แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1551 เป็นเธอจริงๆ
“คุณให้ผมจินตนาการสักหน่อย ได้ไหม?
นรมนยิ้มขึ้นมาทันใด
เธอรู้ว่าบุริศร์ตั้งใจเที่ยวเล่นเป็นเพื่อน แต่บางครั้งบางเรื่องก็ต้องแก้ไข และมันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะซ่อน ยิ่งไปกว่านั้นกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ที่อยู่ของเจตต์แน่ชัด ตระกูลปวนะฤทธิ์ถูกใครวางพิษกู่ใส่ก็ยังสืบหาไม่ได้ พวกคนในเงามืดที่คอยจ้องแต่จะหาโอกาสและลงมือก็อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้คือปลอดภัยชั่วคราว
เป็นไปไม่ได้ที่นรมนและบุริศร์จะอยากหนีออกไป
เธอลูบไหล่ของบุริศร์ และพูดกระซิบ “เกรงว่าคุณชายธเนศพลจะพาน้ำและชมพูกลับเมืองหลวง ฉันได้ยินมาว่าคุณท่านได้ให้เขาดูงานแต่งงานไว้แล้ว กลับไปคราวนี้กลัวว่าจะมีเหตุการณ์นองเลือดขึ้นอีก”
“เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ธเนศพลน่าจะอยู่ที่นี่อีกสองวัน”
บุริศร์รู้จักธเนศพลดีที่สุด ตอนนี้ก็รู้ว่าตัวเองหลบไม่พ้นอีกต่อไป เขาไม่อยากทิ้งโอกาสที่จะได้เที่ยวเล่นกับภรรยาของตัวเอง อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “บางทีโทรหาคุณชายอรรณพก็ไม่เลว”
“ตอนนี้คุณชายอรรณพยุ่งมาก อาจจะไม่ลงมือด้วยตัวเอง แต่ก็ยังสามารถจำกัดอิสระของเจ้าของบ้านได้”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะขึ้นมา
“ใช่ พวกเราไปเที่ยวกันก่อน ไม่เป็นวันนี้แล้วจะมีวันไหน? กลุ่มทัวร์นี้ก็ไม่เลวเลย เราไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ค่ะ”
นรมนกลับไม่มีความเห็นอะไร
บุริศร์โทรหาอรรณพ และให้เขาหาใครสักคนมาจำกัดอิสระในการเข้าและออกในตระกูลของเบิร์ด แต่กลับทำให้อรรณพโกรธเหลือทน
“หาเรื่องให้ฉันทุกวัน กับอีแค่ชาวเมืองผู้มีอันจะกินก็ต้องให้ฉันลงมือเอง? บุริศร์ นี่นายเห็นฉันเป็นเฮียแล้วเหรอ?”
“ในประเทศYฉันรู้จักแค่นายคนเดียวไม่ใช่หรือไง? ยิ่งไปกว่านั้นนะพวกเราคือพี่น้องกัน ไม่หานายจะให้ไปหาใคร?”
“ฉันมันโชคไม่ดีเสียจริงที่ต้องมาเป็นพี่น้องกับนาย”
อรรณพวางสายไปอย่างโกรธเคือง
บุริศร์รู้สึกว่าคำนี้มันช่างคุ้นหู?
อืม เหมือนคำที่เขาเคยด่าธเนศพลไม่นานมานี้นี่เอง กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์สินะ ก็พวกเขาต่างก็นิสัยเหมือนกันนี่
บุริศร์ไม่มีความรู้สึกผิดสักนิด วางสายเสร็จก็ไปเที่ยวกับนรมน
นรมนเที่ยวเล่นอย่างมีความสุข กิจกรรมที่เมื่อก่อนไม่มีเวลาเข้าร่วมตอนนี้ก็มีประสบการณ์แล้ว แม้กระทั่งตอนพายเรือในทะเลสาบกับบุริศร์ เธอก็รู้สึกหวานชื่นอย่างไม่มีเหตุผล
เธอเอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปและวิดีโอเอาไว้เยอะมากครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะส่งรูปภาพเข้าโมเมนต์
กมลเห็นหม่ามี้มีชีวิตอย่างเก๋ไก๋ ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
“หม่ามี้ อย่ามาอวดได้ไหม? ไม่อย่างนั้นหนูจะให้คุณอาชัยยศจองตั๋วให้หนู แล้วไปหาทันทีเลยนะคะ ถ้าหากหม่ามี้กับแด๊ดดี้ต้องการก้างขวางคอที่แสนน่ารักอย่างหนู”
หลังจากที่นรมนเห็น เธอก็บล็อกไม่ให้กมลเข้าไปดูโมเมนต์ของเธอได้โดยตรง
กมลรู้โดยทันทีว่าเธอโดนหม่ามี้บล็อกเข้าให้แล้ว
ฮือฮือฮือ ปวดใจนัก
นรมนไม่สนว่าลูกสาวจะเสียใจแค่ไหน ก่อนจะไปชมการแสดงของสาวประเภทสองในเขตชายแดนกับบุริศร์
สาวประเภทสองพวกนั้นสวยงามราวกับผู้หญิงแท้ นรมนแปลกใจอย่างมาก
“คนพวกนั้นคือสาวประเภทสองจริงหรือคะ? ไปลองจับดูได้ไหม?”
สีหน้าของบุริศร์มืดหม่นลงในทันใด
“คุณพูดอะไร?”
อุณหภูมิโดยรอบดูเหมือนจะลดลงถึงจุดเยือกแข็งในทันที นรมนยิ้มแหย่ๆอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ฉันแค่ลองคิดดูค่ะ”
“คิดก็ไม่ได้ สาวประเภทสองพวกนั้นดูดีกว่าผมเหรอ?”
คำถามนี้เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง นรมนจะตอบได้ยังไง
“ไม่เหมือนกันไหมคะ อีกอย่าง คุณสง่าผ่าเผย จะเอามาพูดเปรียบเทียบกับคนที่ร้องเพลงแสดงแสงสีอย่างคนพวกนี้ได้ยังไงคะ?”
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ไปกันเถอะ!”
เดิมทีบุริศร์ก็ไม่ชอบดูอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ถ้าหากนรมนไม่ยืนกรานที่จะมา เขาก็คงไม่ตามใจหรอก นี่มาก็มาแล้ว ยังจะไปลองจับดูอีก?
แล้วขั้นต่อไปละ?
หรือจะลองนอนด้วยไปเลย?
บุริศร์ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่ ทำไมถึงยอมให้นรมนมาที่นี่นะ?
เมื่อนรมนได้ยินว่าบุริศร์จะพาตัวเองออกไปแล้ว เธอรีบดึงแขนเสื้อของบุริศร์อย่างน่าสงสารทันที และพูดว่า “ดูอีกรอบได้ไหมคะ ไกด์นำเที่ยวบอกว่าอีกเดี๋ยวจะมีการแสดงที่น่าชมด้วย”
“คุณอยากดูอะไร? เดี๋ยวกลับโรงแรมผมจะแสดงให้คุณดู”
“หะ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตกใจ
การแสดงของสาวประเภทสองเขาก็แสดงได้เหรอ?
ความสามารถรอบด้านเกินไปแล้ว?
แต่ตอนนี้เธอไม่กล้ามถาม ยังคิดที่จะต่อสู้ต่อไป แต่กลับถูกบุริศร์อุ้มออกไปโดยตรง ข้างหลังมีเสียงของผู้หญิงดังมา กระทั่งมีคนยอมจ่ายเงินไปหลังเวทีเพื่อไปลองสัมผัสและพิสูจน์ดูว่าเป็นสาวประเภทสองจริงไหม
นรมนอิจฉา
ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้เธอไม่ตามบุริศร์ไปหรอก ฮือฮือฮือ!
ราวกับบุริศร์มองความคิดของนรมนออก เขาโกรธแล้ว
“ผมขอเตือน คราวหลังมาดูอะไรยุ่งเหยิงแบบนี้อีก ดูเลยว่าผมจะจัดการกับคุณยังไง”
นรมนโกรธแต่ก็ไม่พูดอะไร
ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยตัวเอง พอถึงตอนนั้น ฮึ่ม จะทำยังไงไม่ให้บุริศร์มาสั่ง
เธอแอบคิดในใจ แต่ตัวก็ถูกบุริศร์อุ้มออกไปยังรถทัวร์แล้ว
มีคนขับรถบัสคอยดูแลอยู่บนรถทัวร์ เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองขึ้นมาเขาจึงค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย
“พวกคุณไม่ไปดูการแสดงเหรอครับ?”
“ภรรยาของผมปวดท้องครับ ไม่ดูแล้ว จะขึ้นมาพักผ่อนเสียหน่อย”
เมื่อคำโกหกโดยไม่คิดของบุริศร์ได้พูดออกมา นรมนก็อยากดูถูกเขาโดยตรง
เธอปวดท้อง?
ทำไมเธอไม่รู้?
นรมนแอบหยิกหลังบุริศร์ลับหลังคนขับรถ เมื่อเห็นบุริศร์ขมวดคิ้วถึงค่อยปล่อย แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพูดว่า “โอ๊ย ฉันปวดท้อง อยากกินของอร่อย”
ท่าทางอย่างนี้ของนรมนราวกับเด็ก บุริศร์จะพูดอะไรได้อีก?
เขาถอนหายใจ ก่อนพูดอย่างรับชะตาชีวิตว่า “อยากกินอะไรครับ?”
บุริศร์รู้สึกว่านรมนยิ่งเหมือนกมล นี่ออกมาเที่ยวไม่กี่วัน ปากไม่เคยจะว่าง กินขนมขบเคี้ยวและผลไม้หลากหลายอย่างไปทั่ว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ให้เธอกิน แต่กลัวว่ากินเข้าไปแล้วท้องไส้จะรับไม่ไหว อย่างไรสุขภาพของนรมนก็ใช่ว่าจะดี แต่เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของภรรยา บุริศร์จึงตัดสินใจไม่พูด
นรมนเห็นคนขายขนมข้าวเหนียวที่อยู่ไม่ไกล จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฉันอยากกินขนมข้าวเหนียวค่ะ”
“รออยู่บนรถนี่แหละ เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้”
บุริศร์นำนรมนไปนั่งบนที่นั่ง ก่อนจะลุกขึ้นลงจากรถทันที
เมื่อมองท่าทางที่ยังคงเปล่งประกายของบุริศร์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน นรมนอดไม่ที่จะยิ้ม
ออกมาเที่ยวครั้งนี้ เธอรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปตอนที่เธอมีความรักอย่างลุ่มหลง และเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก
นรมนรู้สึกว่าเธอจะกลายเป็นคนบ้าผู้ชายถ้าดูต่อไป เธออดไม่ได้ที่จะเพิกถอนสายตา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาปัดดูโมเมนต์บนโทรศัพท์ เมื่อเห็นคนกดไลค์หลายคน มุมปากก็ยิ่งยกยิ้มอย่างมีความสุข
ทันใดนั้นบริเวณโดยรอบก็มีเสียงแสบหูของยางรถยนต์เสียดสีกับพื้นดังขึ้น ซึ่งทำให้หูของนรมนทนไม่ได้เล็กน้อย
เธอเงยหน้าขึ้น มองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งขับมาอย่างมุทะลุ ราวกับกำลังไล่ตามใคร
ขับรถเบนท์ลีย์ไล่ตามคน ช่างหรูหรา
นรมนส่ายศีรษะ แต่จู่ ๆ ก็พบว่าคนที่ถูกไล่ล่าดูเหมือนขวัญตา?
ขวัญตา?
เป็นไปได้ยังไง?
หัวใจของนรมนเต้นถี่รัวอย่างกะทันหัน
ห่างมาเป็นเวลาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่เจตต์โทรมาหาเธอเมื่อครั้งก่อน แถมเรื่องของขวัญตาและตระกูลปวนะฤทธิ์ก็ไม่มีข่าวอะไรมาโดยตลอด ถ้าหากเป็นขวัญตาจริงๆ เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
นรมนลุกขึ้นทันที ก่อนจะพูดกับคนขับรถว่า “คุณคะ ประเดี๋ยวสามีฉันกลับมา รบกวนคุณบอกเขาให้หน่อยว่าเดี๋ยวฉันกลับมานะคะ”
พูดจบนรมนก็กระโดดลงจากรถก่อนจะวิ่งไปทางนั้น
ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วมาก นรมนรู้สึกว่าถ้าพึ่งแค่สองขาของตัวเองคงไล่ตามไปไม่ทันแน่ เธอจึงเช่ารถยนต์คันหนึ่งข้างทาง ก่อนจะกระโดดขึ้นรถและไล่ตามไป
ดูเหมือนรถเบนท์ลีย์จะจงใจเล่นกับขวัญตา ทุกครั้งที่ไล่ตามทัน ก็จะเหยียบเบรกรถ เสียงแสบแก้วหูทำให้จิตใจของคนมีความรู้สึกบีบรัดอย่างมาก
แรกเริ่มเดิมทีนรมนยังคงสงสัยว่าคนคนนั้นคือขวัญตาจริงหรือไม่ แต่เมื่อถึงคราวเลี้ยงโค้งอย่างเร่งรีบ ทันใดขวัญตาก็ล้มลง จู่ๆใบหน้าที่สวยสดงดงามก็ปรากฏต่อหน้าสายตาของนรมน
เป็นเธอจริงๆ!
แต่ทำไมเธอถึงผอมอย่างนี้?
นรมนสงสัยเล็กน้อย กลับไม่ลังเลอีก เธอขับรถพุ่งไปหารถเบนท์ลีย์ก่อนจะชนเข้าให้
เบนท์ลีย์ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนมาชนตัวเองอย่างไม่กลัวตาย ในขณะที่ไม่ทันได้ระวัง รถก็ได้ถลาเข้าไปชนกับป้ายโฆษณาข้างทาง
นรมนไม่กล้ารีรอ ฉวยโอกาสนี้เหยียบคันเร่งก่อนจะขับตรงไปยังข้างหน้าขวัญตา
เธอรีบเปิดประตูรถ ก่อนจะตะโกนว่า “ขึ้นรถ!”
นรมนชะงักไปนิด เมื่อเธอเห็นนรมนเธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เบนท์ลีย์ข้างหลังได้มีท่าทีโต้ตอบมา เธอไม่มีเวลาจะมาคิดมาก ดังนั้นเธอจึงคว้าประตูรถแล้วกระโดดขึ้น
ความเร็วรถของนรมนไม่ได้ลดลง หลังจากที่เห็นขวัญตาขึ้นมาแล้วเธอจึงเหยียบคันเร่งอีกครั้ง แต่รถคันนี้เป็นเพียงรถธรรมดา ความเร็วของมันไม่เท่ากับรถเบนท์ลีย์อย่างแน่นอน พลันระยะห่างของรถทั้งสองคันก็เคลื่อนย้ายเข้ามาใกล้กันเล็กน้อย
ทำยังไงดี?
นรมนร้อนใจเล็กน้อย ในเวลานี้โดยไม่ทันคาดคิด ขวัญตาได้หยิบปืนออกมาจากเอวของเธอโดยตรง ก่อนจะเปิดหน้าต่างแล้วยิงไปยังด้านหลัง
การยิงปืนบนท้องถนนทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงมาก ทันใดนั้นทั้งถนนก็มีเสียงดังอึกทึกขึ้นมา และนรมนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันได้สอบถาม
ขวัญตาในเวลานี้เหมือนคนแปลกหน้าเล็กน้อย ไม่คุ้นเคยจนนรมนคิดว่าตัวเองช่วยผิดคน แต่นรมนกลับได้ยินเสียงของขวัญตาพูดกระซิบมาว่า “นรมน มีโบสถ์อยู่ข้างหน้าขวามือ ลงจากรถที่นั่นซะ คนที่พวกเขาต้องการคือฉัน เธออยู่นี่มันจะรังให้เธอเกี่ยวข้องกับเธอไปด้วย”
ตอนนี้จมูกของนรมนแสบร้อน ในเวลานี้ขวัญตายังคงไม่อยากเกี่ยวข้องกับตัวเองหรือ?
เธอจำได้ว่าขวัญตาเป็นโรคซึมเศร้าเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับเจตต์ ผู้หญิงทั่วไปเกรงว่าจะเกลียดเธอไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ขวัญตายังจะเป็นห่วงตัวเองดั่งเช่นเคย ความรู้สึกนี่มันช่างน่าเศร้า
“พี่สะใภ้!”
“อย่าชักช้า รีบเชื่อฟัง ฉันยื้อได้ไม่นาน นี่เธอคงไม่ได้มาคนเดียวใช่ไหม? รบกวนเธอกับบุริศร์ไปช่วยเจตต์หน่อย เขาอยู่ที่ตรงนี้!”
ขวัญตารีบเอากระดาษในมือยัดให้นรมน เดิมทีเธอหลบหนีออกมาเพื่อหาโอกาสช่วยเจตต์ เดิมทีด้วยตัวเธอเพียงคนเดียวไม่มีแผนการอันที่จะชนะได้ แต่สวรรค์เปิดตาให้เธอได้พบเจอกับนรมน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เพียงแค่มีบุริศร์และนรมนอยู่ เจตต์ก็มีโอกาส
รถขับไปถึงหน้าประตูโบสถ์อย่างรวดเร็ว ขวัญตายัดปืนใส่ลงไปในมือของนรมน ก่อนจะเปิดประตูทางด้านคนขับ ไม่ว่านรมนจะเต็มใจหรือไม่ เธอก็ผลักนรมนออกไปโดยตรง
แรงของเธอไม่เยอะ ทั้งความเร็วของรถก็ลดต่ำลง และด้วยความสามารถของนรมนเธอจึงลงถึงพื้นอย่างปลอดภัยไร้ปัญหา