แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1471 ผมชอบคุณ
แรงนิดหน่อยแค่นี้ไม่หนักหนาอะไรสำหรับนภดล ตั้งแต่เล็กจนโตเขาบาดเจ็บหนักหนากว่านี้มาก แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้เขามีความสุขอย่างนี้
ความสุข!
สองคำนี้เขาเคยคิดว่าช่างห่างไกลจากตัวเองนัก ห่างไกลจนเป็นได้แค่จินตนาการเพ้อฝัน ไม่เคยรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างไร ไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
คนที่ทำให้เขาเข้าใจทุกอย่างคือปาณี ผู้หญิงที่ดูอ่อนแอเปราะบาง
ดูแล้วเธออาจจะไม่สวยเท่าฉัตรยา ไม่แข็งแกร่งเท่าฉัตรยา บางทีเซ่อๆ ซ่าๆ แต่ทำให้รู้สึกสบายใจ รู้สึกอบอุ่น
ก่อนหน้านี้นภดลเข้าใจมาตลอดว่าความรู้สึกระหว่างตัวเองกับฉัตรยาคือความรัก แต่ตอนนี้เขาถึงเพิ่งแยกแยะได้ชัด เขารู้สึกซาบซึ้งใจกับฉัตรยามาตลอด
เขาอยากใกล้ชิดเธอ ไม่ใช่เพราะความชอบ ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะตอนนั้นฉัตรยาก็คือผู้ช่วยชีวิตเขา
เธอคือแสงสว่างหนึ่งเดียวในชีวิตมืดหม่นของเขา รอยยิ้มของเธอ ความใส่ใจของเธอ ความวางอำนาจของเธอทำให้นภดลไม่อาจปฏิเสธได้ ทว่านี่ไม่ใช่ความรัก
หรือจะพูดให้ถูกก็คือการแสวงหา ความรักและการแสวงหาแสงสว่าง
ทั้งสองคนเป็นคู่กันมาตั้งแต่เด็ก ที่จริงส่วนใหญ่แล้วเหมือนญาติกันมากกว่า เพราะเขาไม่เคยหวั่นไหวกับฉัตรยาแม้ว่าฉัตรยาจะเคยคลอเคลียจูบเขา ใจเขาเหมือนน้ำนิ่ง เพียงแต่ตอบสนองโดยไม่รู้ตัวเท่านั้น
แต่ปาณีไม่เหมือนกัน
เขาอยากเข้าใกล้ปาณี ตอนที่จูบเธอความรู้สึกหวั่นไหวอยากจะทำต่อไป อยากจะทำให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคือผู้หญิงของตัวเองที่แท้จริง ความรู้สึกหวงแหนนั้นไม่เคยเป็นมาก่อน
ในใจนภดลกระจ่างชัด
ปาณีกัดฟันจนรู้สึกปวด นภดลไม่มีท่าทีอะไร ตัวเองกลับเหมือนคนบ้าแล้ว
เธอปล่อยนภดล ก็เห็นนภดลยิ้มกริ่มมองตัวเอง สายตารักหลงใหลทำให้เธออึ้งไป
“คุณยิ้มบ้าอะไร ไม่ใช่ถูกฉันกัดจนเพี้ยนนะ แย่แล้ว”
ปาณีเพิ่งจะพูดศีรษะก็ถูกนภดลดีดนิ้วเข้าให้
“คุณตีฉันทำไม เกิดฉันเพี้ยนไปจะแต่งกับฉันมั้ย”
“ผมแต่ง”
นภดลยิ้มมุมปาก แต่ทำให้ปาณีตะลึงงัน
ราวกับเธอได้ยินคำพูดที่แฝงด้วยเจตนาชู้สาว ตกใจจนรีบกระโดดถอยหลัง ใบหน้าที่มองเป็นนภดลเชิงระมัดระวังตัว
“คุณไปเจออะไรมา”
ปาณีไม่อาจเข้าใจคนที่เย็นชาจู่ๆ ก็มองเธอสายตารักใคร่ ความเปลี่ยนแปลงกะทันหันเกินไป ทำเอาเธอตั้งตัวไม่ทัน
นภดลเห็นท่าทางน่ารักของเธออย่างนี้ รอยยิ้มที่มุมปากเพิ่มขึ้นอีกมาก
“เธอคิดว่าใครก็ซักของใช้ส่วนตัวผมได้หรือไง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของปาณีก็แดงเรื่อทันที
“ไม่พูดเรื่องนี้ไม่ได้หรือไงคะ”
“ไม่ได้”
นภดลขยับมาใกล้เตียงของปาณี ดวงตาสีฟ้าคล้ายกับน้ำกระเพื่อม ทำให้มองแล้วใจสั่น
ปาณีรีบหันหน้าหนี
เจ้าเล่ห์
เธอพูดในใจ ก็ได้ยินเสียงนภดลพูด “ปาณี”
“คะ”
“ผมชอบคุณ”
คำพูดนี้ทำให้ปาณีตะลึงงันอยู่ตรงนั้น
บางทีอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทุ่มเทไปไม่มีทางได้รับการตอบแทน หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะรู้สึกว่าในใจ นภดลมีฉัตรยา ตัวเองไม่มีวันแทรกเข้าไปได้ ปาณีจึงไม่เคยวาดหวังในชีวิตนี้จะได้ยินนภดลพูดเช่นนี้
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาพูดออกมา แต่ยังพูดต่อหน้าเธอ กระทั่งคิ้วเชิดขึ้นท่าทางเหมือนกับครอบครองโลกทั้งใบนี้ ช่างเหมือนความฝันลอยล่อง ไม่เหมือนความจริงเอาเสียเลย
เห็นปาณีมองตัวเองเงอะงะ ที่จริงในใจนภดลทำตัวไม่ถูก
บุริศร์บอกว่าเธอคิดจะเลิกรักเขา คิดจะไปรักคนอื่นแล้ว นั่นจริงมั้ยนะ
หรือว่ามันสายไปแล้ว เขาบอกรักช้าไป เธอเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้วอย่างนั้นหรือ
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สายตาของนภดลก็เคร่งขรึมขึ้น
เขาลุกขึ้น ก้าวเดินไปหาปาณีช้าๆ
ปาณีก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี การตอบสนองในจิตใต้สำนึกก็คือคิดจะหนี แต่ถูกมือของนภดลช้อนตัว ดึงเข้ามาในอ้อมกอด
“ผมแค่บอกชอบคุณ คุณจะหนีทำไม”
นภดลยิ้มมุมปากอีกครั้ง
ปาณีใบหน้าร้อนผ่าว กระทั่งไม่กล้าเงยหน้า
“อย่าล้อเล่นค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณสงสาร”
“สงสารอะไรกัน คุณมีอะไรให้ผมต้องสงสาร ปาณี ผมนภดลไม่มีอะไรเลย แถมยังเป็นสัตว์ประหลาด ผมคิดว่าต่อให้สงสารก็น่าจะเป็นคุณสงสารผมไม่ใช่หรือ”
นภดลไม่เคยพูดเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่น แต่เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือปาณี เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องเสียใจ
เขาไม่ใช่มนุษย์ปกติจริงๆ เรื่องนี้เขาปฏิเสธไม่ได้
ในใจของปาณีกลับเจ็บแปลบ
“คุณอย่าพูดบ้าๆ คุณปกติดี ดีมากๆ บางคนปกติดียังสู้คุณไม่ได้ คุณดูคุณนายตระกูลจันทรวงศ์สิ เธอเป็นคน แต่เรื่องที่ทำเรียกว่าคนทำหรือไง”
เมื่อได้ยินนภดลดูถูกตัวเอง ปาณีก็ปกป้องเขาทันที
นภดลยิ้มกว้างขึ้น
“อย่างนั้น คุณสงสารหรือรักผมกันแน่”
“แน่นอนว่าก็ต้องรักคุณสิคะ”
ปาณีพูดไปโดยสัญชาตญาณก็เพิ่งเห็นดวงดาวระยิบระยับในดวงตาของนภดล ก็รู้สึกได้บางอย่าง ใบหน้าร้อนจนเหมือนจะไหม้แล้ว
“ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย”
เธอพูดพลางจะดิ้นออกจากอ้อมกอดของนภดล แต่กลับถูกนภดลกอดแน่นขึ้น
“อย่าคิดหนีเลย วันนี้เราสองคนมาพูดกันให้รู้เรื่อง”
“มีอะไรต้องพูดอีกคะ เรื่องที่ฉันชอบคุณคุณก็รู้ตั้งนานแล้วนี่คะ ทั้งโลกนี้ก็รู้กัน”
ปาณีพูดออกไปแล้ว รู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็รู้สึกเสียใจด้วย
เมื่อก่อนนภดลไม่รู้ว่าสงสารคืออะไร แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว”
“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก”
ปาณีรู้สึกว่าวันนี้นภดลไม่ค่อยเหมือนปกติ
“วันนี้คุณเป็นอะไรกันแน่คะ”
“ผมอยากถามคุณสักสองสามข้อ”
“คุณพูดมา แต่ช่วยปล่อยฉันก่อน”
ปาณีรู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ขัดขวางการครุ่นคิดของตัวเอง แต่นภดลมีความสุขมาก
ตัวเธออ่อนนิ่ม กอดแล้วอบอุ่น และมีกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ทำให้จิตใจของเขาสงบลง
“ไม่ปล่อย อย่างนี้ดีออก”
“นภดล!”
ปาณีรู้สึกเขินอาย แต่ก็ดิ้นไม่พ้น
นภดลยิ้มแย้ม “ปาณี คุณก็รู้ผมเกิดมาเป็นยังไง เพราะผมไม่เหมือนคนอื่น ชีวิตวัยเด็กมืดมน กระทั่งไม่อยากจะย้อนกลับไปคิด ผมถึงไม่เคยให้ใครแตะต้องของส่วนตัว แม้แต่ฉัตรยา ก็ไม่เคยแตะต้องเสื้อผ้าส่วนตัวของผม คุณเข้าใจมั้ย”
ปาณีอึ้งไป
ฉัตรยาคือบาดแผลในใจนภดล เขาไม่เคยพูดมาก่อน และไม่ยอมให้ใครพูด แต่ตอนนี้คาดไม่ถึงเขากลับพูดถึงฉัตรยาต่อหน้าเธอ ทำให้ปาณีอดแปลกใจไม่ได้
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”
“ไม่เป็นไร ฉัตรยาเป็นอดีตไปแล้ว ผมไม่มีทางลืมเธอ แต่ผมรู้สึกกับเธอแค่ซาบซึ้งใจและมิตรภาพในวัยเด็กเท่านั้น หากจะพูดให้ถูกผมไม่เคยรักใคร ไม่รู้ว่ารักใครสักคนคือความรู้สึกอย่างไร และยิ่งไม่รู้จะต้องทำอย่างไร เรื่องนี้ผมโง่มาก คุณอย่ารำคาญผมล่ะ”
คำพูดของนภดลทำให้ปาณีงงงัน
รำคาญงั้นหรือ
เธอรำคาญเขาตรงไหน
แต่คิดถึงนภดลเป็นผู้ชายแมนๆ ก็ได้ ในใจปาณียอมรับเงียบๆ
ที่จริงตัวเองก็รำคาญเขานิดหน่อย
แต่คำพูดนี้ปาณีรู้สึกว่าพูดออกไปในบรรยากาศนี้ไม่ค่อยดี รีบพูดขึ้น “ฉันไม่ได้รำคาญคุณซะหน่อย”
“ไม่รำคาญที่ผมคิดไม่เหมือนกับคุณหรือ”
นภดลดูเหมือนจะตั้งใจ ทำให้ปาณีพูดไม่ออก
“ก็ได้ค่ะ ฉันรำคาญคุณ”
“เด็กดี พูดความจริงถึงจะเป็นเด็กดี”
นภดลพูดพลางลูบหัวปาณี
ปาณีรู้สึกเซ็ง
ทำไมเธอรู้สึกเหมือนมีพ่อยังไงยังงั้น
นภดลไม่รู้ความคิดของปาณี ดวงตามีหลากหลายอารมณ์ขณะที่พูดขึ้น “คุณเป็นคนแรกที่ผมคิดจะทุ่มเททุกอย่างให้ ผมให้คุณซักเสื้อผ้าให้ ให้คุณซื้อเสื้อผ้าให้ กระทั่งหอมคุณ จูบคุณ ผมคิดว่าคุณจะเข้าใจ ผมชอบคุณ”
“ฉันนึกว่าคุณรังแกฉันซะอีก”
คำพูดของปาณีทำให้นภดลอึ้งไป
จริงสิ บุริศร์กับคุณนายพูดถูกจริงๆ เขาผิดเอง
“ผมขอโทษ ทำให้คุณเข้าใจผิด ไม่พูดกับคุณตอนที่อยู่บนเกาะ แค่เห็นว่าคุณฝึกหนัก รู้สึกว่าตอนนั้นพูดกับคุณ สู้ให้คุณพักผ่อนมากๆ ไม่ได้ พักฟื้นหน่อย กำลังกายจะได้ยืนหยัดต่อไปได้ ถ้าผมรู้ว่าความตั้งใจของคุณไม่ใช่พัฒนาทักษะ แต่เพราะอยากจะเป็นเพื่อนผมละก็ ผมจะไม่มีทางทำอย่างนั้น”
น้อยครั้งที่นภดลจะอธิบายอะไร แต่เวลานี้เขาอธิบายทุกอย่าง
ปาณีพลันรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ความน้อยใจที่เคยได้รับไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกแล้ว
เธอรักผู้ชายคนนี้มากเหลือเกิน
“งั้นถ้าคุณรู้จะทำอย่างไรคะ”
ปาณีก้มหน้าถาม
นภดลก็ครุ่นคิด ท่าทางเหมือนจริงจัง ทำให้ปาณีตื่นเต้น
ผู้ชายคนนี้คงจะไม่พูดอะไรที่ทำให้เธอรับไม่ได้อีกนะ
“ช่างเถอะ ไม่ถามแล้วค่ะ”
ปาณีรีบพูดขึ้น แต่ก็ได้ยินนภดลกระซิบ “ถ้าผมรู้ตอนนั้น บางทีผมอาจกินคุณไปตั้งแต่บนเกาะแล้วก็ได้”
คำพูดนี้ทำให้ปาณีสำลักไอทันที
นภดลรีบตบหลังเธอ พูดขึ้น “ทำไมไม่ระวังเลย ขนาดน้ำลายตัวเองยังสำลักได้ไง มีใครเขาเป็นยังงี้กัน”
ปาณีอยากจะต่อยคนจริงๆ
เขาพูดจามีความนัยเอง
แล้วยังมาว่าเธออีกหรือ
ปาณีไอพักหนึ่งกว่าจะหยุดได้ ก็ได้ยินนภดลพูดขึ้นอีก “พวกเราไปจดทะเบียนกันเถอะ”
คำพูดนี้ทำให้ปาณีสำลักอีกครั้ง
“ไม่เอา”
คำพูดปฏิเสธของเธอทำให้นภดลขมวดคิ้ว
“คุณรักผม ผมรักคุณ ทำไมไม่ไปจดทะเบียนล่ะ”
“คุณไม่เคยจีบฉัน มีแต่ฉันจีบคุณ ตอนนี้คิดๆ ดูฉันเสียเปรียบจะแย่ ถึงไม่อยากแต่งกับผู้ชายทื่อๆ อย่างคุณไง ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง แถมข้างนอกยังลือกันว่าคุณมีปัญหาบางอย่าง คุณรีบให้ฉันแต่งงานกับคุณ ใครจะไปรู้คุณอยากจะปิดบังอะไรหรือเปล่า”
ปาณีนึกถึงตอนที่ตัวเองกับนภดลนอนเตียงเดียวกันทั้งคืน นภดลไม่ทำอะไรเธอ เป็นเพราะเสน่ห์เธอไม่พอหรือเป็นเพราะนภดลทำไม่ได้
เธอรู้สึกกังวลอยู่พักหนึ่ง
สีหน้านภดลเคร่งขรึมขึ้นทันที
บ้าชะมัด!
“คุณพูดอะไรนะ ทำไม่ได้งั้นหรือ อยากจะลองดูมั้ยล่ะ”
ขณะที่พูด นภดลก็พลิกตัวกดปาณีลงข้างล่าง พละกำลังมหาศาลและความร้อนที่ตรงนั้นทำให้ปาณีตกใจจนหน้าแดง
“ไม่ต้องๆ!”
“งั้นจะไปจดทะเบียนมั้ย”
นภดลข่มขู่อย่างไร้ยางอาย ราวกับถ้าปาณีไม่ตอบรับ วินาทีต่อไปเขาจะกินเธอจริงๆ
ปาณีร้องไห้แล้ว
ในโลกนี้มีใครเขาขอแต่งงานกันอย่างนี้
เธอรักผู้ชายแบบไหนกันแน่
ฮือๆ!
เธอเสียใจ! ไม่อยากจะรักแล้วได้มั้ย