แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1511 เราทำตามก็พอแล้ว
หงส์ชะงักไปสักพัก แล้วพูดเสียงทุ้ม “อาธรณี ไปดูที่ตระกูลโตเล็กก่อนดีกว่า เพราะจณัตว์ถูกส่งไปที่เมืองหลวงกักตัวเพื่อตรวจสอบแล้ว เฮียบุริศร์และนรมนก็ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร ตอนนี้ที่บ้านเหลือเด็กสามคนจะไม่มีใครดูแลไม่ได้”
ธรณีตกตะลึงเล็กน้อย พยักหน้าทันที
รถขับมาถึงคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็ก ที่นี่เหมือนเมื่อก่อน ทำงานอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ชัยยศเห็นพวกธรณีมาถึง ก็ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็รีบก้าวมาข้างหน้า
“ประธานธรณี ประธานบุริศร์ของเราไม่อยู่ครับ”
“ฉันรู้ แค่มาดู กมลกับกิจจากลับมาหรือยัง?”
ธรณีเข็นรถเข็นเดินเข้าไป กานต์ถูกหงส์จูงมือเล็กเดินอยู่ด้านหลัง
ชัยยศเหลือบมองกานต์ จากนั้นก็พูดขึ้น “ยังไม่กลับครับ ผมส่งคนไปรับพวกเขาแล้ว ก่อนหน้านี้ประธานบุริศร์โทรหาผม ให้ผมดูแลตระกูลโตเล็กให้ดี
ช่วงนี้ตระกูลโตเล็กมีชื่อเสียงก็ยิ่งตกเป็นเป้า ประธานบุริศร์บอกว่าให้คุณหนูกับคุณชายน้อยได้เรียนอนุบาล อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เรื่องอื่นๆ อะไรควรทำก็ทำ ส่วนบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด ประธานบุริศร์บอกว่าคุณชายบุณพจน์จะกลับมารับช่วงต่อสักระยะหนึ่ง รอประธานบุริศร์กลับมาค่อยว่ากัน”
ได้ยินบุริศร์จัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ธรณีก็วางใจ
“คุณชายบุณพจน์คือบุณพจน์พี่ชายของบุริศร์?”
“ครับ”
“กลับมาเมื่อไร?”
“น่าจะใกล้แล้วครับ”
ชัยยศตอบทุกคำถาม กานต์ฟังอยู่ข้างๆ ก็วางใจไม่น้อย
ในตอนแรกเขากลัวว่าตัวเองอายุน้อยเกินไป เหตุการณ์ไม่คาดฝันกะทันหันนี้จะทำให้ทรัพย์สินตระกูลโตเล็กตกอยู่ในมือคนอื่น ถึงตอนนั้นถ้ามีคนต้องการทรัพย์สินตระกูลโตเล็ก ลำพังเด็กสองสามคนอย่างพวกเขาก็รักษาไว้ไม่ได้
เขาเคยคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากคุณปู่ธรณีด้วยซ้ำ ในตอนนี้ได้ยินแด๊ดดี้เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กานต์ก็โล่งใจ ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมความคิดของบุริศร์ที่เผชิญอันตรายก็ไม่หวาดกลัวใดๆ และเงียบสงบ
ธรณีได้ยินบุริศร์เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถึงจะรู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร
หงส์ต้องกลับไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับธรณีเพื่อจัดงานศพของจณัตว์ก่อน กานต์ก็อยู่ต่อ
พูดตามตรง ต้องแยกกับกานต์ หงส์ก็เสียดายมาก
เด็กน้อยคนนี้อยู่กับเธอในวันที่ลำบากมากที่สุด เธอเห็นเขาเป็นลูกชายจริงๆ
“กานต์ ช่วงนี้คุณน้าอาจจะยุ่งมาก หนูอยู่ตระกูลโตเล็กคนเดียวได้ใช่ไหม? ถ้าไม่ได้ ก็กลับไปกับคุณน้าได้นะ”
หงส์คาดหวังอย่างเห็นแก่ตัวว่ากานต์จะไปกับตน
แต่กานต์อยากรอกิจจาและกมลกลับมา ถึงจะรู้สึกทนไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังส่ายหน้าพูดขึ้น “คุณน้า ผมอยู่บ้านรอพวกเขาดีกว่าครับ คุณคิดถึงผมก็โทรหาผมได้”
“โอเค”
ในใจหงส์เสียดายมาก แต่ก็ยังตามธรณีไป
กานต์ยืนในห้องรับแขกคนเดียว ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
ชัยยศถามเสียงทุ้ม “คุณชายน้อยกานต์ คุณมีอะไรจะสั่งไหม?”
“ไม่มี คุณไปทำธุระเถอะ ผมขออยู่คนเดียวสักครู่”
กานต์พูดจบก็นั่งโซฟา
ชัยยศรีบให้คนไปเอาอาหารและเครื่องดื่มเล็กน้อยมาให้เขา จากนั้นก็ไปทำงาน
บุริศร์ไม่อยู่ งานในบริษัทก็เยอะเกินไป ตอนนี้คุณชายบุณพจน์ยังไม่กลับมารับช่วงต่อ งานที่เขาต้องทำก็มีเยอะมากๆ
หงส์กลับไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับธรณี เห็นสถานที่คุ้นเคย ตอนนี้สิ่งต่างๆ ยังเหมือนเดิมแต่ผู้คนเปลี่ยนไป ในใจหงส์ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
ธรณีกลัวเธอรู้สึกเศร้า ให้เธอกลับห้องไปพักผ่อนให้เต็มที่ เขาจะจัดการทุกอย่างคนเดียว
นรมนและบุริศร์ถูกพาไปเมืองหลวงโดยตรง เพราะสภาพร่างกายนรมนพิเศษ พวกเขาสองคนจึงถูกจัดให้อยู่ด้วยกัน ถึงจะบอกว่าตรวจสอบ แต่ก็ยังเชิญแพทย์ที่ดีที่สุดมา
นรมนนึกว่าจะได้เจอป้อง แต่เมื่อเธอเห็นแพทย์แปลกหน้าก็ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้
บุริศร์พูดเรียบๆ “ทุกคนรู้ความสัมพันธ์ของเรากับป้องกันหมด อีกอย่างตอนนี้ป้องเกษียณแล้ว ไม่สามารถมาได้ นี่คือขั้นตอน”
“อ๋อ”
นรมนไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะความล้าและง่วงนอนของการเดินทาง เธอค่อนข้างเหนื่อย
“นอนเถอะ”
บุริศร์ไม่ได้สนใจเรื่องตรวจสอบมากนัก เตรียมให้นรมนนอนหลับทันที
เมื่อนรมนหลับอยู่ บุริศร์ก็ถูกซักถาม เขาตอบอย่างมีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบมาตลอด ไม่พบความผิดพลาดใดๆ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
เมื่อนรมนตื่นขึ้นมาก็เห็นคนคุ้นเคยนั่งข้างเตียงตน ก็ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้
“คุณน้าชัญญา?”
“ตื่นแล้วเหรอ?”
ชัญญาเห็นสีหน้านรมนดีขึ้นบ้างแล้ว ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ไม่รู้เหรอว่าตัวเองสุขภาพเป็นยังไง? ยังกล้าดิ้นรนแบบนี้อีก เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”
“ยังโอเคค่ะ ได้เห็นคุณน้าชัญญา ทุกอย่างก็สบายดี”
ความปากหวานของนรมนทำให้ชัญญาดีใจทันที
“อย่าคิดว่าเธอพูดแบบนี้แล้วฉันจะไม่ถามเธอนะ”
“คุณน้าชัญญาอยากถามอะไรฉันเหรอคะ?”
ในใจนรมนเข้าใจดี แค่ไม่คิดว่าคนที่มาถามตัวเองคือชัญญา แต่เรื่องที่เกี่ยวกับจณัตว์ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เปิดเผยข้อมูลไม่ได้
ชัญญามองดวงตาสดใสของนรมน ไม่อยากถามแบบนี้เลย แต่เธอก็ยังเอ่ยปาก
“นรมน อีกไม่กี่วันฉันจะแต่งงานแล้ว”
“คะ?”
นรมนประหลาดใจนิดหน่อย
“ไม่ใช่ว่าคุณ……”
เมื่อนึกถึงชะตากรรมในปัจจุบันของคุณอารอง คำพูดด้านหลังนรมนก็ไม่ได้พูดมันออกไป แต่ชัญญาก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
“ใช่แล้ว เคยชอบคนคนหนึ่งตอนที่สนุกสนานในวัยเยาว์โดยไม่สนใจทุกสิ่ง น่าเสียดายชีวิตนี้ถูกลิขิตให้รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ฉันเคยไปเจอเขา ตอนนี้เขาไม่เหมือนแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง
ฉันอาจจะรักเขาไม่มากพอ เห็นสภาพเขาในตอนนี้ เห็นนงลักษณ์อยู่เคียงข้างเขาดูแลเขาทุกวิถีทาง จู่ๆ ฉันก็รู้สึกปล่อยวางสิ่งที่ยึดเหนี่ยวมาหลายปี ในที่สุดฉันก็เข้าใจ เมื่อรักใครสักคนมันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ ฉันก็เลยวางแผนจะแต่งงาน”
ได้ยินชัญญาพูดแบบนี้ นรมนก็รู้สึกเศร้านิดหน่อย
“คุณน้าชัญญา ไม่ควรหาคนที่คุณรักแต่งงานเหรอคะ?”
ชัญญายิ้ม ยิ้มอย่างหมดหนทาง
“บนโลกใบนี้มันมีผู้ที่สุขสมในความรักและได้ครองเรือนกับคนรักมากมายขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ เธอกับบุริศร์ต้องหวงแหนกันและกันเอาไว้นะ จำไว้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิแสวงหาความสุข
สถานะของฉันไม่เหมือนกัน หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ไม่เหมือนกัน อีกฝ่ายคือคนที่พี่ชายฉันเลือก นิสัยอะไรต่างๆ ก็คงพอรับได้ ฉันเลยไม่มีอะไรให้เลือก อีกอย่างฉันก็อายุเท่านี้แล้ว ไม่มีใครสามารถชดใช้ได้ตลอดชีวิตหรอกนะ”
ได้ยินชัญญาพูดแบบนี้ ในใจนรมนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
“คุณน้าชัญญา”
“ไม่ต้องปลอบฉัน มีประสบการณ์มาตั้งหลายเรื่อง ฉันก็เปิดใจกว้างและคิดในแง่ดีแล้ว ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของฉัน วันนี้มาเพื่อเยี่ยมเธอ นอกจากนี้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับจณัตว์พี่ชายของเธอ……”
ชัญญาเพิ่งพูดถึงตรงนี้ นรมนก็ร้องไห้ขึ้นมา น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้
“คุณน้าชัญญา คุณอารองของฉันยังไม่รู้ใช่ไหมคะ?”
“ยังไม่ได้บอกเขา”
จู่ๆ ชัญญาก็รู้สึกคำพูดที่ปากนั้นถามไม่ออกแล้ว
ตอนนี้ร่างกายนรมนไม่ดี สนิทกับจณัตว์ขนาดนั้น ตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากทำให้แผลเธอเปิดอีกครั้ง เธอจะทนได้อย่างไร?
แต่นี่คือขั้นตอน เธอก็ไม่มีทางเลือก
“พี่ชายเธอ……”
“คุณน้าชัญญา!”
นรมนโผเข้าหาอ้อมกอดชัญญาทันที ร้องไห้ด้วยความเสียใจมาก
“พี่ชายฉันอนาถเหลือเกิน ทำยังไงดีคะ? จนถึงตอนนี้ฉันก็ไม่กล้าเชื่อเลยว่านี่เป็นเรื่องจริง คุณน้าชัญญา ฉันฝันอยู่ใช่ไหม? จริงๆ แล้วพี่ชายฉันสบายดีใช่ไหม?”
ชัญญาถอนหายใจ ลูบผมยาวของนรมน พูดขึ้นด้วยความสงสาร “คนเราตายไปแล้วฟื้นคืนชีพไม่ได้ เธอก็อย่าเสียใจนักเลย ฟื้นฟูสุขภาพให้เต็มที่ หมอที่นี่ยอดเยี่ยมทั้งนั้น ตราบใดที่เธอสภาพจิตใจดีหน่อยก็จะไม่เป็นอะไร”
“บุริศร์เป็นยังไงบ้างคะ? แผลของเขา……”
“ทำแผลเรียบร้อยแล้ว จะไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วงนะ อยู่ที่นี่ต้องการอะไรก็บอกฉันได้ นอกจากออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ความต้องการอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วฉันตกลงกับเธอได้”
ชัญญาให้คำสัญญา และทำให้นรมนเข้าใจว่าเธอออกไปไม่ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
เพราะสภาพนรมนไม่ดีอย่างมาก ชัญญาพูดไม่กี่ประโยคก็ออกไปแล้ว
กมลและกิจจากลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากกานต์กลับบ้าน ตอนนั้นกานต์กำลังพักผ่อนอยู่ แค่รู้สึกว่ามีสายตาจ้องมองตนอยู่ ทำให้เขานอนต่อไปไม่ได้ ลืมตาขึ้นมาทันที
เห็นกิจจาและกมลยืนหน้าเตียงมองเขา สภาพเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางของทั้งคู่ทำให้กานต์ค่อนข้างตกตะลึง
“ไม่นะ นี่พวกเธอกลับมาจากที่ไหน?”
“ฉันกลับมาจากแอฟริกา”
กิจจาเอ่ยปาก
แต่กมลไม่ตอบ ถามขึ้นทันที “พี่ ที่บ้านเกิดอะไรขึ้น? แด๊ดดี้กับหม่ามี้ล่ะ?”
น้อยครั้งมากที่เห็นกมลทำท่าทางจริงจังแบบนี้ กานต์ถามอย่างช่วยไม่ได้ “เธอไม่ได้เรียนไวโอลินกับคนพวกนั้นเหรอ? จริงจังแบบนี้ทำไม? ไม่คิดว่าจะยอมกลับมา”
“พี่ ฉันถามพี่เรื่องสำคัญอยู่นะ ฉันได้ยินพี่ดนัยบอกว่า แด๊ดดี้กับหม่ามี้ถูกรับไปที่เมืองหลวงแล้ว บอกว่าไปรับการตรวจสอบอะไรสักอย่าง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
สำหรับเรื่องการตรวจสอบ กมลมีปมในใจมาตลอด เธอจำได้ว่าตอนแรกที่คุณลุงคริชณะโดนตรวจสอบ ทางเข้าประตูบ้านของพี่ดนัยมีคนเฝ้ามองตลอดเวลา แต่ตอนนี้ทางเข้าประตูบ้านพวกเขาไม่มีใคร แต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดมาก
ในใจกานต์แอบด่าดนัยไปหนึ่งประโยค บอกกมลทุกเรื่องทำไมนะ
ในเวลานี้กิจจาก็พูดขึ้น “กานต์ มีเรื่องอะไรพูดออกมาดีกว่านะ ทำแบบนี้เราก็รู้อยู่แก่ใจ ไม่งั้นก็ไม่มีใครวางใจลงหรอก”
ได้ยินพวกเขาพูดแบบนี้ กานต์ก็เล่าเรื่องให้ฟังหนึ่งรอบ ในนั้นเรื่องที่ตัวเองไม่แน่ใจก็ไม่สะดวกที่จะพูด แค่บอกว่าคุณลุงอาจจะเสียชีวิตแล้ว
เดิมทีแล้วนึกว่ากมลจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คิดว่าเธอจะเงียบสงบเป็นพิเศษ ฟังจบก็พูดขึ้น “แด๊ดดี้กับหม่ามี้ต้องการอะไร?”
“ให้เราเรียนอนุบาลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ใช้ชีวิตให้ดี รอพวกเขากลับมา”
ได้ยินกานต์พูดแบบนี้ กมลก็หันตัวเดินจากไปทันที เมื่อเปิดประตูห้องก็พูดขึ้น “เจอโรงเรียนอนุบาลดีๆ แล้วก็บอกฉันหน่อยนะ ฉันง่วงมาก จะไปนอน”
“เธอไม่เป็นห่วงแด๊ดดี้กับหม่ามี้เลยเหรอ?”
กานต์รู้สึกว่ากมลที่เป็นแบบนี้ควบคุมไม่ได้
กมลโบกมือตามใจชอบแล้วพูดขึ้น “ในเมื่อพวกเขาพูดแบบนี้ แสดงว่าพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราทำตามก็พอ”
ทันใดนั้นกานต์ก็พบว่า สาวน้อยคนนี้ใช้ชีวิตได้ชัดเจนมาก และเขาก็ไม่ใจเย็นเท่าน้องสาวคนนี้
กิจจาก็วางใจเช่นกัน แต่ก็ยังถามขึ้นด้วยความลังเล “กานต์ นายเจออาจารย์ฉันไหม? รู้ไหมว่าช่วงนี้เธอยุ่งอะไรอยู่? เธอไม่ได้ตามแด๊ดดี้ไปเหรอ?”
พูดถึงมิลิน กานต์ก็พบว่าหลังจากจณัตว์เกิดเรื่องก็เหมือนไม่เจอเธอเลย หรือเธอจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? ตัวเองต้องสืบค้นสักหน่อยไหมนะ?