แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1410 ให้พวกมันกลับไปอย่างไร้วิญญาณ
อรรณพไม่คาดคิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้ต่อฝีมือของนรมน พี่สะใภ้รองคนนี้ดูอ่อนแอ ทำไมถึงเรียนรู้วิธีของรมิดาภรรยาตนเอง?
ใครเป็นคนให้ยานอนหลับเธอ? วันไหนเขาจะต้องสับไอ้สารเลวนั่น!
อรรณพคิดเช่นนี้ ล้มลงอย่างไม่ยินยอมสุดๆ
นรมนกลับไม่คิดมากเกิน เธอออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีคำสั่งของอรรณพ คนอื่นก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ทำได้เพียงตลึงงันมองนรมนเดินออกไป
ที่นี่คือประเทศ F นรมนหัวเดียวกระเทียมลีบ และไม่สามารถลากจณัตว์เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อไร้หนทางเธอจึงโทรหากิมจิ
“คนของนายอยู่ห่างจากประเทศ F แค่ไหน?”
กิมจิคิดไม่ถึงว่านรมนจะนึกถึงตนเอง ถึงแม้เขาจะเตรียมตัวอยู่ตลอด แต่เมื่อได้รับสายจากนรมนจริงๆ กิมจิตื่นเต้น และพูดจาติดๆ ขัดๆ
“นายหญิง คุณเรียกหาผม? คุณไปทำอะไรที่ประเทศ F ครับ?”
“นายถามเยอะเกินแล้ว ฉันถามว่าคนของนายตอนนี้อยู่ห่างจากประเทศ F แค่ไหน?”
เสียงของนรมนเย็นชาลงทันที ดับความตื่นเต้นของกิมจิลงในพริบตา เขาถึงจะมีการตอบสนองว่าถ้านรมนไม่ไร้หนทางคงไม่โทรหาเขา
พูดอย่างไม่น่าฟัง พวกเขาคนเหล่านั้นถูกนรมนทอดทิ้ง ถึงแม้จะพูดให้น่าฟังคือให้พวกเขาปกป้องรักษาการก่อตั้งอาณาจักรรัตติกาลเก่าชั่วคราว แต่ใครก็รู้ดี หลังจากเรื่องนั้นพละกำลังทั้งหมดของนรมนอยู่ที่อาณาจักรรัตติกาลใหม่
วันนี้นรมนโทรหาเขา กิมจิมองเห็นความหวังอันเล็กน้อย
“พวกเราอยู่ห่างไม่มาก ถ้าใช้เฮลิคอปเตอร์ประมาณ 10 กว่านาทีจะไปถึง”
“งั้นรีบส่งคนมา ฉันไม่สนว่านายจะใช้อาวุธอะไรกลยุทธ์อะไร ฉันต้องการให้ประเทศ F เกิดความวุ่นวาย จำไว้นะ สถานที่ทำสงครามอย่าเลือกที่ตัวเมืองก่อน”
“ครับ”
ถึงแม้กิมจิจะสองขาพิการ แต่ช่วงนี้ได้เลื่อนตำแหน่งคนที่ใช้งานได้บางส่วน และคนอาณาจักรรัตติกาลรุ่นก่อนยังอยู่กันเยอะ ภายใต้การนำของกิมจิความสามารถไม่อาจมองข้ามได้
บุริศร์เคยจัดสรรเงินให้กิมจิจำนวนหนึ่ง บอกให้คนเหล่านั้นยกระดับคุณภาพชีวิต แต่กิมจิไม่ได้ใช้ซื้ออาหารเสื้อผ้าของกินใช้ กลับซื้อเครื่องบินรบปลดระวางจากกองทัพมาจำนวนหนึ่ง วันนี้ถือว่าได้นำออกไปใช้แล้ว
คนของอาณาจักรรัตติกาลเก่าถูกนรมนทอดทิ้งไปแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ถูกใช้งานใหม่ ต่างคนต่างตื่นเต้นสุดๆ แทบรอไม่ไหวที่จะแสดงพละกำลังเต็มเปี่ยมของตนเอง พยายามให้นรมนได้เห็น เพื่อให้พวกเขากลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมและความรุ่งโรจน์
เวลาที่รอคอยของนรมนคือความทรมาน
เธอรู้ว่าตนเองบุ่มบ่ามไม่ได้ ตอนนี้ถ้าไปช่วยบุริศร์ตัวคนเดียว เดาว่ายังไม่ทันเข้าใกล้ประตูพระราชวังก็คงถูกจับแล้ว และบุริศร์เป็นอย่างไรตนเองอาจจะไม่สามารถรู้ได้
ผ่านเรื่องราวมามากมาย นรมนไม่ใจร้อนอีก ถึงแม้ความไม่สบายใจจะแผ่ขยายไม่หยุด แต่เธอยังคงรอกองกำลังเสริม
อรรณพไม่ยอมอยู่ ยืนกรานจะพาตนเองไป นรมนรู้ว่ายุทธการนี่บุริศร์ไม่มีแผนที่จะชนะ เขายอมเอาตนเองเข้าไปอยู่ในอันตราย และไม่หวังให้เธออยู่
เดิมที่นรมนเชื่อฟัง แต่ถ้าการจากไปครั้งนี้จะไม่ได้เจอบุริศร์อีก หรือถ้าบุริศร์มีเรื่องอะไร เธอยอมอยู่ข้างกายเขา แม้จะเห็นด้วยตาก็ไม่อยากอยู่ห่างไกลเขาเกินไป
คนของกิมจิมาถึงอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าทีมจะเป็นพฤกษ์
นรมนแปลกใจ มองไปด้านหลังเขาโดยไม่รู้ตัว เมื่อไม่พบคมทิพย์ถึงจะโล่งใจ
“คุณมาได้ยังไง?”
“ผมกำลังจัดการธุระนิดหน่อยที่กิมจิ ได้ยินว่าคุณต้องการใช้คนก็เลยมา คุณนาย เกิดเรื่องขึ้นกับคุณชายบุริศร์ใช่ไหม?”
ความสัมพันธ์ของพฤกษ์กับบุริศร์เป็นอย่างไรนรมนรู้ดี ช่วงนี้เพราะพฤกษ์แต่งงานกับคมทิพย์ บุริศร์จึงไม่ได้ติดต่อเขานานแล้ว กลัวดึงเขาเข้ามาในสถานการณ์ที่ไม่สงบ จะทำให้ชีวิตของคมทิพย์เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด คิดไม่ถึงว่าพฤกษ์ยังจะมา
“คมทิพย์ล่ะ”
“เธออยู่ที่เมืองชลธี ผมมาเพราะมีธุระเล็กน้อย เดิมทีคิดจะนั่งเครื่องบินกลับไปคืนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคุณโทรหากิมจิ คุณนาย สถานการณ์ของกิมจิผมรู้ดีที่สุด คุณสามารถโทรหาเขาก็หมายความว่าคุณอับจนหนทางจริงๆ ไม่คิดว่าคุณกับคุณชายบุริศร์จะมาทำเรื่องสำคัญเช่นนี้ที่ประเทศ F อย่างเงียบๆ แถมยังทิ้งพวกเราไว้ข้างนอก ไม่เห็นผมกับคมทิพย์เป็นคนของตนเองแล้วเหรอครับ?”
พฤกษ์โมโหอยู่บ้าง แต่น้ำเสียงยังคงเคารพ บุริศร์ปฏิบัติต่อนรมนอย่างไรเขารู้ดีที่สุด
นรมนมองพฤกษ์ กล่าวเสียงเบา “คุณกลับไปเถอะ ในเมื่อบุริศร์ไม่อยากให้คุณเข้าร่วม คุณก็อย่าเข้ามาเลย”
“คุณนาย! คุณอยากให้ผมกลับไปบอกคมทิพย์ว่าคุณอยู่ที่นี่หัวเดียวกระเทียมลีบเหรอ? คุณคิดว่าถ้าเธอรู้ว่าคุณอยู่ในสภาพนี้แล้วผมไม่ช่วยเธอยังจะอยู่กับผมต่อไปไหมครับ?”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้นรมนพูดไม่ออก
จู่ๆ เธอก็นึกอะไรได้
“จริงด้วย ปัญญ์กับมายด์ก็อยู่ที่นี่ แต่อยู่ที่ตระกูลแหลมวิไล ตอนนี้สมชัยหาคนไปเฝ้าติดตามตระกูลแหลมวิไล ช่วงนี้พวกเขาออกมาไม่ได้ ถ้าคุณไม่อยากกลับไปก็หาวิธีพาพวกเขาออกมา”
นรมนยังไม่หวังให้พฤกษ์เข้าร่วม
พฤกษ์ไม่พูดอะไรอีก แต่สีหน้าอธิบายทุกอย่าง
นรมนอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ฉันไปครั้งนี้อันตรายเกินไป จะมีชีวิตกลับมาหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณฉันไม่สามารถอธิบายกับคมทิพย์ได้”
“ไม่ต้องอธิบาย ผมเป็นทหาร ถึงแม้ภารกิจครั้งนี้จะไม่มีผม ตอนนี้ผมได้เจอกับภาระกิจและหน้าที่ของผม คุณนาย ผมกับคุณชายบุริศร์เหมือนกัน ยังไม่ได้ดำเนินการปลดประจำการอย่างเป็นทางการ”
นรมนไม่พูดอะไรอีก
เธอมองคนเหล่านั้นของอาณาจักรรัตติกาล มีคนมากมายที่ไม่รู้จัก เดิมทีเธอก็ไม่ได้รู้จักคนของอาณาจักรรัตติกาลมาก แต่ในเมื่อได้รับการฝึกซ้อมจากกิมจิก็น่าจะใช้ได้
“ฉันขอออกคำสั่งพวกคุณในฐานะนายหญิงของอาณาจักรรัตติกาล ตามฉันมาเพื่อช่วยชีวิตบุริศร์หัวหน้าตระกูลโตเล็ก การไปครั้งนี้เป็นตายยากจะคาดเดา ถ้าในครอบครัวมีคนแก่และเด็กต้องดูแล ตอนนี้ให้ถอนตัวซะ!”
เสียงของนรมนดังกังวาน
ทุกคนต่างพูดเสียงดังก้อง “ไม่มี!”
เข้าไปในอาณาจักรรัตติกาลก็คือผู้พิทักษ์ของตระกูลโตเล็ก เป็นพนักงานสืบสวนคดีอาญาของประเทศ พวกเขาเคยถูกทอดทิ้ง วันเวลาเหล่านั้นยากที่จะทน วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสมาอยู่บนสนามรบ ใครก็ไม่ปอดแหก
นรมนมองเห็นพวกเราเลือดร้อนเดือดพล่าน หัวใจฮึกเหิมเล็กน้อย
“ออกเดินทาง!”
นรมนนำทหารวิ่งไปที่ประตูพระราชวัง
พฤกษ์พากองทัพเข้าทางประตูด้านข้าง ส่วนแกนนำที่กิมจิฝึกฝนมาใช้เครื่องบินรบเปิดฉากโจมตีชานเมืองทางฝั่งเหนือ ก่อตัวเป็นห่ากระสุนขนาดใหญ่ ทำให้สมชัยงงงันทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พระราชา ชานเมืองทางเหนือถูกเครื่องบินรบโจมตี ดูเหมือนเป็นเครื่องบินรบปลดระวาง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นการกระทำส่วนบุคคล”
“น่าเกลียดชัง!”
สมชัยโมโหอย่างยิ่ง นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าเขาโดยตรง
“ให้กองทัพอากาศของพวกเราเตรียมตัว ยิงตอบโต้ซะ ไม่ว่าเป็นใคร ให้พวกมันกลับไปอย่างไร้วิญญาณ”
“ครับ”
สงครามถูกจุดขึ้นในพริบตา
อรรณพลูบลำคอที่เจ็บปวดและส่ายหน้า ยกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือ ผ่านไปสิบกว่านาที เวลาออกฤทธิ์ของยานอนหลับครั้งนี้ค่อนข้างนาน
เขายังไม่ทันได้ผ่อนคลายก็ได้ยินลูกน้องมารายงานตรงหน้า
“คุณชายอรรณพ คุณนายบุริศร์พาอาณาจักรรัตติกาลเก่าไปที่ประตูพระราชวัง”
อรรณพชะงักไปเล็กน้อย หัวเราะขึ้นมาทันที
“สองคนนี้ คุณทำเพื่อฉัน ฉันทำเพื่อคุณ แต่ถึงแม้เธอจะเข้าไปแล้วจะเป็นยังไง? ให้คนของพวกเราโจมตีจากปีกซ้าย ไม่ว่าจะต้องจ่ายแพงแค่ไหน จำเป็นต้องพาคุณนายบุริศร์ออกมาอย่างปลอดภัยให้ฉัน”
“ครับ”
ลูกน้องออกไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาของอรรณพกลับเคร่งขรึม
เขาล้วงหยกเลือดออกมาจากกระเป๋า น่าประหลาดใจเพราะเป็นชิ้นที่คอบุริศร์ เป็นคู่กับที่หยิบออกมาจากในโรงเก็บของบ้านตระกูลโตเล็กก่อนออกมาจากเมืองชลธีกับนรมน
ก่อนหน้านี้ไม่นานบุริศร์ทิ้งหยกเลือดชิ้นนี้ให้เขา และกำชับว่า จำต้องรอนรมนกลับมาเมืองชลธีถึงจะส่งให้เธอ
สถานการณ์ตอนนั้น บุริศร์ไม่มีทางตีฝาวงล้อมได้อย่างแน่นอน เขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะจบชีวิตลง
เขาไม่อยากให้นรมนตายกับเขา แต่นรมนคนหัวดื้อจะฟังเขาได้อย่างไร?
อรรณพถอนหายใจ แววตามีความโศกเศร้า
เขากับบุริศร์เป็นพี่น้องกัน ความรู้สึกไม่มีกำลังพอจะช่วยอะไรได้ทำให้เขารับไม่ได้จริงๆ
สถานะของเขาในกรณีที่ถูกคนสืบออกมา ไม่ใช่แค่เพียงความขัดแย้งของตระกูลเชาวนภูติกับประเทศ F มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัวพันไปถึงคนมากมาย ในวินาทีนี้เขาอิจฉานรมน ที่กล้าได้กล้าเสีย สมกับที่เขาเรียกเธอว่าพี่สะใภ้รอง
เนื่องจากนรมนหนีเขาไปจากที่นี่ ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจปล่อยเธอไป ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นการขัดต่อการให้คำมั่นสัญญาของบุริศร์ ถ้านรมนกลับไปได้ทัน อาจช่วยชีวิตบุริศร์เอาไว้ก็ได้
คิดเช่นนี้ อรรณพเรียกลูกน้องทันที
“ให้คนของพวกเราสวมเครื่องแบบอาณาจักรรัตติกาลเข้าไปปะปนกับกองทัพของนรมน ใครก็ตามที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อเธอและบุริศร์ ฆ่าทิ้งซะ จำเอาไว้ คนที่สวมเครื่องแบบอาณาจักรรัตติกาลเป็นคนของนรมน ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับฉันอรรณพคนนี้ เข้าใจไหม?”
ประโยคนี้แสดงให้เห็นชัดเจน เขาให้นรมนยืมคนของตนเอง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจริง คนเหล่านั้นจะถูกอรรณพทอดทิ้ง ไม่สามารถสารภาพว่าเป็นคนของเขาได้
“ครับ!”
ลูกน้องไปจัดการอย่างรวดเร็ว
นรมนไม่รู้สิ่งเหล่านี้ เธอพาคนต่อสู้มาถึงประตูพระราชวัง
นี่เป็นการทำสงครามครั้งแรกของเธอ และเป็นครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับความตายอันโหดร้ายเช่นนี้ คนตรงหน้าที่ยังมีชีวิตเมื่อวินาทีที่แล้ว วินาทีต่อมาจมอยู่ในกองเลือด ดวงตาหลับสนิทตลอดกาล
ทุกที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดง สะเทือนเบ้าตาของเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะบุริศร์อยู่ที่นี่ เธออาจจะสลดใจ ขี้ขลาด แต่เพราะด้านในมีชายสุดที่รักของเธอ สำหรับเธอทั้งหมดนี้ก็แค่สิ่งกีดขวาง
นรมนไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนต่อสู้เก่ง แต่ในตอนนี้เลือดร้อนภายในร่างกายเดือดพล่าน ได้ยินเสียงกระสุนดังข้างหู ในสมองของเธอมีเพียงบุริศร์
ในที่สุดเธอก็เห็นบุริศร์ ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นรัว
ข้างกายบุริศร์คือองครักษ์ของสมชัย ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเลือด ไม่รู้ว่าเป็นของตนเองหรือคนอื่น และในตอนนี้ดูเหมือนบุริศร์จะหมดสติไป ถูกคนลากเข้าไปในพระราชวัง รอยเลือดลากเป็นทางยาวบนพื้น ทิ้งร่องรอยยาวมากเอาไว้ แทงเข้าที่ดวงตาของนรมนในพริบตา
เขาเป็นคนรักสะอาดขนาดนั้น เป็นคนองอาจห้าวหาญ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะถูกคนลากเหมือนหมาตาย ทำไมคนเหล่านี้ถึงทำกับบุริศร์ของเธอเช่นนี้
เป็นไปได้อย่างไร?!