ ระหว่างผมกับเธอมันไม่มีอะไร แล้วก็จะไม่มีอะไรด้วย อีกอย่างพวกเรายังมีลูก ผมไม่……”
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำ ฉันไม่เคยสงสัยคุณเลย”
นรมนตัดบทคำพูดของบุริศร์ ยิ้มพูดขึ้น: “ในเมื่อเป็นผู้พระคุณของคุณ ก็ต้องเป็นของฉันด้วย คุณวางใจเถอะ แค่เธอไม่ทำจนเกินไป ฉันก็จะทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วก็จะไม่ทำอะไรเธอด้วย”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนี้ ความหมายของผมคือไม่ว่าตอนไหนคุณก็ต้องแน่ใจว่าตนเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้รับความลำบาก ต่อให้จะทำร้ายเธอ นั่นก็เป็นหน้าที่ของผม ผมติดค้างเธอ ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาชดใช้”
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ที่เขาไม่บอกนรมนก็กลัวว่านรมนจะใจดีเกินไป เพราะบุญคุณของเขาจึงทำให้ตนเองได้รับความลำบาก มาถึงประเทศFแล้ว พวกเขาแทบจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายและความลำบากมากมาย เขาไม่หวังให้ด้านในนี้ยังมีหงส์ที่พาความลำบากมาให้นรมนด้วย
“ฟังผมนะ ไม่ว่าตอนไหนก็อย่าให้ตนเองได้รับความลำบาก รู้ไหม? ถ้าคุณทำให้ตนเองได้รับความลำบาก ได้รับความเดือดร้อน ผมกลับไม่ใส่ใจเลยที่จะเป็นผู้ชายเนรคุณ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ในใจของนรมนมีความอบอุ่นทะลักขึ้นมา
เธอยิ้มกอดบุริศร์ พูดขึ้น: “ตรงไหนกันที่ฉันดูโง่ขนาดนั้น?”
“คุณโง่มาโดยตลอดนั่นแหละ ถ้าไม่โง่ จะมารักคนอย่างผมที่โดนลอบทำร้ายจนเดือดร้อนไปถึงคุณได้ยังไงล่ะ?”
“ฉันไม่ยอมให้คุณพูดถึงตนเองอย่างนี้นะ”
นรมนรีบปิดปากของบุริศร์เอาไว้
บุริศร์จึงโอบเอวของเธอ ริมฝีปากที่เร่าร้อนจูบลงไปทันที
พูดเรื่องนี้ออกมาแล้ว เขาไม่สบายใจมากๆ เขาไม่รู้ว่าหงส์จะทำอะไรนรมน แต่เขากลัวจริงๆว่า นรมนจะยอมโง่ทนหงส์เพื่อบุญคุณของเขา
อย่างนี้มันไม่ยุติธรรมกับนรมนเลย
แต่บุริศร์คิดง่ายจนเกินไป
เขากับนรมนเป็นสามีภรรยากัน สามีภรรยาก็คือคนๆเดียวกัน บุญคุณของบุริศร์นรมนคงไม่ทำลายอยู่แล้ว ถึงขั้นจะหาโอกาสชดใช้บุญคุณนี้แทนบุริศร์ด้วย เพียงแต่คำพูดนี้เธอพูดกับ บุริศร์ไม่ได้เท่านั้นเอง
ความต้องการของบุริศร์ฮึกเหิมขึ้นมา นรมนรู้ว่าเขากลัว ไม่สบายใจ ปวดใจ ความรู้สึกที่หลากหลายมัดแน่นเข้าด้วยกัน ซับซ้อนยุ่งเหยิง
นรมนตอบโต้กลับอย่างอบอุ่น ราวกับแค่อย่างนี้ถึงจะทำให้บุริศร์สบายใจลงได้
พายุหิมะที่ด้านนอกกำลังคำรามอย่างบ้าคลั่ง แต่ภายในห้องกลับอบอุ่น ราวกับฤดูใบไม้ผลิ
หงส์ไม่รู้อยู่แล้วว่าพวกเขาสามีภรรยาผ่านอะไรมาบ้าง หลังจากวางโทรศัพท์ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย บนใบหน้าถึงกับมีความเขินอายของหญิงสาวอยู่ด้วยบางๆ
ธีรตาอยู่กับหงส์มานานขนาดนี้ แต่ยังเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นองค์หญิงห้าที่เย็นชาเย่อหยิ่งแสดงท่าทีของสาวน้อยออกมา จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วหยอกเย้า: “องค์หญิง นี่องค์หญิงสนใจคุณชายตระกูลไหนอยู่ใช่ไหมคะ?”
หงส์ชะงักเล็กน้อย สีหน้าอ่อนลง
“ไม่มี องครักษ์คนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“หมอของเราไปตรวจดูแล้วค่ะ บาดเจ็บสาหัส ถึงจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่จะให้ฟื้นเหมือนต้องใช้เวลาสักระยะ อีกทั้งห้ามเคลื่อนย้ายด้วยค่ะ”
ก็เป็นครั้งแรกที่ธีรตาได้เห็นหงส์ใส่ใจผู้ชายคนหนึ่งอย่างนี้ หรือจะเป็นเพราะว่าองค์หญิงสนใจในตัวองครักษ์คนนั้นงั้นเหรอ? ก็ไม่น่าใช่นะ ใบหน้าขององครักษ์คนนั้นโดนทำร้ายจนบวมไปหมด มองใบหน้าเดิมไม่ออกอยู่แล้ว
ธีรตากำลังเดาเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินหงส์พูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ประกาศคำสั่งของฉันออกไป ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้าใกล้สถานที่รักษาองครักษ์คนนั้น ผู้ฝ่าฝืนไม่ยกโทษให้!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงอำนาจของตนเองออกมา
ธีรตาตะลึงไปเล็กน้อย ค่อนข้างหวาดกลัวขึ้นมาทันที ตัวสั่นไหวพูดขึ้น: “ถ้าเกิดเป็นพระราชาล่ะคะ?”
“ฉันบอกว่าใครก็ตาม เธอไม่เข้าใจหรือไง?”
รัศมีความมีอำนาจของหงส์ในตอนนี้ ทำให้ธีรตาตกใจจนต้องคุกเข่าลงไปบนพื้น เหงื่อเย็นๆผุดออกมา
“องค์หญิง พระราชาเป็นพ่อขององค์หญิงนะคะ! องค์หญิงทำอย่างนี้จะโดนตำหนิเอาได้นะคะ”
“แค่เขาไม่มายั่วโมโหฉัน ฉันคงไม่ทำปิตุฆาตหรอก แต่ถ้าเขาอยากจะยั่วโมโหฉันให้ได้ งั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกัน”
แววตาของหงส์ปรากฏความโหดร้ายออกมาพร้อมกับความเกลียดชังที่กลั้นเอาไว้ไม่ได้ เธอไม่เพิ่มการปกปิดเลยสักนิด ปลดปล่อยออกมาตามอำเภอใจ
ความเกลียดชังที่ซ่อนอยู่ลึกๆในใจมาหลายปี ตอนนี้บุริศร์มาแล้ว เธอยังมีอะไรให้ต้องกลัว ยังมีอะไรให้ต้องใส่ใจอีก?