แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1545 ทำไมจะต้องมาวางกับดักใส่ฉัน
พอขวัญชนกได้ยินน้ำพูดอย่างนี้ ยังไงสีหน้าก็ยังขรึมลงอยู่บ้าง
“เรื่องเก่าตั้งนมนานมาแล้ว เธอจะมาพูดถึงมันทำไม?”
“คุณลุงใหญ่ คุณคิดว่าฉันพูดเรื่องนี้ทำไมล่ะ?”
อารมณ์ของน้ำร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย
“ตอนนั้นคุณบอกให้ฉันแต่ง ฉันก็แต่ง เพราะว่าตระกูลพรรณโรจน์จะอับอายขายหน้าในครั้งนี้ไม่ได้ ถึงแม้ฉันจะเคยสงสัยมาก่อนว่าคุณลุงเป็นคนวางแผน น้ำแก้วนั้นต้องมีปัญหา แต่ว่าเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ฉันสู้คนอื่นไม่ได้ ฉันก็ต้องยอมรับ และที่สำคัญตอนนั้นคุณบอกกับฉันว่าธเนศพลโดนจับตัวไปแล้ว ขอแค่ฉันไม่คบกับเขา ขอแค่ฉันแต่งงานกับคนอื่นไป คุณท่านขวัญชัยก็จะไปช่วยธเนศพล เพราะฉะนั้นฉันถึงได้ยอมแต่งงานไป”
ตอนแรกเธอไม่ได้อยากจะพูดเรื่องพวกนี้ แต่ทำยังไงได้ตอนนี้มันรู้สึกเกลียดมากจริง ๆ
หัวคิ้วของวิสุทธิ์ไม่ได้ผ่อนคลายลงเลย
ตอนนั้นเรื่องที่ธเนศพลฆ่าคนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มากพอสมควรเลย ถึงจะเป็นคุณท่านขวัญชัยออกหน้าก็ไม่ได้ช่วยเรียกร้องอะไรให้ธเนศพลได้ และอีกอย่างคนอื่น ๆ ของตระกูลธนเกียรติโกศลธเนศพลก็ไม่ได้เป็นของตกแต่ง และแทบจะอยากจะให้คู่แข่งอย่างธเนศพลนี้หายไป เพราะฉะนั้นณ ตอนนั้นธเนศพลนั้นตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก มีคนมากมายอยากจะแอบเอาชีวิตของธเนศพล วิธีการทั้งเปิดเผยและแอบซ่อนต่างก็มีมาไม่ขายสาย
ในช่วงหลายปีที่ธเนศพลติดคุกอยู่นั้นแทบจะไม่เคยได้นอนหลับดี ๆ เลยสักครั้ง และจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โดนลอบฆ่าอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นพอได้ยินน้ำบอกกับขวัญชนกว่า ขอแค่ยอมแต่งงานกับเบิร์ด ก็จะมีวิธีมาช่วยธเนศพลได้ วิสุทธิ์ก็เลยอึ้งไปเล็กน้อย
ในเมื่อสถานะและความเป็นอยู่ธเนศพลเป็นยังไงนั้นน้ำรู้ดี เพราะฉะนั้นในเวลานั้นที่เธอทำแบบนั้นเพราะว่าต้องการช่วยธเนศพลเหรอ?
วิสุทธิ์จ้องมองน้ำทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
หัวคิ้วของขวัญชนกขมวดเข้าด้วยกันแน่น
“ตกลงเธออยากจะพูดอะไร?”
“ฉันแค่อยากจะถาม ฉันทำเพื่อตระกูลพรรณโรจน์ทุกอย่าง ทำไมคุณจะต้องมาวางกับดักใส่ฉันด้วย?”
อยู่ ๆ น้ำเสียงของน้ำก็สูงขึ้นมาหลายส่วน
ขวัญชนกกลับพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายเล็กน้อยว่า “วางกับดักใส่เธอเหรอ? น้ำ เธอควรจะขอบคุณฉันถึงจะถูก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าฉันวางกับดักใส่เธอ เธอจะสามารถแต่งงานกับเบิร์ดได้เหรอ? สถานการณ์ในตอนนั้นด้วยความรู้สึกที่เธอมีต่อธเนศพล ถ้าไม่แต่งงานออกไป ก็คงจะรอต้องธเนศพลต่อไปใช่ไหมล่ะ?
หรือว่าก่อเรื่องที่รุนแรงขึ้นมาหน่อย และไม่แน่เพื่อช่วยธเนศพลแล้วเธออาจจะก่อเรื่องอะไรที่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลพรรณโรจน์ออกมา แถมไม่แน่ศัตรูของตระกูลธนเกียรติโกศลอาจจะคิดว่าเธอเป็นเป้าหมาย แล้วก็ฆ่าเธอไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเธอควรจะขอบคุณฉัน ที่ฉันวางกับดักใส่เธอ ให้เธอได้แต่งงานกับเบิร์ด ก็ถือได้ว่าสามารถรักษาชีวิตเธอได้ครั้งหนึ่งแล้ว”
“ใช่เหรอคะ? คุณทำเพราะหวังดีกับฉันเหรอ?”
อยู่ ๆ น้ำก็หัวเราะขึ้นมาเลย แต่ว่าสายตากลับเย็นชา
ขวัญชนกกลับหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่าเพราะหวังดีต่อเธอ ไม่ว่าจะพูดยังไง เธอก็เป็นคนของตระกูลพรรณโรจน์ เป็นหลานสาวของฉัน”
“คุณยังรู้ด้วยเหรอคะว่าฉันเป็นหลานสาวของคุณ! งั้นทำไมพอฉันแต่งงานกับเบิร์ดแล้ว ถ้าหากว่าหวังดีต่อฉันจริง ๆ ทำไมจะต้องวางยาใส่เขาด้วย? จนทำให้เขาไม่สามารถที่จะเป็นผู้ชายที่แท้จริงได้?”
คำถามของน้ำทำให้เงยหน้าขึ้นมาทันทีวิสุทธิ์
หมายความว่ายังไง?
ที่จริงหลายปีมานี้น้ำไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตลอด ไม่มีการกระทำระหว่างสามีภรรยากับเบิร์ดมาตลอดเลยเหรอ?
วิสุทธิ์ตกใจแทบตายอยู่แล้ว
พอขวัญชนกได้ยินน้ำถามมาแบบนี้ ก็รู้ว่าน้ำรู้เรื่องแล้ว แล้วก็ไม่ปิดบังอีก แล้วพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ถึงฉันจะไม่วางยาเบิร์ด แล้วเธอจะยอมเสียตัวให้เขาเหรอ? คนที่ใจเธอรักอยู่คือธเนศพล ระยะเวลาสั้นขนาดนั้นจะให้เธอลืมธเนศพลไปมันจะเป็นไปได้ยังไง? เพราะฉะนั้นถึงเธอจะแต่งงานกับเบิร์ดไปก็ไม่มีทางให้เขามาแตะเนื้อต้องตัวเธออยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจงช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ไป และยังทำแบบถอนรากถอนโคนด้วยไม่ดีเหรอ?”
“นี่คุณหวังดีกับฉันเหรอ? ใช่ ฉันยอมรับ ฉันแต่งงานกับเบิร์ดแล้วอาจจะไม่มีเรื่องอย่างว่าแบบสามีภรรยากับเขา แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องยื่นมือเข้ามาทำแบบนั้น! คุณทำให้เขากลายเป็นผู้ชายที่แท้จริงไม่ได้ แล้วไม่เคยคิดถึงจุดยืนของฉันเลยเหรอ? คุณเป็นคนตระกูลพรรณโรจน์ แต่คุณกลับทำให้เบิร์ดเข้าใจผิดคิดว่าธเนศพลเป็นคนลงมือทำ เบิร์ดแต่งงานกับฉัน แล้วต้องมากลายเป็นขันทีไป เขาก็เลยมีความโกรธแค้นอยู่ในใจ แล้วมาใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับฉัน นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่คุณอยากเห็นมากที่สุดใช่ไหม? จริง ๆ แล้วคุณเกลียดฉันใช่ไหม”
น้ำคิดไม่ตกในจุดนี้มาตลอด มีความแค้นใหญ่หลวงอะไรถึงทำให้ขวัญชนกมาลงมือกระทำกับตัวเองแบบนี้ พอได้มานั่งอยู่ในห้องรับแขกทั้งคืนในที่สุดเธอก็คิดตกหมดแล้ว
ในตอนที่น้ำกับขวัญชนกแย่งชิงตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลอยู่นั้น พวกเขาก็ได้แตกหักกัน และได้กลายเป็นศัตรูต่อกันไปแล้ว
และขวัญชนกก็สามารถยืมมือเบิร์ดมาทำให้ตัวเองต้องอยู่เหมือนตายทั้งเป็น และยังสามารถระบายความชั่วร้ายที่อยู่ในใจออกไปได้ทีหนึ่ง และยังไม่ขัดคำสั่งสอนของบรรพบุรุษที่ห้ามคนตระกูลพรรณโรจน์เข่นฆ่ากันเอง นี่มันช่างเป็นการคำนวณแผนการได้อย่างฉลาดแกมโกงมากจริง ๆ
พอโดนน้ำซักถามเรื่องนี้ออกมา ขวัญชนกเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ! เธอเป็นหลานสาวของฉัน ตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลก็ควรจะเป็นเรื่องของรุ่นฉัน รุ่นเด็กอย่างเธอจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยทำไม?
ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีเธอกับป้องมาเป็นตัวเปรียบเทียบ ตาแก่จะไม่ชื่นชอบฉันเหรอ? แล้วตอนนั้นเป็นเพราะว่าเรื่องของเธอกับธเนศพล ตาแก่ยังอยากจะเอาตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลสืบทอดให้กับเธอด้วยซ้ำ เธอมันยัยเด็กกะโปโลคนหนึ่ง จะไปมีปัญญาอะไรมานำพาตระกูลพรรณโรจน์ไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้?
แล้วอีกอย่าง เธอนึกว่าเรื่องของเธอกับธเนศพลปิดบังได้ดีมากเหรอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าฉันคอยกำกับอยู่ข้างนอก พวกเรื่องนั้นของเธอกับธเนศพลก็โดนคนอื่นรู้ไปนานแล้ว ยังไง?
ตอนนี้จะมาโกรธเกลียดฉันแล้วเหรอ? ตัวเธอเองมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับธเนศพล จนเกิดตั้งท้องขึ้นมาแล้วตัวเองยังไม่รู้เรื่องอีก ถ้าเกิดเบิร์ดแตะต้องเธอไป ใครจะไปพูดได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของธเนศพลหรือเปล่า? ในเมื่อเธอเป็นคนของตระกูลพรรณโรจน์ ก็สมควรที่จะทำการเสียสละอะไรออกมาบ้างเพื่อตระกูลพรรณโรจน์”
ตอนนี้น้ำเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว หัวใจของเธอก็ค่อย ๆ เย็นยะเยือกตามลงมาแล้วเหมือนกัน
“เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลพรรณโรจน์ฉันไม่มีอะไรจะพูด แต่ว่าคุณให้ฉันไปแต่งเข้าบ้านตระกูลธีรกุลภักดี แล้วก็ทำให้ตระกูลธีรกุลภักดีพังพินาศไป คุณต้องการให้ตระกูลพรรณโรจน์รุ่งโรจน์จริง ๆ เหรอ?
คุณก็แค่ต้องการแก้แค้นฉัน และทรมานฉันเท่านั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉันตั้งท้องลูกของธเนศพลขึ้นมา คุณก็คงจะฆ่าฉันไปแล้ว แต่ว่าการทำให้อัปยศอดสูแบบนี้มันน่ากลัวกว่าฆ่าฉันไปซะอีกใช่ไหม?
ให้เบิร์ดมาวางยาพิษใส่ฉัน ทำให้ฉันสูญเสียฝีมือการต่อสู้ไป ถึงจะสามารถให้คุณควบคุมได้ตามใจชอบใช่ไหม? และก็เป็นเพราะแบบนี้ คุณถึงสามารถควบคุมฉัน และควบคุมลูกของฉันไว้ได้ และทำให้แกกลายเป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่คุณจะเอาไปเอาใจธเนศพลในอนาคตใช่ไหม?”
“ใช่! ที่เธอพูดมาถูกหมดเลย แต่ว่าแบบนั้นแล้วจะยังไง? ตอนนี้เธอเป็นคนที่มีชนชั้นต่ำที่สุดในสังคม อยากจะไปสัมผัสคนสูงส่งอย่างธเนศพลนั้นมันยากราวกับขึ้นสวรรค์เลย ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะโดนคนช่วยไปแล้วจะยังไง? ยังสามารถรู้ไปถึงเบื้องบนอีกเหรอ?
ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ น้ำ ลูกสาวของเธอชมพูมีแต่ฉันเท่านั้นที่สามารถทำให้แกเข้าสู่วงศ์ตระกูลได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีเธอเกรงใจฉันหน่อย หลายปีมานี้ทุกสิ่งที่เบิร์ดทำกับเธอนั้นฉันรู้อยู่แล้ว เธอเองก็ทนลำบากมานานหลายปีแบบนี้
มาวันนี้ในเมื่อสามารถหนีออกไปได้แล้ว แน่นอนว่าฉันก็คงจะไม่ทำอะไรเธอแล้ว ขอแค่เธอพาตัวชมพูกลับมาอย่างเชื่อฟัง ฉันรับรองว่าต่อไปเธอก็ยังสามารถเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลพรรณโรจน์ได้ สำหรับเบิร์ดนั้น ฉันจะช่วยขจัดทิ้งเอง ฉันคิดว่าเธอเองก็คงไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองเข้าไม่ได้สู่วงศ์ตระกูลหรอกมั้ง? เพราะฉะนั้นความแค้นระหว่างเราสิ้นสุดกันเพียงเท่านี้ เป็นไง?”
พอได้ยินคำพูดที่หน้าไม่อายแบบนี้ของขวัญชนก น้ำก็แทบจะโมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว
เธอถามขึ้นว่า “นี่คือเจตนาของคุณคนเดียวใช่ไหม หรือว่าเป็นเจตนาของคนทั้งตระกูลพรรณโรจน์?”
“ตระกูลพรรณโรจน์กับฉันมันแตกต่างกันยังไง? น้ำ ฉันเป็นนายใหญ่ของตระกูลพรรณโรจน์ คำพูดของฉันก็คือเจตนาของตระกูลพรรณโรจน์ และยิ่งเป็นทางเดินในอนาคตของตระกูลพรรณโรจน์ด้วย ยังไง? เธอยังอยากจะไปขอร้องให้ใครมาช่วยเธออีก?
ฉันไม่กลัวที่จะบอกเธอหรอกว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตาแก่ได้ประกาศหนังสือออกมาแล้ว ว่าได้ตัดพี่รองนายป้องคนที่เธอดีด้วยที่สุดออกไปจากตระกูลพรรณโรจน์แล้ว แถมยังตัวชื่อออกไปจากบัญชีรายชื่อลำดับวงศ์ตระกูลอีกด้วย ถ้าหากเธออยากจะให้เขามาช่วยออกหน้าแทนเธอละก็ เปลี่ยนใจไปเถอะ”
คำพูดของขวัญชนกกลับทำให้น้ำโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง
เธอรู้สึกว่าตระกูลพรรณโรจน์สมควรได้รับการลงโทษ แต่ว่าเธอก็เป็นห่วงป้องอยู่เหมือนกัน
เจตนาที่คุณท่านจิรเมธทำแบบนี้นั้น ครู่เดียวน้ำก็เข้าใจแล้ว ดูท่าคุณปู่เองก็น่าจะรู้เรื่องของเธอนี้แล้ว
เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้วคุณปู่ก็ไม่ได้โทรศัพท์หาเธอ แม้แต่คำพูดขอโทษสักคำก็ยังไม่ยอมพูด
ในใจของน้ำนั้นเย็นยะเยือกไปทั้งฝืน
เธอยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ขวัญชนก เป็นนายใหญ่ตระกูลพรรณโรจน์ของคุณไปดี ๆ เถอะ คุณเป็นได้อีกไม่นานหรอก”
“เธอหมายความว่ายังไง?”
ขวัญชนกมึนงงไปเล็กน้อย น้ำเองก็ขี้เกียจที่จะพูดอะไรกับเขาแล้ว แล้วก็กดวางสายไปเลย
ความรู้สึกของเธอนั้นเจ็บปวดมาก แต่ว่าเรื่องบางอย่างเธอก็จำเป็นต้องทำ เพราะว่าเธอยังมีลูกสาวอยู่อีกคนหนึ่ง
วิสุทธิ์รู้จักนิสัยของน้ำดี เขาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมจะบอกธเนศพลไปตามความจริง เพียงแต่ว่าคุณกับธเนศพลนั้น……”
“ฉันรู้ดีค่ะ ไม่ว่าหลายปีมานี้ฉันจะสะอาดหรือไม่ แต่เรื่องระหว่างเขาก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ฉันเองก็ไม่มีอะไรที่จะเรียกร้องเป็นพิเศษ แค่หวังว่าเขาจะสามารถยอมรับชมพูสักหน่อย หลายปีมานี้เด็กคนนี้ก็ลำบากมามากแล้วจริง ๆ”
น้ำรู้สึกว่าตัวเองทำผิดต่อลูก
ถ้าเกิดเธอรู้ตัวว่าตั้งท้องลูกของธเนศพลตั้งแต่แรก เธอก็จะไม่มีทางแต่งงานกับเบิร์ดแน่ เธอนึกว่าตัวเองโดนวางยา แล้วเกิดความสัมพันธ์กับเบิร์ดแล้วถึงได้ตั้งท้องขึ้นมา พอตอนนี้มาคิดดูแล้ว ในเมื่อขวัญชนกกะว่าจะใช้ตัวเองกับลูกมาเป็นสิ่งเรียกร้องผลตอบแทน งั้นก็คงไม่มีทางให้ตัวเองกับเบิร์ดเกิดความสัมพันธ์กันขึ้นแน่ งั้นแผนการในครั้งนั้นตัวเองก็ไม่ได้เสียตัวไปซิ เพียงแต่ว่าเธอรู้ตัวช้าเกินไป ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องแล้วก็เท่านั้น
พอต่อมาชมพูคลอดก่อนกำหนด เธอก็นึกว่าเป็นเพราะว่าครอบครัวเกิดความเปลี่ยนแปลง ร่างกายไม่แข็งแรงจึงทำให้คลอดก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าชมพูจะเป็นเด็กที่คลอดตามกำหนดไปได้
มาวันนี้ทุกอย่างต่างก็คิดตกแล้ว กลับยิ่งทำให้ใจคนเจ็บปวดมากขึ้น
ถึงแม้ว่าจะยังคงรักธเนศพลอยู่ แต่ว่าธเนศพลกลับไม่ใช่คนที่เธอจะอาจเอื้อมได้อีกแล้ว
บุริศร์กับนรมนรอจนน้ำกับวิสุทธิ์พูดคุยกันจบแล้วถึงเดินลงตึกมา
“มาแล้วเหรอ?”
“อืม”
วิสุทธิ์พยักหน้าให้บุริศร์เล็กน้อย
“เดี๋ยวกินข้าวเช้าพร้อมกันนะ”
นรมนยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เข้าครัวไป
น้ำเองก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปช่วยเหลือ
พอนรมนเห็นเธอเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณไปดูแลลูกเถอะ ที่นี่ฉันจัดการเอง และที่สำคัญก็มีคนรับใช้อยู่ด้วย ฉันก็แค่ดูเมนูอาหารหน่อยเท่านั้น บนตัวยัยหนูชมพูยังมีบาดแผลลับ ๆ อยู่ไม่น้อย คุณให้วิสุทธิ์ทำการตรวจร่างกายทั้งตัวให้หน่อยก็ดีนะ”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันกับลูกของฉันตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ยังไม่รู้เลยค่ะ คุณนายบุริศร์ เรื่องของวันนี้ ฉันจะจดจำไว้นะคะ”
น้ำไม่ใช่คนแบบว่ามีบุญคุณแล้วไม่ตอบแทน แต่นรมนกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น
“ฉันช่วยชมพูไว้ก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกของคุณกับธเนศพล ฉันก็แค่ทนเห็นเด็กตัวเล็กขนาดนั้นต้องมาทนลำบากมากขนาดนั้นไม่ได้ สำหรับบุญคุณไม่บุญคุณอะไร คุณคิดมากเกินไปแล้ว บุริศร์กับธเนศพลเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน กับป้องก็ด้วยเหมือนกัน เขาบอกว่าคุณเป็นทหารที่ดีที่สุดในมือเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาไม่มีทางที่จะไม่ยุ่ง แต่คุณก็จะต้องรู้ไว้ด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ตระกูลโตเล็กของเรามีเรื่องยุ่งยากเต็มตัวไปหมด จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะออกหน้าออกตาเกินไป เพราะฉะนั้นถึงได้เรียกตัววิสุทธิ์มา ยังไงก็หวังว่าคุณจะสามารถเข้าใจได้นะ”
คำพูดไม่กี่ประโยคของนรมนกลับทำให้น้ำเข้าใจสถานการณ์อะไรมากขึ้นมาทันที
เธอขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนนี้ธเนศพลกะว่าจะลงมือกับตระกูลใหญ่โตแล้วเหรอ?”
“เขาไม่ลงมือ พระราชาก็จะลงมือเหมือนกัน ระบอบการปกครองกำลังจะเปลี่ยนแปลง คุณเกิดมาในตระกูลพรรณโรจน์ น่าจะเข้าใจดีนะ”
คำพูดที่มากกว่านี้นรมนก็ไม่ได้พูดอีก แต่ว่าน้ำก็เข้าใจแล้ว และก็เป็นเพราะว่าเข้าใจแล้ว เธอถึงได้เข้าใจชัดเจนดีว่าระยะห่างระหว่างตัวเองกับธเนศพลนั้นห่างกันมากแค่ไหน แล้วถ้าเธออยากจะเชื่อมสัมพันธ์เดิมกับธเนศพลนั้น เหมือนกับว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว