แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1464 แกยังถือว่าเป็นคนอยู่เหรอ?
ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึมลงมาหลายส่วน
“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นแบบนั้น”
“งั้นจะทำยังไงดีคะ? ฉันยังคิดอยู่เลยว่าจะให้ปาณีจับตัวคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไว้ให้ได้ แล้วบีบให้ดร.ฐานทัตให้มายอมจำนนกับทางเรา”
นรมนรู้สึกว่าตัวเองคิดได้ง่ายเกินไปแล้ว
ที่ผ่านมาเธอคิดมาตลอดว่าที่ดร.ฐานทัตวิจัยเลือดของนภดลนั้นเป็นเพราะงานของตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าดร.ฐานทัตจะไปร่วมมือกับคนอื่น หรือจะบอกว่าเริ่มตั้งแต่แรกดร.ฐานทัตก็ได้ทำงานให้กับคนอื่นอยู่แล้วเหรอ?
งั้นตกลงคนคนนั้นคือใครกันนะ?
จิตใจของนรมนซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยแล้ว
บุริศร์เห็นเธอดูเป็นกังวลเล็กน้อย ก็รีบกุมมือของเธอไว้แล้วพูดขึ้นว่า “บางทีพวกเราอาจจะสามารถใช้แผนซ้อนแผนก็ได้”
“หมายความว่าไงคะ? ปาณีจะตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมากเลยนะคะ”
ที่จริงนรมนไม่ได้อยากจะใช้ปาณีเป็นเหยื่อล่อสักเท่าไหร่เลย
บุริศร์เองก็รู้ถึงจุดนี้ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นให้คิดได้แล้วจริง ๆ
“ก็ได้ค่ะ พวกเราจะสามารถรับรองได้ว่าปาณีจะต้องไม่เป็นอันตรายใช่ไหมคะ?”
“รับรองความปลอดภัยไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก”
บุริศร์ไม่สามารถตอบนรมนไปอย่างนั้นได้จริง ๆ ถึงแม้จะรู้ว่าการพูดแบบนี้จะทำให้เธอไม่สบายใจ แต่ว่าเรื่องบางเรื่องนั้นปิดบังไม่ได้จริง ๆ
“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณไปจัดการเถอะ หรือว่าจะให้นภดลรู้เรื่องนี้ดีคะ?”
“ผมขอคิดดูก่อนนะ”
บุริศร์ไม่ได้รับปากไปในทันที และก็ไม่ได้ปฏิเสธในทันทีด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับนรมนแล้ว แบบนี้ถึงจะเป็นช่วงยากลำบากที่สุด
ความรู้สึกที่นภดลมีต่อปาณีในตอนนี้กำลังเริ่มฟื้นคืนกลับมาแล้ว แถมยังดูเหมือนจะมีความอยากตอบสนองกลับอยู่ด้วยเสี้ยวหนึ่ง ถ้าหากให้นภดลรู้สภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้ ไม่แน่อาจจะหดหัวกลับเข้าไปในกระดองอีกครั้ง ถ้างั้นปาณีกับเขาเมื่อไหร่ถึงจะสามารถผลิดอกออกผลได้ล่ะ?
นรมนรู้สึกว่าคู่นี้เป็นคู่ที่มีเคราะห์กรรมมากที่สุดคู่หนึ่งเลย
“เอาล่ะ คุณพักผ่อนไปให้ดี ๆ เรื่องอื่นมอบให้เป็นหน้าที่ผมดีไหม?”
จ้องมองดวงตาที่สวยงามราวกับหงส์ของบุริศร์ อยู่ ๆ นรมนก็เกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
“ได้ค่ะ”
บุริศร์ลูบหัวของนรมนเล็กน้อยแล้วก็เดินออกไปเลย
เขามาถึงห้องหนังสือ หัวคิ้วขมวดเข้าด้วยกันแน่น
“ชัยยศ ตัวนภดลล่ะ? ให้เขามาพบฉันหน่อย”
สุดท้ายแล้วบุริศร์ก็ตัดสินใจว่าจะปรึกษากับนภดลดูสักหน่อย ถ้าเกิดปาณีเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา แล้วนภดลไม่รู้ต้นสายปลายเหตุละก็ ก็จะไม่ยุติธรรมกับเขามากจริง ๆ
ชัยยศอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็โทรศัพท์หานภดล แต่ว่าโทรศัพท์ของนภดลนั้นไม่คนรับสายเลย
นภดลสวมใส่เสื้อผ้าที่ปาณีซื้อให้ตัวเองแล้วมาถึงร้านอาหารที่ตัวเองจองไว้ จ้องมองผู้คนไป ๆ มา ๆ ในนี้ เขาก็จินตนาการถึงท่าทางที่ตกใจของปาณีในตอนที่เห็นตัวเอง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย
ในช่วงชีวิตที่มีขีดจำกัดของเขา นอกจากฉัตรยาที่นำความสุขมาให้เขาแล้ว ก็เหมือนกับว่าเขาจะไม่มีเรื่องอะไรอื่นที่สามารถมาดึงดูดประสาทสัมผัสของตัวเองได้ มาวันนี้มีปาณีเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง เพียงแค่นึกถึงผู้หญิงคนนี้ นึกถึงท่าทางที่เขินอายของเธอ นึกถึงท่าทางร้องห่มร้องไห้ของเธอ หรือแม้แต่แค่นึกถึงตัวเธอคนนี้เขาก็รู้สึกว่าจิตใจเบิกบานเป็นอย่างมาก และมีความสุขเป็นอย่างมากด้วย
บางทีปาณีอาจจะเป็นแสงสว่างของเขา มาวันนี้เพื่อที่จะจับแสงสว่างอันนี้ให้อยู่แล้ว เขาสามารถที่จะไม่สนใจอะไรเลย
นภดลสั่งน้ำเปล่ามาแก้วหนึ่ง ทุกวันนี้เขายังไม่ชอบดื่มรสชาติของกาแฟ รู้สึกว่ามันเหมือนขี้แมว และก็ไม่รู้ว่าทำไมคนอื่น ๆ ถึงได้ชอบดื่มกันมากขนาดนั้น
เพื่อที่จะไม่ให้เรื่องอื่น ๆ มารบกวนการนัดเดทของพวกเขา นภดลก็ได้ปิดเครื่องโทรศัพท์ไปแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ได้มอบหมายงานของอาณาจักรรัตติกาลไว้ชัดเจนหมดแล้วด้วย เขาจะให้เวลาว่างออกมาทั้งบ่ายเพื่อตั้งใจมานัดเดทกับปาณีสักหน่อย
ตามองเห็นว่าใกล้ถึงเวลานัดเดทเข้ามาทุกที ใจของนภดลยังไงก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง
อีกเดี๋ยวถ้าปาณีมาเห็นว่าตัวเองอยู่ที่นี่จะมีปฏิกิริยายังไงบ้างนะ?
จะตกใจหรือเปล่านะ?
และตัวเขาจะพูดอะไรสักหน่อยไหม?
แต่ว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมาก็นานขนาดนี้แล้ว ปาณีเองก็ตามจีบเขามานานขนาดนี้ เขายังเคยจูบเธอมาแล้วด้วย คำพูดบางอย่างคงจะไม่ต้องพูดแล้วมั้ง?
น่าอายจะตายไป
พอคิดมาถึงตรงนี้ หูของนภดลก็แดงขึ้นมาเลย
ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาใสซื่อถึงเพียงนี้
คนในร้านอาหารยิ่งอยู่ก็ยิ่งเยอะ ตอนแรกนภดลกะว่าจะจองทั้งร้าน แต่เขามาลองคิดดูแล้ว เรื่องระหว่างตัวเองกับปาณีจำเป็นที่จะต้องมีคนมาเป็นสักขีพยานสักหน่อย และมีคนมาเป็นสักขีพยานมากขนาดนี้ปาณีก็น่าจะชอบนะ
นภดลจ้องมองเวลาไม่หยุด ตามองเห็นว่าถึงเวลานัดหมายแล้ว แต่ว่าปาณีก็ยังไม่มา นภดลจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย
ปาณีไม่ใช่คนที่จะมาสายได้ คนอย่างเธอนั้นปกติแล้วมีวินัยในตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็จะเตรียมตัวล่วงหน้าให้เรียบร้อย หรือวันนี้เพื่อผู้ชายคนนั้นแล้วยังแต่งตัวอยู่อีกเหรอ?
ว่ากันว่าผู้หญิงจะแต่งตัวเพื่อคนที่ชื่นชมตัวเอง คงจะไม่ได้เกิดความรู้สึกกับหมอคนนั้นแล้วจริง ๆ หรอกนะ?
พอคิดมาถึงตรงนี้นภดลก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ว่าไม่เป็นไร เขาจะทำให้ทั้งดวงตาทั้งหัวใจของปาณีมาเป็นของเขาให้เร็วที่สุดแน่
พอคิดมาถึงตรงนี้ นภดลก็มีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม
ตอนเที่ยงเป็นช่วงที่ลูกค้าเยอะที่สุด แต่ว่าคนแต่ละโต๊ะต่างก็ออกไปกันหมดแล้ว แต่ปาณีก็ยังไม่มา
จิตใจที่ตื่นเต้นดีใจของนภดลในตอนแรกนั้นยังไงก็ยังผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีความดีใจเพิ่มขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
ปาณีไม่รู้ว่าคนที่มานัดดูตัวที่นี่เปลี่ยนเป็นเขาแล้ว เพราะฉะนั้นที่เธอไม่มาก็แสดงว่าเธอไม่ได้ชอบหมอคนนั้นใช่ไหม ก็เลยผิดนัดไปเลย?
พอคิดได้แบบนี้ ในใจของนภดลก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเยอะเลย
เขาเอาโทรศัพท์ออกมา และเปิดเครื่องออก แล้วก็เห็นสายเรียกเข้ามากมายที่ชัยยศเป็นคนโทรเข้ามา นภดลก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ดูเบอร์ที่ไม่ได้รับสายอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีเบอร์ของปาณีเลยสักอัน
นี่มันจริง ๆ เลย
ในตอนที่นภดลกะว่าจะโทรถามชัยยศสักหน่อยว่าโทรหาตัวเองทำไมนั้น อยู่ ๆ ก็มีเบอร์แปลก ๆ เบอร์หนึ่งโทรเข้ามาซะก่อน
เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็กดวางสายไป จากนั้นเบอร์แปลก ๆ นั่นก็โทรเข้ามาอีกครั้ง
นภดลหรี่ตาลงทีหนึ่ง แล้วก็รูดหน้าจอรับสายอย่างโกรธเคืองเล็กน้อยขึ้นมา
“ใคร?”
น้ำเสียงของนภดลไม่ได้ดีมากนัก แต่ว่าทางนั้นกลับมีเสียงหัวเราะเยาะของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ดังลอยมา
“นี่ น้ำเสียงตอนนี้นี่อย่างกับเป็นผู้สูงส่งแล้วนะ แต่ว่านายเองก็ไม่คิดดูสักหน่อยนะว่าตัวเองเป็นตัวอะไร แกยังถือได้ว่าเป็นคนอยู่เหรอ? อย่าลืมไปซะล่ะว่าแกเป็นสัตว์ประหลาดที่ฐานทัตของเราวิจัยออกมา! พอให้เกียรติแกเข้าหน่อย แกก็คิดว่าตัวเองเป็นคนจริง ๆ แล้วเหรอ นภดล ฉันจะบอกแกให้นะ ทางที่ดีแกพูดจาให้มันมีมารยาทกับฉันหน่อย ไม่งั้นละก็……”
ตอนที่ได้ยินเสียงของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นสีหน้าของนภดลก็ดูไม่ดีเอามาก ๆ เลย แล้วตอนนี้มาได้ยินคำพูดแบบนี้ของเธอนภดลก็อยากจะวางสายไปเลย แต่แล้วก็ได้ยินคุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดขึ้นว่า “นภดล ถ้าแกกล้าวางสายไปละก็ ปาณีก็จะต้องชะตาขาดแน่”
“คุณว่าอะไรนะ?”
ใจของนภดลบิดตัวกันขึ้นมาทันที
ทำไมปาณีถึงไปอยู่ที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้?
อยู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่าปาณีไม่ใช่คนที่จะผิดนัดได้ และที่สำคัญผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนที่นรมนแนะนำให้ ซึ่งถึงแม้ว่าปาณีจะไม่อยากไป ก็ไม่มีทางที่จะผิดนัดและปล่อยให้เขารอเก้อนี่ เพราะฉะนั้นเกิดเรื่องขึ้นกับเธอแล้วใช่ไหม?
พอคิดมาถึงตรงนี้แล้ว นภดลก็เริ่มไม่สงบนิ่งแล้ว
“คุณทำอะไรกับปาณี?”
ถึงแม้ว่านภดลจะถามไปแบบนี้ แต่ในใจยังคงรู้สึกโชคอยู่เสี้ยวหนึ่ง ในเมื่อปาณีกับตัวเองได้ไปฝึกฝนพิเศษที่เกาะร้างมาแล้ว จะรับมือกับคนอย่างคุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นก็น่าจะไม่คณนามือหรอก ไม่แน่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์อาจจะกำลังหลอกลวงตัวเองอยู่
เหมือนจะรู้ว่านภดลกำลังคิดอะไรอยู่ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็หัวเราะแล้วก็พูดขึ้นว่า “ที่จริงด้วยตัวฉันถ้าอยากจะจับตัวยัยเด็กปาณีนั่นไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะมีฝีมือพอตัว แต่ว่าเธอเป็นห่วงเป็นใยแกมากเกินไป พอได้ยินว่าแกตกอยู่ในเงื้อมมือฐานทัต ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรแล้วก็พุ่งเข้าไปข้างในเลย พวกเราก็แค่ใส่เครื่องหอมที่มีส่วนผสมของยานอนหลับไว้ในอากาศสักหน่อย เธอก็ล้มลงแล้ว นภดล ในเมื่อแกชอบเธอซะขนาดนั้น แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับเธอดีถึงจะทำให้แกจิตใจแตกสลายและเจ็บปวดเจียนตายได้?”
สีหน้าของนภดลเคร่งขรึมลงทันที
“คุณอย่าทำร้ายเธอนะ! มีเรื่องอะไรคุณก็มาลงที่ผมนี่!”
พอคิดถึงการกระทำพวกนั้นของดร.ฐานทัตและคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ นภดลก็ตัวสั่นเทาขึ้นมาเลย แล้วตอนนี้ปาณีไปตกอยู่ในมือของหล่อนแล้วยังจะมีเรื่องดีอีกเหรอ?
อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมปาณีต้องไปหาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ด้วยล่ะ?
เธอจะมานัดดูตัวกับผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ?
เพียงแต่ว่ามาคิดเรื่องพวกนี้ตอนนี้ก็เหมือนกับว่าจะไม่ทันการณ์ซะแล้ว
พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้ยินเสียงนภดลร้อนใจ ก็รู้สึกได้ใจเป็นอย่างมาก
“นี่แกยังกล้ามาออกคำสั่งกับฉันอีกเหรอ? ยัยเด็กนี่ทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้าที่ห้างไปหมด แกยังจะมาช่วยเธออีก มีแกคอยหนุนหลังเธออยู่ เธอก็เลยรู้สึกว่าคนทั้งโลกจะต้องมาทนดูสีหน้าเธอใช่ไหม? นภดล ทางที่ดีแกต้องมาให้ถึงภายในสิบนาที ไม่งั้นฉันไม่กล้ารับประกันหรอกนะ ว่าจะทำอะไรยัยเด็กนี่ไปบ้าง”
พูดจบคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็วางสายไปเลย และยังส่งที่อยู่อันหนึ่งมาให้นภดลด้วย
ที่อยู่อันนี้นภดลรู้สึกไม่คุ้นเคยเลย เหมือนกับว่าจะอยู่บนเขา
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไปทำอะไรบนเขานะ?
ไม่ใช่ซิ น่าจะบอกว่าปาณีไปทำอะไรบนเขาต่างหาก?
นภดลโทรหาชัยยศเป็นอันดับแรก
“โธ่เอ๊ย นภดล นายนี่ประสาทหรือเปล่า? ไม่มีธุระอะไรปิดเครื่องทำไม? ประธานบุริศร์ตามหาตัวนายตั้งนานแล้ว โทรก็ไม่ติด เกิดเรื่องขึ้นกับปาณีแล้ว”
ถ้าหากคำพูดของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทำให้นภดลรู้สึกว่าเป็นการกลั่นแกล้งที่ชั่วร้ายครั้งหนึ่งละก็ งั้นคำพูดของชัยยศก็ทำให้จิตใจของนภดลหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
“คุณนายตระกูลจันทรวงศ์บอกกับปาณีว่ารู้เรื่องความลับใหญ่เกี่ยวกับร่างกายของนายอันหนึ่ง ปาณีก็เลยวิ่งไปหาเลย ใครจะไปรู้ว่าดร.ฐานทัตได้ร่วมมือกับใครไว้ รอบข้างก็เลยมีแต่ทหารรับจ้างเต็มไปหมด ปาณีพาคนไปสี่คนล้วนโดนคนเขาจับตัวไว้หมดแล้ว และที่สำคัญปาณียังนึกว่านายอยู่ข้างในด้วย นายไม่มีธุระอะไรแล้วปิดเครื่องทำไม?”
ถึงแม้ว่าชัยยศจะพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่ว่านภดลก็ได้เข้าใจแล้ว
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์นัดปาณีไว้ และเพราะว่าตัวเองปิดเครื่องไว้ปาณีก็เลยนึกตัวเองเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ เพราะฉะนั้นถึงได้วิ่งไปหา แต่ปรากฏว่าได้เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วยเลย
ในเวลานี้นภดลกลับสงบนิ่งลงมา
ที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์จับตัวปาณีไปก็เพื่อที่จะล่อตัวเองไป แล้วไปทำอะไรล่ะ?
นภดลนึกถึงคำพูดของชัยยศ มีคนร่วมมือกับดร.ฐานทัตแล้ว เพราะฉะนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาก็คือตัวเขา หรือจะบอกว่าคือเลือดของเขา!
จู่ ๆ ความคิดก็โดนเปิดออก สีหน้าของนภดลก็ดูแย่อย่างปิดปกติ
เพราะว่าปัญหาเรื่องเลือดของตัวเอง ตั้งแต่เล็กจนโตมาเขาต้องแบกรับอะไรมาเยอะมาก มาวันนี้ยังทำให้ปาณีติดร่างแหไปด้วย แต่ว่าเขาก็ยังจำได้ว่านรมนเคยบอกไว้ ว่าเธอต้องการเลือดของเขา อาทิตย์ละ400CC มาตอนนี้ถ้าดร.ฐานทัตจับตัวตัวเองไป งั้นร่างกายของนรมนจะทำยังไงล่ะ?
ชั่วขณะหนึ่งนภดลเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
คนหนึ่งคือผู้มีพระคุณของตัวเอง คนหนึ่งคือผู้หญิงของตัวเอง เขาควรจะเลือกยังไงดี?
หัวสมองของนภดลหมุนวนไปอย่างรวดเร็ว
จู่ ๆ เขาก็เข้าใจอะไรขึ้นมา จากนั้นก็โทรศัพท์หาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์
“ถ้าหากคุณกล้าทำร้ายปาณีแม้แต่เส้นผมเส้นเดียว ผมก็จะปล่อยเลือดทั้งหมดที่อยู่ในตัวของผมให้แห้งไปจนหมด อย่างมากผมก็แค่ตาย ทุกคนก็สู้กันจนตัวตายเท่านั้น สามารถตายพร้อมกับปาณีได้ ผมเองก็ไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว”
พอคำพูดนี้พูดออกไป คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็โมโหขึ้นมาทันทีเลย
“แกกล้าเหรอ!”
“คุณลองดูซิ ถ้าผมเห็นว่าบนตัวปาณีมีบาดแผลแม้แต่นิดเดียว หรือว่าอารมณ์ไม่ดีละก็ ผมก็จะลงมือกับตัวเองทันที ในเมื่อชาตินี้ผมก็ไม่มีทางที่จะมีความสุขอะไรได้ ความเป็นความตายสำหรับผมแล้วก็ไม่สำคัญอะไร เพียงแต่ว่าถ้าผมตายไป พวกคุณยังจะสุขสบายอย่างนี้ได้อีกเหรอ?”
นภดลยิ้มเย็นขึ้นมา แล้วมีความรู้สึกแบบจบสิ้นที่เห็นความตายเป็นแค่เรื่องธรรมดา และพร้อมที่จะตายไปด้วยกันให้หมด อยู่ ๆ ก็ทำให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตกใจขึ้นมาเลย
“นภดล แกจะทำอะไรกับเลือดของตัวเองไม่ได้นะได้ยินหรือเปล่า? ฉันไม่อนุญาต!”
แค่คำพูดประโยคเดียวก็ทำให้นภดลเข้าใจความต้องการของพวกเขาแล้ว
ที่แท้ก็คือเลือดของเขาเอง!