แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1562 ใครไว้หน้านาย
“กลับ!”
บุริศร์ไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น ตอนนี้เรื่องสำคัญคือ หาตัวขวัญตากับเจตต์ให้เจอ
ถึงกานต์ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เมื่อได้ยินชื่อเจตต์ เขารีบนั่งให้เรียบร้อย แล้วเงยหน้ามองนรมน
นรมนดูเป็นกังวล สีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไร ตอนนี้เธอคงแทบอยากบินกลับไปแล้ว
จู่ๆ กานต์รู้สึกผิดขึ้นมา
แด๊ดดี้กับหม่ามี้มาเที่ยวที่นี่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงพัวพันกับคุณอาได้ล่ะ หรือเกิดเรื่องอะไรกับคุณอา
เมื่อคิดถึงเมื่อกี้ที่นรมนเป็นห่วงตัวเอง กานต์รู้สึกเศร้าใจ
หรือจะไปขอโทษไอรา ก็ไม่เห็นเป็นอะไร กลับกัน เขาเป็นผู้ชาย ถ้าเป็นแบบนี้หม่ามี้จะได้มีความสุข
เมื่อคิดได้เช่นนั้น กานต์หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาไอรา ใครจะไปคิดว่าไอราขี้งอน เมื่อกี้โดนกานต์พูดใส่แบบนั้น ไม่มีทางที่เธอจะไม่เสียใจ ตอนนี้เห็นกานต์โทรมา ไอรารีบกดบล็อกแบบไม่ต้องคิด
กานต์มีสีหน้าเคร่งขรึม
เขาบอกแล้วว่าตัวเองกับไอราดวงไม่สมพงษ์กัน ดูสิ นี่คือนิสัยของคุณหนูเหรอ
นรมนสังเกตเห็นลูกชายผิดปกติ จึงรีบถามว่า “เป็นอะไร”
“ไอราบล็อกผมแล้ว เดี๋ยวผมค่อยไปขอโทษต่อหน้าก็ได้”
ได้ยินกานต์พูดแบบนี้ นรมนอดยิ้มไม่ได้ “เก่งมาก ต่อไปอย่าทำแบบนั้นกับไอราอีก เข้าใจไหม”
“ครับ”
กานต์ก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไร และพยักหน้า เขาอยากถามเรื่องเจตต์ แต่รู้สึกถึงความกดดันในรถ จึงเงียบดีกว่า
รถมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
กานต์เห็นมิลินกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง เขาอดตกใจไม่ได้
มิลินมาที่นี่ด้วย คงจะไม่ใช่เรื่องเล็ก
“หม่ามี้ คุณบุริศร์ ผมกลับห้องก่อนนะ”
“โอเค”
ตอนนี้บุริศร์ไม่มีเวลาไปสนใจกานต์ นรมนก็อยากรู้ว่าเจตต์อยู่ไหน จึงทำได้แค่ให้กานต์กลับห้องก่อน
หลังกานต์ออกไป นรมนกับบุริศร์รีบไปที่ห้องใต้ดิน
พนอพักผ่อนมาหนึ่งคืน เขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เมื่อเห็นบุริศร์กับนรมน เขาอึ้งไปเล็กน้อย แค่ท่าทางและสีหน้าของเขา นรมนรู้ทันทีว่าเขารู้จักพวกเขา
“ลูกพี่ลูกน้องฉันอยู่ไหน”
นรมนถามออกไปตรงๆ
พนออยากยื้อเวลาอีกหน่อย เห็นบุริศร์เรียกมิลินมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ยังไม่ลืมความเจ็บปวดเมื่อคืนใช่ไหม ฉันสามารถเอาหนอนกู่ออกจากตัวนายได้ ก็สามารถเอากลับเข้าไปได้เหมือนกัน แต่หนอนกู่ที่ฉันจะใส่เข้าไปในตัวนาย ไม่ใช่ให้นายเชื่อฟัง แต่ผลจะเป็นยังไงนั้น นายคิดเอาเองแล้วกัน”
พนอหน้าซีดเหมือนกระดาษ
“อย่านะ ฉันพูด ฉันพูดทุกอย่าง แต่พวกนายจะต้องรับรองความปลอดภัยของฉัน ถ้าฉันบอกทุกอย่างที่รู้ พวกนายต้องปกป้องฉัน”
เขาพูดย้ำคำว่าจะต้องตั้งสองครั้ง นี่ทำให้นรมนกับบุริศร์อึ้งเล็กน้อย
“จะต้องงั้นเหรอ ใครไว้หน้านายไม่ทราบ”
บุริศร์แสยะยิ้มเย็นชา และก้าวเข้าไปหาเขา
พนอรู้ว่าการขอร้องของเขาไม่เหมาะสม แต่เมื่อคิดถึงความโหดเหี้ยมทารุณของคนนั้น เขาอดตัวสั่นไม่ได้
“พวกนายต้องรับรองความปลอดภัยของฉัน ไม่งั้นให้ตายฉันก็ไม่พูด”
“นายคิดว่าถึงตอนนี้ นายยังมีสิทธิ์เลือกอีกเหรอ”
แววตาบุริศร์เคร่งขรึม
พนอกล้ามาก ถึงกล้าข่มขู่พวกเขา!
“มิลิน!”
เมื่อบุริศร์พูดจบ มิลินเอาหนอนเดินเข้ามา
พนอรู้จักสิ่งนี้ ตอนนั้นเพราะเขาสงสัย จึงเห็นคนนั้นเอาหนอนหลากหลายสีสันตัวหนึ่ง ออกมาจากกล่องเล็กๆ และเอาไข่หนอนให้พวกเขาดื่ม ผลเป็นไงล่ะ
2-3 ปีมานี้ เขาต้องทุกข์ทรมานกับของสิ่งนี้ จนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน อยู่ก็เหมือนตาย ความเจ็บปวดนั้นทำให้ถึงกลับอยากถอยหลัง
พนอตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“อย่านะ ไม่เอา! ฉันพูดแล้ว ฉันพูดทุกอย่าง”
เขารับความเจ็บปวดไม่ได้อีกแล้ว
พนอสูดหายใจ แล้วพูดว่า “ฉันมีผับอยู่ที่นี่แห่งหนึ่ง ถึงเรียกว่าผับ แต่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวบรวมข่าว ในนั้นมีหนุ่มหล่อสาวสวย ใช้เพื่อดึงดูดแขกและคอยเก็บข้อมูล ด้านล่างผับเป็นห้องใต้ดิน เจตต์โดนขังอยู่ในนั้น แต่ฉันบอกพวกนายก็เปล่าประโยชน์ คนของฉันไม่ได้เฝ้าเจตต์ พวกเขาเก่งมาก พวกนายไม่มีทางเข้าใกล้ได้”
บุริศร์กับนรมนตาเป็นประกายทันที
“ผับชื่ออะไร”
“นิรันดร์”
พนอพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ
บุริศร์แค่ทำมือ ก็มีคนออกไปแล้ว
“ฉันไปด้วย”
นรมนกำลังจะออกไป แต่โดนบุริศร์ห้ามไว้ก่อน
บุริศร์มองพนอ จากนั้นจึงถามต่อ “ขวัญตาอยู่ด้วยหรือเปล่า”
“เปล่า เราไม่มีทางขังสามีภรรยาเอาไว้ด้วยกัน เพราะพวกเขาจะปรึกษากันเรื่องหนี คนนอกอย่างเราไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาจะแอบสื่อสารอะไรกันหรือเปล่า”
จนถึงตอนนี้ พนอ พูดออกมาจนหมดแล้ว
นรมนเพิ่งเข้าใจที่บุริศร์ให้ตัวเองอยู่ต่อ
ต้องช่วยเจตต์ และช่วยขวัญตาด้วย อีกทั้งพวกเขายังต้องรู้เรื่องจากปากพนอ ตอนนี้ไม่รู้ว่าในร่างกายของพนอยังมีไข่หนอนอีกหรือเปล่า ดังนั้นพวกเขาต้องรีบถามพนอให้ได้มากที่สุด
เมื่อคิดได้ดังนั้น นรมนนั่งลง
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า พนออดอึ้งไม่ได้
“พวกนายไม่ไปช่วยคนเหรอ”
“ไม่รีบ เพราะยังถามไม่จบ”
บุริศร์นั่งลง แล้วถามอย่างเยือกเย็น “จับตาตระกูลปวนะฤทธิ์ตั้งแต่เมื่อไร ตระกูลของ เบิร์ด ย่อยยับ เพราะนายคอยยุยงอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า”
เมื่อคิดถึงอรอุรชา บุริศร์อดเชื่อมโยงเรื่องของพนอกับเบิร์ดในปีนั้นไม่ได้
พนอคิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะถามตรงขนาดนี้ เดิมทีเขายังคิดอยู่ว่าจะแถยังไงให้ดูสมบูรณ์แบบ ได้ยินบุริศร์พูดว่า “อย่าโกหกฉัน ไม่งั้นฉันให้นายได้ลิ้มลองรสชาติของหนอนกู่แน่ นายต้องรู้เอาไว้ คนที่สามารถวางหนอนกู่ได้ บนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่คนสองคน ถ้านายรู้จักฉัน นายน่าจะเข้าใจ ฉันเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดารายน แม่แท้ๆ ของฉันคือโอ”
คำพูดนี้ทำให้พนอตัวสั่นอีกครั้ง เหมือนเขาคิดอะไรออก เขากลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถเลือกได้ว่าจะพูดหรือไม่พูด
“ฉันพูดแล้ว เรื่องของตระกูลธีรกุลภักดีในปีนั้น เกี่ยวข้องกับฉันจริง”
พนอเพิ่งพูดออกไป ร่างกายของเขาชักเกร็ง และเกร็งขึ้นมาก แถมยังน้ำลายฟูมปาก มันน่ากลัวมาก