แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1558 ครั้งนี้ถึงกับขาอ่อน
“เป็นไปได้”
บุริศร์ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
เพราะคนที่มีความสามารถเรื่องนี้ มีไม่เยอะ ถ้าอยู่รวมกัน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
การรอคอยช่างทรมาน บุริศร์บอกให้นรมนไปนอนก่อน แต่เรื่องวุ่นวายแบบนี้ นรมนไม่มีทางหลับลง แต่เธอกลับรู้สึกหิว
“เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้ทาน”
พอนรมนพูดขึ้นมา บุริศร์ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน
“เดี๋ยวฉันทำให้”
นรมนเห็นว่าบุริศร์ก็ยังไม่ได้พักผ่อน ยังดีที่เธอได้นอนตั้งนาน จึงจะลงมือทำอาหารเอง แต่โดนบุริศร์ห้ามไว้ก่อน
“คุณอยู่รอเถอะ ในครัวมีแต่กลิ่นน้ำมันกับควัน”
พูดจบ เขาจึงเดินลงไปข้างล่าง
นรมนยิ้มยกมุมปากเบาๆ
กลิ่นน้ำมันกับควันอย่างนั้นเหรอ
พูดเหมือนเขาเข้าไปในครัว แล้วจะไม่มีกลิ่นน้ำมันกับควันอย่างนั้นแหละ แต่ความรู้สึกรักใคร่เช่นนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
บุริศร์ทำอาหารง่ายๆ เป็นบะหมี่ไข่สองถ้วย แต่นรมนกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย
หรือเป็นอย่างที่คำโบราณว่าไว้ ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอกับบุริศร์เป็นสามีภรรยากันมานาน แต่ยังมีความรู้สึกเช่นนี้
เมื่อทั้งสองทานอาหารเสร็จ นรมนไปล้างถ้วย ครั้งนี้บุริศร์ไม่ได้ห้ามเธอ
มิลินถึงที่นี่ตอนตีห้า เมื่อมาถึง บุริศร์พาเธอไปที่ห้องใต้ดิน
เมื่อเบิร์ดเห็นบุริศร์พาผู้หญิงเข้ามา เขาถึงกับอึ้งไป แต่เขาไม่มีสิทธิ์ถามอะไร และทำได้เพียงยืนพิงอยู่ด้านข้าง
เมื่อมิลินเห็นพนอ เธอขมวดคิ้วทันที
“ผู้ใหญ่บ้าน นี่โดนหนอนกู่”
“แก้พิษได้ไหม”
“ได้ค่ะ แต่ยากนิดหน่อย”
บุริศร์พยักหน้า เมื่อได้ยินคำพูดของมิลิน “ฝากเธอด้วยนะ”
เมื่อพูดจบ เขาจึงถอยไปข้างหลัง
เรื่องหนอนกู่ เขาขยะแขยงมาก ถึงแม้ตอนนี้เขาเป็นคนของหมู่บ้านดารายน
เมื่อเบิร์ดได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ เขาถึงกับอึ้งไป
น้อยคนที่จะรู้เรื่องหนอนกู่ คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเป็นเรื่องลึกลับ ยิ่งไปกว่านั้นพนอกับเบิร์ดอยู่ด้วยกันมาหลายปี ถ้าในตัวเขามีพิษอะไรอยู่ แค่คิด เบิร์ดก็เสียวสันหลังวาบ
“หนอนกู่สามารถติดต่อกันได้ไหม”
นี่คือปัญหาที่ เบิร์ด สนใจมากที่สุด
มิลินไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่เมื่อไม่โดนมัดตัวไว้ น่าจะไม่ใช่ศัตรูของบุริศร์ ดังนั้นเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ นอกจากเขาจะทำให้นายโดนหนอนกู่”
เมื่อพูดจบมิลินก็กำจัดหนอนกู่ให้ พนอ โดยไม่สนใจเบิร์ด
เบิร์ดยังอยากถามอีก แต่เมื่อรู้สึกแรงกดดันจากบุริศร์ เขาจึงอดกลั้นเอาไว้ แต่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
พนอวางหนอนกู่ใส่เขาหรือเปล่า
เขากำลังครุ่นคิด และพยายามหาว่ามีส่วนไหนในร่างกาย ที่ผิดปกติหรือเปล่า
บุริศร์ไม่สนใจว่าเขากำลังคิดอะไร เขาสนใจแค่ความเป็นความตายของพนอเท่านั้น
มิลินกำจัดหนอนกู่ให้พนออย่างชำนาญ แต่ร่างกายของพนอก็เจ็บปวดจนกล้ามเนื้อกระตุก จนเกือบจะกัดลิ้น
บุริศร์สั่งให้คนกดตัวของพนอเอาไว้ มิลินมีสีหน้าเย็นชา เหมือนไม่รู้สึกอะไรกับความเจ็บปวดของพนอ แต่เธอพูดกับบุริศร์ว่า “หนอนกู่ชนิดนี้ อยู่ในระดับต่ำมาก เอามาลงโทษคนที่ไม่เชื่อฟัง มันทำให้คนเจ็บปวดจนรู้สึกว่าอวัยวะภายในเคลื่อนตัว และแทบอยากจะกัดลิ้นตาย นับว่าเป็นวิธีที่ใช้ควบคุมคน โดยทั่วไปแล้วใช้ไข่หนอนใส่เข้าไปในร่างกาย ให้มันค่อยๆ เจริญเติบโตในร่างกาย ปกติจะไม่มีปัญหาอะไร นอกจากแม่หนอนกู่จะเคลื่อนไหว ถึงมีผลกระทบกับเขา”
บุริศร์ขมวดคิ้ว แล้วถามว่า “แล้วเรากำจัดมัน ฝั่งแม่หนอนกู่จะรู้ไหม”
“ไม่รู้ นี่ไม่ใช่หนอนกู่ที่อันตรายถึงชีวิต แค่ทำให้คนทรมาน ถึงกำจัดออก ฝั่งนั้นก็ไม่รู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ดี”
ระหว่างที่พูด มิลินแยกจุดที่มีเส้นสีแดงโผล่ออกมา บนร่างกายของพนอ จากนั้นจึงรีบใช้แหนบชุบแอลกอฮอล์ คีบหนอนตัวสีฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาออกมา
หนอนดิ้นไปดิ้นมา มิลินรีบโยนมันลงในถาดข้างๆ ในถาดมีของเหลว เมื่อหนอนตัวสีฟ้าถูกโยนลงมาในถาด ก็ละลายหายไปอย่างรวดเร็ว
เบิร์ดเห็นภาพตรงหน้า เขาอ้าปากค้าง และยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น
เอาจริงนะ!
มีของแบบนี้อยู่ในโลกจริงๆ เหรอ
เขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองได้เปิดโลกใหม่
มิลินกับบุริศร์ไม่มีเวลาไปสนใจว่าเบิร์ดกำลังคิดอะไร มิลินรีบยัดยาเม็ดใส่ปากพนอทันที
เธอพูดต่อ “อาการในตอนนี้ กลัวว่าจะไม่ได้มีแค่ไข่หนอน มีหนอนที่เจริญเติบโตพร้อมกัน มีหนึ่งตัวเจริญเติบโต ส่วนอีกตัวหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่าในตัวเขามีหนึ่งหรือสองตัว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งโชค”
บุริศร์ขมวดคิ้ว
สิ่งนี้มันวุ่นวายมาก
“ถ้ามีสองตัว เราเอาตัวนี้ออกมาแล้ว อีกตัวจะเจริญเติบโตเมื่อไร”
“สามถึงหกเดือน”
“ถ้าในช่วงนี้เกิดปัญหาอะไร จะถึงตายไหม”
“ถึงตายได้”
คำพูดของมิลิน ทำให้บุริศร์กลุ้มใจ แต่เขาก็พูดว่า “งั้นต้องรีบถาม ไม่แน่เขาอาจตายพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้ต้องถามสิ่งที่ฉันอยากรู้ให้ได้ เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
คนอื่นพากันพยักหน้า
ในเมื่อมิลินมาแล้ว บุริศร์จึงไม่คิดให้เธอกลับไป ยิ่งไปกว่านั้น เธออยู่ในวงการนี้ มีเธออยู่ด้วย จะได้ใช้งานเธอได้
“ไปหาห้องพักแขกนอนข้างบนสิ พรุ่งนี้อาจต้องรบกวนเธออีก”
“ค่ะ”
มิลินไม่ได้ถามเรื่องอื่น เธอเก็บของและเดินออกมา
เบิร์ดยังอึ้งอยู่ เมื่อเห็นมิลินเดินออกไป เขาจึงถามอย่างหวาดระแวง “พนอเขา……”
“เห็นหนอนนั่นหรือยัง”
บุริศร์มองเบิร์ดด้วยสายตาราบเรียบ จู่ๆ เบิร์ดรู้สึกขนหัวลุก
“เห็น เห็นแล้ว”
“ถ้านายอยากรู้ว่าตอนหนอนอยู่ในร่างกาย รู้สึกยังไง ฉันให้มิลินทำให้ได้นะ”
คำพูดของบุริศร์ เกือบทำให้เบิร์ดทรุดลงกับพื้น
“ประธานบุริศร์ ผมซื่อสัตย์กับคุณจริงๆ นะ ผมไม่ต้องการของแบบนี้”
หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
มีหนอนแบบนี้อยู่ในร่างกาย สูบเลือดตัวเองทุกวัน เขารู้สึกขยะแขยงจนจะอ้วก
บุริศร์ต้องการให้เป็นแบบนี้
“ทำตามฉัน นายรู้เอาไว้ด้วยว่า การที่ฉันช่วยนายจากคุณชายธเนศพล ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน นายคงไม่ได้คิดหรอกนะว่าคุณชายธเนศพล จะไว้ชีวิตนายจริงๆ ตอนนี้นายมีประโยชน์ เขาสามารถทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง เพื่อแสดงน้ำใจ แต่ถ้าเรื่องนี้เสร็จ นายคิดว่านายยังมีทางรอดไหม”
บุริศร์ไม่กลัวการพูดชัดเจนกับเบิร์ด
เบิร์ดเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรทำยังไง เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด
อันที่จริง บนโลกนี้มีคนแบบนี้เยอะมาก แต่ก็มีหลายคนไม่สนใจ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ สิ่งที่บุริศร์ชอบ ก็คือไม่ว่าสถานการณ์ไหน ถึงในใจจะเคียดแค้น แต่เบิร์ดก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
จากฐานะของเบิร์ดเมื่อก่อน เขาจะอยู่ในหมู่บ้านยากจนตั้งแปดปีได้ยังไง แถมยังปรับตัวได้ในสิ่งแวดล้อมต่างๆ เหมือนปลาได้น้ำ
ตอนนี้เบิร์ดถึงกับเข่าอ่อน
เขาทรุดลงกับพื้น และพูดเหมือนจะร้องไห้ “คุณชายบุริศร์ ไว้ชีวิตผมด้วย ผมรับรองว่าตั้งแต่นี้จะรับใช้คุณ คุณจะให้ผมทำอะไร ผมทำทุกอย่าง”
“จำคำพูดของนายวันนี้ เอาไว้ให้ดี ฉันจะทำตามสัญญา ตอนนี้ขึ้นไปหาห้องพักเหมือนมิลิน จัดการตัวเอง แล้วพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำ”
บุริศร์ไม่ได้หยาบคายอะไรกับเขา
“ครับ”
เบิร์ดไม่อยากอยู่ในนี้สักวินาทีเดียว เขารีบออกจากห้องใต้ดินทันที
พนอโดนเอาหนอนกู่ออกจากร่างกาย ทำให้เขาต้องพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูกำลัง ดังนั้นเขาคงยังไม่ฟื้นขึ้นมา เรื่องที่บุริศร์อยากรู้ คงไม่สามารถทำได้ตอนนี้
เขามองพนอ แล้วพูดกับคนข้างๆ ว่า “เฝ้าเขาให้ดี ให้เขาพักผ่อน 24 ชั่วโมง หลังจาก 24 ชั่วโมง ฉันหวังว่าจะได้ยินอะไรที่มีประโยชน์จากปากเขา”
“ครับคุณชายบุริศร์”
บุริศร์ลุกขึ้น และเดินออกจากห้องใต้ดิน
เมื่อนรมนเห็นมิลิน ก็รู้ว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงอดถามไม่ได้ “เป็นยังไงบ้าง”
“ราบรื่นดี แต่ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการพรุ่งนี้ค่ะ”
มิลินตอบอย่างสุภาพ
นรมนเห็นความเหนื่อยล้าในแววตาของเธอ จึงพูดว่า “รีบไปพักผ่อนสิ ไว้ค่อยคุยกัน”
“ค่ะ”
มิลินกลับไปที่ห้องได้ไม่นาน เบิร์ดก็เดินออกมา แต่สีหน้าของเขาซีดเผือด ตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อเห็นนรมนเขาทำเพียงทักทาย และเดินกลับห้องพักแขก
นรมนเทกาแฟดื่ม เห็นบุริศร์กลับเข้ามา
เมื่อบุริศร์เห็นกาแฟในมือเธอ ก็ขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นเธอมีความสุขกับการดื่ม เขาก็กลืนคำที่อยากจะพูดลงคอ และรีบย้ายเครื่องทำกาแฟออกไป
นรมนเห็นท่าทางใสซื่อของเขา ก็อดเบะปากไม่ได้
ผู้ชายคนนี้นี่จริงๆ เลย……
เธอส่ายหน้าไปมา เห็นบุริศร์เอาน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว ออกมาจากห้องครัว
นรมนแอบถอนหายใจในใจ และยื่นแก้วกาแฟที่ยังดื่มไม่หมดให้บุริศร์ จากนั้นจึงเอาน้ำเปล่าในมือเขามา
สิ่งนี้จืดชืดไร้รสชาติ แต่การได้ดื่มกาแฟไปสองอึก ถือว่าบุริศร์ยอมเธอมากแล้ว เธอไม่กล้าบ่น เพราะร่างกายเป็นของตัวเอง ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ไม่ต้องพูดเรื่องบุริศร์เป็นห่วง แต่ตัวเธอเป็นคนผิดจริง
นรมนดื่มน้ำเปล่าช้าๆ บุริศร์จึงพูดว่า “พนอคงไม่สารภาพเร็วๆ นี้ นอนต่อสักหน่อยดีไหม”
“ฉันคิดถึงลูกแล้ว”
นรมนเป็นห่วงขวัญตากับเจตต์ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เบาะแสสักนิด เบาะแสเพียงอย่างเดียวคือพนอ ต้องรอให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อน
จู่ๆ เธอนึกถึงเรื่องที่กานต์ถามว่า ช่วงนี้อยู่ที่นี่หรือเปล่า แถมยังซื้อมะม่วงให้เธอ หรือว่าเขาอยู่ในประเทศ Yเหมือนกัน
บุริศร์ได้ยินนรมนพูดเช่นนั้น เขาเริ่มรู้สึกงอน แต่เขาจะทนเห็นนรมน ไม่มีความสุขได้อย่างไรล่ะ
เรื่องของเจตต์กับขวัญตา ทำให้ภรรยาของเขาทุกข์ใจมากพอแล้ว ตอนนี้ถ้าแค่ได้เจอเด็กน้อย แล้วมีความสุข เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
“โอเค เดี๋ยวผมให้คนไปรับเขา”
เมื่อนรมนได้ยิน เธอถึงกับอึ้งไป
“คุณรู้เหรอว่ากานต์อยู่ไหน”