แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1507 กำหนดให้เป็นค่ำคืนที่ไม่ธรรมดา
นรมนกับบุริศร์กำลังมองจณัตว์ด้วยความประหม่า
ช่วงหน้าผากของเขาแสดงความเย็นชา มุมปากอมยิ้มเล็กน้อย นั่นเหมือนรอยยิ้มยุ่งเหยิงที่ปนกับความเจ็บปวด
“งั้นจณัตว์จะพลีชีพเพื่อชาติก็แล้วกัน”
แค่พูดออกมา นรมนก็คลายกังวลลงในทันที
โชคดีที่เขากับตนเองคิดเหมือนกัน
“แต่ถ้าเช่นนี้ หงส์จะใจสลายนะ”
บุริศร์รู้ดีว่านี่เป็นวิธีปกป้องจณัตว์ที่ดีที่สุด แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องปิดบังข่าวที่เขายังมีชีวิตอยู่ให้แน่นหนา เพราะถ้าหลังจากข่าวนี้เล็ดลอดออกไป สายตาของทุกคนจะพากันจับจ้องไปที่หงส์ แค่เธอมีการเคลื่อนไหวใดๆ ความพยายามของจณัตว์ที่ทุ่มเทลงไปก็จะสูญเปล่า
นึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่ไม่กินไม่ดื่มเพราะตนเอง จณัตว์ก็เจ็บปวดหัวใจราวกับโดนมีดเฉือน
“เพื่ออยู่กับเธออย่างยาวนาน ฉันทำได้เพียงทำร้ายเธอชั่วคราว แต่ฉันสาบาน ชีวิตที่เหลืออยู่ในวันข้างหน้าฉันจะใช้มันเพื่อรักเธอเอาอกเอาใจเธอ”
ถึงจณัตว์จะพูดอย่างนี้ แต่เขารู้ว่าความเจ็บปวดที่สูญเสียสามีไม่ใช่ใครๆที่จะยอมรับได้
นรมนเองก็รู้สึกเสียใจไปกับหงส์ด้วย
บุริศร์พูดขึ้น: “นายเคยคิดหรือเปล่า พ่อรู้ว่านายยังมีชีวิตอยู่นะ นี่นายจะบอกเรื่องนี้กับพ่อเหรอ?”
“ไม่หรอก”
จณัตว์ส่ายหัวทันที
“คุณลุงได้รับความลำบากมาหลายปีขนาดนี้แต่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจ ฉันรู้ว่าเขาจะออกจากเขตทหารที่ตนเองชอบที่สุดเพื่อฉัน ถึงกับทำบางเรื่องเพื่อปกป้องฉันด้วยซ้ำ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากเห็น
ชีวิตนี้ของคุณลุงกับคุณป้าไม่ง่ายเลย พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ได้เพลิดเพลินกับความหวานชื่นหลังจากผ่านความลำบากหลายปีมานี้อย่างถูกเวลาแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อฉัน เดิมทีไฟล์นี้ก็เป็นความลับขั้นสูงสุด ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณลุงไม่เคยเห็น ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องเห็น ฉันจณัตว์ไม่ใช่คนที่จะทำให้ทั้งครอบครัวเดือดร้อนเพื่อความสงบสุขของตนเองคนเดียวหรอกนะ”
“แต่พ่อแม่ฉันรู้ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าบอกว่าพี่ตายแล้ว คงจะไม่ดีเท่าไหร่นะ”
คำพูดของนรมนทำให้จณัตว์ยิ้มเล็กน้อย พูดขึ้น: “นี่ยังไม่ได้ออกเดินทางไม่ใช่เหรอ? คุณลุงหวังให้พวกเรากลับเมืองหลวงด้วยกัน ถ้าก่อนหน้านี้พี่ไม่รู้อะไรเลย ให้ไปก็คงไปนั่นแหละ แต่ตอนนี้ชีวิตของพี่ไม่ใช่ของตนเองแล้ว พี่ยังต้องชำระล้างพิษในร่างกายให้พ่อของพี่อีก พี่ยังมีภรรยาที่ต้องดูแล
ดังนั้นพี่ทำได้เพียงเป็นวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติ แค่จณัตว์ยังมีชีวิตอยู่ ถึงจะเป็นการมีตัวตนที่ต่างออกไป ก็จะโดนคนมากมายจับจ้อง ต่อให้เป็นครอบครัวและภรรยาของพี่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง นี่มันไม่ยุติธรรมกับพวกเขาเลย”
“แล้วมันยุติธรรมกับพี่เหรอ?”
นรมนอดไม่ได้ที่จะสงสารจณัตว์
จณัตว์ยิ้มบางๆ พูดอย่างเมินเฉย: “ไม่ยุติธรรมหรอก แต่หลายปีที่ผ่านมานี้การอุปถัมภ์ค้ำชูที่เบื้องบนมีต่อพี่ก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริงๆ ถือซะว่าไม่มีอะไรติดค้างกันก็ได้”
“พี่”
นรมนอดไม่ได้ที่จะกอดเอวของจณัตว์เอาไว้
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากจะเตะจณัตว์ออกไปจริงๆ แต่ทว่าเห็นแก่หน้าของนรมนเขาจึงต้องอดกลั้นเอาไว้
“นายวางแผนจะตายยังไง?”
บุริศร์กัดฟันพูดขึ้น สายตาเฉียบขาดคู่นั้นจ้องมองมือของนรมนที่กำลังกอดจณัตว์อยู่ ทำให้จณัตว์ชะงักเล็กน้อย แล้วเข้าใจในทันที อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
ผู้ชายคนนี้ยังขี้หึงสุดๆเลย แต่ถ้าตอนนี้หงส์กำลังกอดบุริศร์อยู่ คาดว่าเขาก็คงรู้สึกเหมือนบุริศร์แน่ๆ
“พอแล้วหน่า เป็นสาวเป็นนางขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักอายอีก หลังเจ็ดขวบผู้หญิงกับผู้ชายก็ไม่ควรอยู่ด้วยกันแล้วนะ ถึงยังไงเธอก็ควรนึกถึงความรู้สึกของสามีเธอบ้างไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนชะงักเล็กน้อย แล้วเข้าใจอะไรทันที แค่มองไปก็เห็นท่าทีอึดอัดของบุริศร์ จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ทำตัวเป็นเด็กๆ นี่พี่ชายฉันนะ!”
“ถ้าไม่ใช่พี่ชายคุณ เขาคงกลายเป็นปุ๋ยไปแล้ว”
บุริศร์บ่นพึมพำ
“โอ้โห งั้นฉันต้องขอบคุณนายแล้วสิ”
จณัตว์ชำเลืองมองเขาอย่างเหยียดหยาม แล้วพูดต่อ: “แค่ไม่ได้ออกไปจากที่นี่ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น บางทีฉันอาจจะต้องปรึกษากับนภดลหน่อย”
“นภดล?”
บุริศร์กับนรมนประหม่าขึ้นมาทันที
“ตอนนี้นภดลคลุ้มคลั่งอยู่ไม่ใช่เหรอ? นายวางแผนจะทำอะไร?”
จณัตว์พูดขึ้น: “ในเมื่อเลือดของฉันทำให้นภดลหลับได้ชั่วคราว งั้นอาจจะเพิ่มปริมาณมากหน่อย ไม่แน่เขาอาจจะมีสติกลับมาก็ได้!”
“ไม่ได้!”
นรมนกับบุริศร์พูดเป็นเสียงเดียวกัน
“นายเสียสติหรือไง? สถานการณ์ของตนเองเป็นยังไงไม่รู้ใช่ไหม? เลือดของนายมีค่าขนาดไหน? บนโลกนี้ไม่มีใครสักคนที่ให้เลือดนายได้! ถ้านายขาดเลือด ชีวิตก็จะได้รับอันตราย ตอนนั้นคงไม่ใช่การแกล้งตาย แต่เป็นการตายจริงๆแล้วนะ!”
บุริศร์อยากจะงัดสมองของจณัตว์จริงๆ ดูสิว่ามีความบ้าระห่ำมากขนาดไหน
แต่จณัตว์กลับพูดอย่างสงบ: “ถ้าไม่ทำอย่างนี้ พวกนายคิดวิธีที่ดีกว่าการหลอกล่อศัตรูไม่ให้เกิดความสงสัยออกหรือเปล่า? นอกจากฉันจะโดนนภดลฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่เหลือศพเอาไว้ ไม่อย่างงั้น พวกเราจะไปหาศพที่เหมือนฉันเป๊ะๆมาจากไหน ที่สำคัญที่สุดก็คือส่วนประกอบของเลือดยังต้องเหมือนกันด้วย!”
พูดออกไปอย่างนี้ นรมนกับบุริศร์ก็เงียบกันทั้งคู่
จริงสิ บนโลกนี้ไม่มีคนที่เลือดกรุ๊ปเดียวกับจณัตว์อีกแล้ว
“แต่ว่า……”
“ไม่มีแต่แล้ว ถ้าไม่ทำอย่างนี้ งั้นฉันต้องโดนเป็นหนูทดลองตลอดไป ถึงขั้นที่ต่อไปลูกหลานของฉันก็จะไม่สงบสุข ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลองสักตั้งจะเป็นยังไงล่ะ? ถึงตอนนั้นยังต้องให้พวกนายร่วมมือกับฉันด้วย”
คำพูดนี้ของจณัตว์ทำให้บุริศร์กดดันมาก
“เรื่องดีๆนายไม่เคยจำฉันได้เลย”
“เรื่องดีๆต้องเก็บไว้ให้ภรรยาฉันสิ จำนายทำไม? นายไม่ใช่ภรรยาฉันซะหน่อย”
คำพูดของจณัตว์ที่ตอบโต้กลับมาทำให้บุริศร์พูดไม่ออกอย่างฉับพลัน
ก็ได้ เขาพูดไม่คิดเอง
นรมนยังค่อนข้างเป็นกังวล
“พี่ พวกเราลองคิดวิธีอื่นอีกทีเถอะ”
“ไม่มีเวลาแล้ว อีกเดี๋ยวฟ้าจะสว่างแล้ว ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็สายไปแล้วนะ”
จณัตว์เคาะโต๊ะตกลงตามนี้ทันที
แม้นรมนจะยังรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่กล้าโต้แย้งตามใจ ถึงยังไงที่จณัตว์พูดก็เป็นความจริงทั้งหมด
จณัตว์ออกไปจากห้องของพวกเขาแล้ว ใจของนรมนก็ลนลานขึ้นมา
“บุริศร์ คุณว่าแผนการของพี่ฉันจะสำเร็จไหม?”
“ต้องสำเร็จ ไม่งั้นทุกอย่างคงจบสิ้นแล้ว ถ้าไม่สำเร็จ ทุกคนอาจจะรู้แผนการของเขาได้ ถึงตอนนั้นเบื้องบนจะเกิดความสนใจ ถึงขั้นสงสัยในตัวของพ่อด้วย”
บุริศร์คิดค่อนข้างเยอะคิดค่อนข้างไกล
“งั้นทำยังไงดี? แผนการที่ต้องสำเร็จนี้ต้องให้พี่ชายฉันสูญเสียเลือดเป็นสิ่งตอบแทน เลือดเยอะขนาดนั้น ไม่รู้ว่าต้องเสียตั้งเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้คนสงสัย นอกจากอยู่ในสถานการณ์ที่พบรอยเลือดจำนวนมากของพี่ชายฉัน แต่เลือดในร่างกายของคนๆหนึ่งมีขีดจำกัด ถึงเลือดจะเพิ่มขึ้นให้ตนเองได้ใหม่ ก็ต้องใช้เวลาและมีการปรับตัว ฉันกลัวจริงๆ……”
แล้วบุริศร์จะไม่กลัวได้ยังไงล่ะ?
ปัญหาพวกนี้ในเมื่อนรมนคิดได้ จณัตว์ก็ต้องคิดได้อยู่แล้ว เขาขมวดคิ้วแน่น
“ผมจะโทรหามิลิน ให้เธอจัดหายาบำรุงเลือดเพิ่มเลือดจำนวนหนึ่ง แค่จณัตว์เริ่มลงมือที่ด้านนี้ ผมก็จะให้พวกมิลินคอยช่วยเหลือจณัตว์ ถ้าให้ราเชนจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้จณัตว์ได้พักฟื้นชั่วคราวคงจะดีที่สุด”
พูดถึงมิลิน นรมนก็ค่อนข้างกังวลใจ
“เริ่มแรกที่แม่ฉันโดนพิษ แต่กลับโดนวินิจฉัยออกมาว่าเป็นมะเร็ง ซึ่งมิลินเป็นคนวินิจฉัยให้ ฉันไม่รู้ว่าเธอมีค่าพอให้เชื่อถือได้ไหม บุริศร์ จณัตว์กับแม่ของฉันทั้งคู่เป็นคนในครอบครัวที่สำคัญที่สุดของฉัน ฉัน……”
“ผมเข้าใจ แต่คุณสบายใจได้ เมื่อก่อนมิลินเป็นยังไงผมไม่รู้ เรื่องของแม่ยายผมจะถามให้ชัดเจน แต่ตอนนี้เธอไม่ทรยศผมแน่นอน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนค่อนข้างประหลาดใจ
“คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าผมมั่นใจหรอก แต่พี่ผมวางพิษกู่ใส่เธอ”
เรื่องนี้บุริศร์ไม่เคยพูดกับคนอื่นมาก่อน ในเมื่อตอนนี้นรมนกังวลใจ เขาจึงบอกไปเลยดีกว่า
“พี่ชายคุณบุณพจน์น่ะเหรอ?”
“อื้ม”
บุริศร์พยักหน้า
“ความกังวลของคุณเขาก็มี เขากลัวมิลินที่อยู่ข้างกายผมจะมีแผนการอื่นอีก จึงวางพิษกู่ใส่มิลิน ถ้าเธอไม่ซื่อสัตย์ต่อผม เธอจะตายอย่างน่าอนาถ”
สำหรับหนอนกู่ จนถึงวันนี้นรมนยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ในเมื่อบุริศร์พูดอย่างนี้ นรมนก็เชื่อมั่น
“อื้ม เราสองคนแยกย้ายกันจัดการ ฉันโทรหาพี่รอง คุณโทรหามิลิน เพื่อเตรียมพร้อมทุกอย่าง”
“อื้ม”
สองสามีภรรยาดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดให้ไม่ใช่คืนที่ธรรมดาซะแล้ว
เวลาตีสี่กว่าๆ นภดลที่ถูกขังอยู่ในห้องทดลองเตะประตูเปิดออกมาอีกครั้ง นภดลที่คลุ้มคลั่งวิ่งออกมา ฆ่าคนคุ้มกันที่รักษาความปลอดภัยอยู่ วิ่งไปทางบริเวณรอบนอกของป่าดำ
ชินทรกับคิมเมื่อได้ข่าวพวกเขาก็ตามออกไป ส่วนจณัตว์วิ่งอยู่ด้านหน้าพวกเขา
“นักวิจัยเตรียมยาคลายเครียดแล้วตามผมมา!”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นักวิจัยตามติดฝีเท้าของจณัตว์อยู่ตลอด
คิมพูดขึ้นอย่างกังวล: “ครั้งนี้ทำไมเวลาในการหลับของนภดลถึงน้อยขนาดนี้? นี่เพิ่งจะ2-3ชั่วโมงเองก็ตื่นแล้ว?”
ช่วงหน้าผากของชินทรก็เคร่งขรึมมากขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าเป็นอย่างนี้ กลัวว่าจะควบคุมนภดลไม่อยู่แล้ว”
“งั้นทำยังไงดี?”
คิมรู้ว่าชินทรกดดันมาก จึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
“พานภดลกลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ทุกคนออกไปกันหมด พวกเขาโดนนภดลดึงดูดให้ออกมา
เพราะนรมนท้องอยู่จึงต้องอยู่ที่นี่ กานต์กลัวนรมนอยู่คนเดียวแล้วจะกังวล จึงมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ
“หม่ามี้ วางใจเถอะครับ คุณอานภดลไม่เป็นไรหรอก”
ถึงเขาจะยังเด็ก แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้เกินขอบเขตความสามารถของเขา ตอนนี้แค่หวังว่าคำพูดปลอบใจพวกนี้จะมีประโยชน์กับหม่ามี้บ้าง
นรมนพยักหน้า กอดกานต์อยู่ในอ้อมอก พูดขึ้น: “มีกานต์อยู่ หม่ามี้ไม่กลัวอยู่แล้ว”
แต่ในใจของนรมนเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา
ครั้งนี้เป็นแผนการที่อันตราย ถ้าหากล้มเหลว พวกเขาทุกคนคงจบเห่กันหมด
นรมนไม่รู้สึกว่าคนของที่นี่จะเป็นคนสนิทของชินทร
หลายปีมานี้ชินทรโดนขังอยู่บนเกาะของเชษฐ์ จะมีคนสนิทกับอำนาจที่ไหนกันล่ะ? ทุกคนที่นี่เกรงว่าจะเป็นคนที่เบื้องบนส่งมาช่วยเหลือนักวิจัยของชินทรน่ะสิ
ดังนั้นบุริศร์พูดถูก แผนการวันนี้ต้องสำเร็จ
นรมนรอคอยอย่างอกสั่นขวัญแขวนอยู่ที่ด้านนี้ ส่วนราเชนที่อีกด้านก็ไม่กล้าวางใจ เขาส่งคนไปหาที่พักเพื่อจัดการให้จณัตว์อย่างลับๆ แต่กลับพบว่าไม่ว่าจะจัดให้ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี
หัวหน้าองครักษ์เห็นท่าทีร้อนรนของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “พระราชาขอรับ กระผมมีความเห็นหนึ่ง ไม่ทราบว่าจะใช้ได้หรือเปล่า?”
“รีบๆพูด! แค่นายจัดการเรื่องนี้ได้เรียบร้อย ฉันสัญญาว่าครอบครัวนายจะมั่งคั่งไปตลอดชีวิต”
สำหรับราเชน ไม่มีของสิ่งไหนที่สำคัญไปกว่าคนในครอบครัวของตนเอง ตอนนี้คนในครอบครัวของเขาที่ยังเหลืออยู่ก็มีแค่หงส์กับจณัตว์เท่านั้น ต่อให้เขาต้องสละตำแหน่งพระราชานี้เขาก็ยินยอม