แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1544 พวกเขามีสิทธิ์อะไร
นรมนสามารถนึกภาพลมฝนกำลังกระหน่ำอยู่ในตระกูลพรรณโรจน์ในตอนนี้ได้ พอโทรศัพท์เสร็จแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมาเล็กน้อย
พอเธอเดินออกมาจากห้องหนังสือ แต่กลับเจอกับน้ำเข้า
น้ำยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน พอเห็นนรมนก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
นรมนจะนึกภาพได้ยากมากว่าน้ำในอดีตจะแกร่งกล้าอาจหาญได้ยังไง
เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับน้ำ จึงได้แต่ยิ้มแล้วก็พยักให้เล็กน้อยแล้วก็กะว่าจะจากไป แต่กลับได้ยินน้ำพูดเสียงต่ำขึ้นว่า“ที่คุณพูดมาเป็นความจริงเหรอคะ?”
“อะไรนะ?”
นรมนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
น้ำยิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันได้ยินหมดแล้วค่ะ”
นรมนกลับเป็นคนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “บุริศร์กับป้องเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน”
“ธเนศพลจะไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ”
น้ำจ้องมองนรมน มีความตื่นเต้นเล็กน้อย มีความร้อนใจเล็กน้อย แต่นรมนสามารถมองออกได้ ว่าสิ่งที่มีอยู่เยอะกว่าคือน้ำกำลังปลอบใจตัวเองอยู่
นรมนไม่รู้ว่าน้ำได้ยินไปมากเท่าไหร่ แต่ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอรู้สึกว่าน้ำจำเป็นที่จะต้องรู้ความจริง
เพราะฉะนั้นนรมนก็เลยเอาเรื่องที่บุริศร์บอกกับเธอ รวมทั้งเรื่องที่ตัวเองคาดเดาบอกกับน้ำไปให้หมด
ชมพูไม่ได้อยู่ด้วย น่าจะนอนหลับไปแล้ว น้ำถึงออกมาคุยเรื่องพวกนี้กับเธอได้ เพราะฉะนั้นนรมนก็เลยไม่ได้ปิดบังอะไร
“วิสุทธิ์ใกล้จะมาถึงแล้ว ไม่แน่พรุ่งนี้เช้าตื่นมา วิสุทธิ์ก็อาจจะมาถึงแล้ว เขานำเลือดของธเนศพลมาด้วย จะได้ตรวจดีเอ็นเอกับชมพู น้ำ ฉันรู้ว่าตอนนี้หัวสมองของคุณคงจะวุ่นวายมาก และก็เชื่อว่าคุณเชื่อมั่นในตัวธเนศพล แต่คุณคิดว่าด้วยนิสัยของธเนศพลแล้ว พวกคนตระกูลพรรณโรจน์ทำอย่างนั้นกับคุณ แถมยังให้คุณกับลูกต้องทนลำบากไปหลายปีขนาดนั้น เขาจะยอมรามือไปได้เหรอ? เมื่ออำนาจของจักรพรรดิสำแดงออกมาแล้ว ไม่มีใครมีวิธีหยุดยั้งได้หรอก”
นรมนไม่รู้ว่าน้ำจะทำยังไง แต่ถ้าเธอยังคงมีความคิดแบบที่มีต่อธเนศพลเมื่อแปดก่อนอีก งั้นก็โง่เกินไปแล้ว
ในเมื่อแปดปีมานี้ เธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ดี แต่ธเนศพลกลับต้องตะเกียกตะกายอยู่ระหว่างความเป็นความตาย และเดินทีละก้าวทีละก้าวจนเดินมาถึงตำแหน่งในทุกวันนี้ได้ มีเรื่องบางเรื่องที่เขาไม่อยากทำ แต่ก็ไม่ทำไม่ได้ และนี่ก็คืออำนาจของการปกครอง
ทั้งตัวน้ำนิ่งอึ้งไปเลย
ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่กล้าเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองต้องมาแบกรับทั้งหมดล้วนเกิดมาจากการทำร้ายตระกูลตัวเอง
ชั่วขณะหนึ่งน้ำหัวเราะเสียงดังขึ้นมา แต่น้ำตากลับไหลลงมาตามหางตา
“คุณนายบุริศร์ ขอบคุณมากค่ะ”
น้ำไม่ใช่คนทั่วไป แน่นอนว่าต้องรู้ว่านรมนกำลังช่วยตัวเองอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกของเธอนั้นย่ำแย่มาก เธอต้องการหาที่สักแห่งมาผ่อนคลายให้ดีสักหน่อย
นรมนเองก็เข้าใจดีอยู่ และพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก็ไม่พูดอะไร
น้ำไม่ได้กลับไปในห้อง ในเมื่อลูกสาวยังนอนหลับอยู่ ความชั่วร้ายและความสกปรกบางอย่างตอนนี้เธอยังไม่อยากจะให้ลูกสาวมารับรู้เร็วเกินไป
เธอมาถึงห้องรับแขก
ที่นี่ไม่มีใครแล้ว น้ำนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา ถึงแม้ว่าเครื่องทำความอุ่นจะอบอุ่นมาก แต่ว่าเธอก็ยังคงรู้สึกว่าหนาวเย็นไปทั่วร่างกาย
เมื่อก่อนเธอก็เคยเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลพรรณโรจน์ และก็มีความเป็นได้สูงที่จะได้เป็นนายใหญ่ประจำตระกูลพรรณโรจน์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเพราะเหตุนี้ถึงได้ทำให้ตัวเองมามีสภาพอย่างในตอนนี้ได้
ขวัญชนกนี่ก็ช่างเหลือเกินจริง ๆ!
พูดว่าเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลพรรณโรจน์ แต่ที่จริงก็คือความโลภเท่านั้น ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเป็นการคาดเดาของนรมน แต่ว่าน้ำรู้ดี ว่ามันคือความจริง
หลายปีมานี้ ถึงเธอจะต้องอยู่อย่างยากลำบากมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยติดต่อตระกูลพรรณโรจน์ นั่นเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดด่างพร้อยของตระกูลพรรณโรจน์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าทุกอย่างนี้ล้วนเป็นการกระทำของตระกูลพรรณโรจน์
จิตใจของน้ำโดนทำร้ายเข้าแล้วจริง ๆ
เธอเอาแต่นั่งอยู่ในห้องรับแขกอยู่อย่างนั้น จนถึงช่วงรุ่งเช้าตอนที่วิสุทธิ์มาถึง
วิสุทธิ์นั้นรู้จักน้ำอยู่ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่เจอน้ำอีกครั้งนั้นจะเป็นสถานการณ์แบบนี้ และน้ำที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ตัวเขาตกใจไปอย่างมากเหมือนกัน
น้ำผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ยังจะไปมีความสดใสแบบเมื่อก่อนซะที่ไหน ถึงแม้ว่าจะรู้เรื่องทุกอย่าง และวิสุทธิ์เองก็รู้ว่าหลายปีมานี้น้ำมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ดีเท่าไหร่
ตอนนั้นหลังจากที่ธเนศพลออกมาจากคุกแล้ว ก็ไม่ไปสืบค้นข่าวคราวของน้ำอีก เพราะกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวและไปตามหาน้ำ และตอนนั้นเพราะว่าเรื่องติดคุกตัวเขาเองก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากมากเหมือนกัน พระราชาให้โอกาสเขาแค่ครั้งเดียว ตัวเขาเองจึงแยกตัวออกไปทำเรื่องอย่างอื่นไม่ได้
มาวันนี้กลับคิดไม่ถึงว่าเพราะพวกเขาไม่ไปสืบหา น้ำถึงมามีสภาพแบบนี้ได้
ที่จริงวิสุทธิ์กับน้ำก็ถือได้ว่าเคยเป็นเพื่อนร่วมรบกันมาก่อน เพียงแต่ตอนนี้พอมาสบตากัน เขากลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ กลับกลายเป็นน้ำที่ยิ้มอ่อน ๆ แล้วเปิดปากพูดขึ้นว่า
“คุณมาแล้วเหรอ?”
น้ำเสียงของเธอแหบแห้งเป็นอย่างมาก เสียงแหบอย่างกับเส้นเสียงพิการเลย
วิสุทธิ์รู้สึกทำใจไม่ได้เล็กน้อย
“ทำไมถึงทำให้ตัวเองมีสภาพอย่างกับผีแบบนี้ล่ะ?”
“ใช่ซิ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมฉันถึงได้ทำให้ตัวเองมีสภาพแบบนี้ไปได้”
น้ำยิ้มอย่างขมขื่นขึ้น เธอรู้ว่าเป้าหมายที่วิสุทธิ์มาเพราะว่าอะไร แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “รอก่อนเถอะนะ ชมพูยังนอนอยู่ เด็กคนนี้ก็ตกใจมากแล้วเหมือนกัน และบนร่างกายก็บาดเจ็บอยู่ด้วย ไม่ว่าจะทำอะไร ก็รอให้แกตื่นก่อนค่อยว่ากันเถอะ”
“ได้”
วิสุทธิ์เองก็ไม่ได้ฝืน
เขานั่งลงตรงข้าง ๆ น้ำ มองเห็นน้ำเหี่ยวเฉาไปแบบนี้ภาคใต้ความโหดร้ายของกาลเวลา ก็สามารถนึกถึงความรู้สึกของธเนศพลในตอนที่มาเห็นสภาพของน้ำในตอนนี้ได้
น้ำรู้ว่าวิสุทธิ์กำลังพิเคราะห์ตัวเองอยู่ และก็รู้ว่าตอนนี้โฉมหน้าของตัวเองได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว เธอจึงถามเสียงต่ำขึ้นว่า “เขารู้หรือเปล่าว่าคุณมาที่นี่?”
“รู้ แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะคุณกับลูก ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนพิเศษอยู่”
คำพูดของวิสุทธิ์ทำให้น้ำนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
ฝึกฝนพิเศษ!
คำคำนี้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องของเมื่อชาติที่แล้ว
เมื่อก่อนเธอก็เคยเป็นคนที่มักจะฝึกฝนพิเศษอยู่บ่อย ๆ แต่ว่าเธอในตอนนี้แม้แต่จะหิ้วถังน้ำสักอันก็ยังเปลืองแรงเลย
ในดวงตาของน้ำมีแววเจ็บปวดพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
“วิสุทธิ์ ลูกเป็นของธเนศพล ฉันรู้ว่าตระกูลธนเกียรติโกศลต้องการผลตรวจดีเอ็นเออันหนึ่ง และฉันเองก็รู้ว่าด้วยสถานภาพของฉันในตอนนี้ ไม่มีทางที่จะสานต่อโชคชะตาเก่ากับธเนศพลต่อได้แล้ว แต่ว่าจะสามารถขอร้องคุณให้ไปช่วยบอกกับธเนศพลหน่อยได้ไหมว่า ลูกยังเล็กอยู่ ให้ฉันอยู่ข้างกายลูกไปก่อนได้ไหม รอให้แกเติบโตขึ้นอีกสักหน่อยฉันก็จะจากไปเอง”
หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าน้ำจะยังคงรักธเนศพลอยู่ แต่ว่าอยู่ภายใต้การทำร้ายของเบิร์ด เธอได้สูญเสียความเชื่อมั่นในอดีตไปแล้ว
สถานะของธเนศพลในตอนนี้เธอไม่กล้าอาจเอื้อม ถึงแม้ว่าเธอจะยังเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลพรรณโรจน์ แต่ถ้าจะให้คู่ควรกับธเนศพลได้ก็ยังห่างไกลอีกมาก
เมื่อก่อนเป็นเพราะว่าอายุน้อยบ้าบิ่น ขอแค่มีความรักอย่างเดียวก็จะพุ่งไปข้างหน้าไม่หยุด แต่ตอนนี้ผ่านการขัดเกลามาหลายปี น้ำก็เข้าใจว่าระยะห่างของตัวเองกับธเนศพลมันอยู่ตรงไหนมาตั้งนานแล้ว
ชีวิตนี้สามารถมีความรักอย่างบ้าคลั่งได้ครั้งหนึ่ง ก็เพียงพอแล้ว
วิสุทธิ์หลับตาลง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ความคิดของธเนศพลนั้นคุณเข้าใจดีที่สุด เขาไม่ใช่คนที่คนอื่นจะมาควบคุมได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะอยากทำอะไร ก็พูดกับเขาต่อหน้าเองดีกว่า”
น้ำเงียบขรึมลง
พอผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงได้โทรศัพท์หาขวัญชนกต่อหน้าวิสุทธิ์
เบอร์โทรของนายใหญ่ตระกูลพรรณโรจน์เธอมีมาตลอด แต่ก็ไม่เคยโทรเลยสักครั้ง เมื่อก่อนเป็นเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะให้ตระกูลพรรณโรจน์ต้องอับอาย ชีวิตของตัวเอง ตัวเองก็ดำเนินไปก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าเบิร์ดจะใช้ความรุนแรงในครอบครัว จะเล่นพนัน นี่ล้วนเป็นชะตากรรมของเธอน้ำ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาไปบอกกับตระกูลพรรณโรจน์แล้วให้คนอื่นเอาไปติฉินนินทา
แต่มาวันนี้พอรู้ว่าทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะว่าขวัญชนกประทานมาให้ ถ้าจะพูดว่าไม่เกลียดก็คงจะเป็นเรื่องปลอมแล้ว
ที่ตั้งใจรอให้วิสุทธิ์มาถึงแล้วถึงได้โทรศัพท์สายนี้ออกไป ก็เพราะอยากจะให้วิสุทธิ์รู้ว่าตระกูลพรรณโรจน์ทำอะไรกับเธอไปบ้าง วางกับดักกับธเนศพลยังไงบ้าง เธอเชื่อว่าด้วยนิสัยของธเนศพลนั้น ตระกูลพรรณโรจน์จะต้องมีจุดจบที่ไม่ดีแน่
ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่เมตตาตระกูลพรรณโรจน์ และไม่ใช่เพราะว่าเธอไร้เยื่อใย แต่ว่าคนอย่างเธอนั้นสามารถอดทนต่อความเจ้าเล่ห์และกับดักทุกอย่างที่คนในครอบครัวทำกับเธอได้ แต่กลับไม่มีทางอดทนกับเรื่องที่พวกเขาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับธเนศพลและลูกของเธอได้
ถ้าหากว่าทุกอย่างนี้ขวัญชนกเป็นคนทำ งั้นหลายปีมานี้เธอต้องมีชีวิตอยู่ยังไง ลูกต้องมีชีวิตอยู่ยังไงขวัญชนกก็จะต้องรู้เรื่องอยู่แล้ว แถมอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าขวัญชนกเป็นคนบงการด้วยซ้ำ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมเธอจะต้องเปิดทางรอดให้ตระกูลพรรณโรจน์ทางหนึ่งด้วยล่ะ?
ลูกสาวของเธอมีชาติกำเนิดสูงส่ง แต่กลับต้องโดนปิดบังเอาไว้ โดนคนตระกูลพรรณโรจน์เอาไปเล่นอยู่ในกำมือ แถมยังกะว่าจะใช้ชมพูนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาให้ตระกูลพรรณโรจน์อีก
พวกเขามีสิทธิ์อะไร?
ในดวงตาของน้ำมีแววโหดเหี้ยมพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
ในวินาทีที่โทรศัพท์โดนรับสาย น้ำก็กดเปิดบันทึกเสียง แล้วยังเปิดลำโพงด้วย
“ขวัญชนก ฉันคือน้ำ”
แม้แต่คำว่าลุงน้ำก็ไม่อยากเรียกแล้ว เดรัจฉานแบบนี้ไม่สมควรที่จะมาเป็นลุงของเธอ!
เห็นได้ชัดว่าขวัญชนกคิดไม่ถึงว่าน้ำจะโทรศัพท์หาตัวเองได้ แต่ว่าเขาก็ได้รับข่าวแล้ว เจ้าสวะเบิร์ดนั่นตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำไปไหนแล้ว
“เธออยู่ไหน?”
คำพูดของขวัญชนกไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
เบิร์ดบอกว่าน้ำโดนชายชู้ของเธอมาพาตัวไปแล้ว แต่ว่าขวัญชนกลองตรวจสอบดูแล้ว ธเนศพลยังอยู่ที่เมืองหลวง เพราะฉะนั้นจะต้องไม่ใช้ธเนศพลแน่ งั้นจะเป็นใครไปได้ล่ะ?
ขวัญชนกนั้นไม่ได้ตรวจสอบเจออะไร ในเมื่อระยะเวลายังไม่ได้นาน และคุณท่านจิรเมธก็ไม่อยากจะตะเกียกตะกายอะไรอีกแล้ว แน่นอนว่าก็ไม่มีทางไปบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับขวัญชนกแน่
ในเมื่อขวัญชนกเป็นคนก่อกรรมไว้ ก็จะต้องให้ขวัญชนกเป็นคนมาแบกรับ แต่ที่น่าเสียดายคือจะต้องชดใช้ตระกูลพรรณโรจน์ทั้งตระกูลไปด้วย
คุณท่านจิรเมธไม่อยากจะเห็นตระกูลพรรณโรจน์พังพินาศไป แต่ก็ไม่มีแรงหยุดยั้ง และหลังจากที่คุยโทรศัพท์กับป้องจบแล้วก็ประกาศหนังสือออกไปฉบับหนึ่ง บอกว่าป้องไม่เห็นผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในสายตา จึงจะตัดเขาออกจากตระกูลพรรณโรจน์ และลบชื่อออกจากบัญชีรายชื่อลำดับวงศ์ตระกูลพรรณโรจน์ด้วย
ในตอนที่ขวัญชนกรู้ข่าวนี้นั้นก็ได้โล่งอกไปอย่างแรงทีหนึ่ง
ป้องเป็นหนามยอกอกของขวัญชนกมาตลอด ในเมื่อครอบครัวฝั่งของโพนี่ยิ่งใหญ่ซะขนาดนั้น เขากลัววันไหนป้องเกิดมีใจแล้วกลับมาแย่งตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลของเขา พอตอนนี้ได้ยินว่าคุณท่านจิรเมธตัดป้องออกจากบัญชีรายชื่อลำดับวงศ์ตระกูล เขาก็รู้สึกว่าทั้งตัวสบายขึ้นเยอะเลย
ส่วนคุณท่านจิรเมธหลังจากที่ทำเรื่องนี้เสร็จแล้วก็กล้ามเนื้อหัวใจวายขึ้นมาทันที จากนั้นก็ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปเลย
ทางด้านขวัญชนกถึงแม้ว่าจะเสียใจอยู่บ้าง แต่ว่าก็แอบดีใจไม่หยุด
ป้องโดนตัดชื่อออกไปแล้ว ถ้าเกิดว่าตาแก่ตายไป ตระกูลพรรณโรจน์นี้ก็จะได้กลายเป็นของเขาคนเดียวจริง ๆ แล้ว ต่อไปก็จะไม่มีคนมากดดันเขาได้อีกแล้ว
แล้วก็ในตอนที่ขวัญชนกกำลังดีใจเช่นนี้อยู่นั้น น้ำก็โทรศัพท์มาพอดี และนี่ก็ทำให้ขวัญชนกเข้าใจขึ้นมาว่า ตัวแปรน้ำคนนี้มีโอกาสที่จะมากลายเป็นตัวถ่วงของตัวเองได้สูงมาก เพราะฉะนั้นเขาคิดว่าจะต้องจบปัญหาแล้ว
น้ำไม่ได้โง่ขนาดจะบอกกับขวัญชนกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เพียงแต่แค่ถามเสียงเย็นขึ้นว่า “ตอนนั้นทำไมฉันถึงต้องแต่งงานกับเบิร์ดคุณคงเข้าใจดีที่สุด ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเป็นวันเกิดของคุณ แล้วคุณจัดงานเลี้ยงขึ้นมางานหนึ่ง แล้วเชิญคนมามากมาย วันนั้นฉันโดนคุณเรียกตัวไปที่ห้องหนังสือ แล้วถามฉันว่าอนาคตจะเอายังไงต่อไป แล้วคุณก็ให้น้ำฉันมาแก้วหนึ่ง คุณเป็นลุงใหญ่ของฉัน ฉันจึงไม่มีความหวาดระแวงต่อคุณอยู่แล้ว แต่พอฉันดื่มน้ำนั่นเข้าไปแล้วก็สลบไปเลย พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็นอนอยู่ข้างกายเบิร์ดแล้ว และพวกคุณก็ผลักประตูเข้ามาพอดิบพอดีแบบนั้น ฉันคิดว่านี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ?”
พอคำพูดนี้พูดออกมา ดวงตาของวิสุทธิ์ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ลงครู่หนึ่ง
ที่แท้นี่ถึงจะเป็นสาเหตุที่น้ำแต่งงานกับเบิร์ด!
ที่จริงตอนนั้นเขาโกรธเคืองมาก ถึงแม้ว่าธเนศพลเป็นคนคิดแผนการจะผลักน้ำออกไป แต่ว่าน้ำกลับหันหน้าไปก็ไปแต่งงานกับเบิร์ดเลย ในตอนนั้นเรื่องนี้ก็ฉีกหน้าธเนศพลอยู่มากเหมือนกัน ที่สำคัญตอนนั้นธเนศพลยังโดนจับตัวไป แล้วการกระทำทั้งหมดของน้ำนี้ก็สามารถทำให้คนอื่นคิดว่าเธอเปลี่ยนใจไปหาคนใหม่แล้ว
และเพราะแบบนี้ วิสุทธิ์ถึงได้พูดคำพูดที่อยากให้ธเนศพลยอมแพ้ไปอยู่ข้างหูธเนศพลด้วย ไม่งั้นหลังจากที่ออกจากคุกแล้วธเนศพลก็คงจะไม่สามารถอยู่นิ่งไม่ไปตามหาน้ำได้หรอก
พอตอนนี้มาดูแล้ว กลับกลายเป็นเขาที่ช่วยผิดทางแล้ว