แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1565 เธอเป็นใคร
เบิร์ดเข้าใจปัญหานี้ เขาอดเสียใจไม่ได้ แต่ถึงเขาเสียใจแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ถ้าคืนนี้ประธานบุริศร์จะจับทวี ฉันขอไปด้วย เพราะเรื่องน่าเวทนา ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวฉันเมื่อแปดปีก่อน เป็นฝีมือของไอ้เลวนั่น ฉันอยากรู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง”
“ได้”
บุริศร์ไม่ปฏิเสธคำขอของเบิร์ด
เมื่อได้คำตอบที่ตัวเองต้องการ เบิร์ดกลับมาที่ห้อง ส่วนมิลินมาที่ห้องโถง พร้อมกับบุริศร์และนรมน
“เป็นยังไง รู้ไหมว่าเขาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายเขาอ่อนแอ”
คำพูดของมิลินทำให้นรมนชะงักไป เธอถามว่า “อยู่ได้ถึงคืนนี้ไหม”
“น่าจะได้ค่ะ”
บุริศร์พยักหน้า และให้มิลินลงไปเตรียมตัว
นรมนขมวดคิ้ว “ยังไม่ได้ถามอีกหลายเรื่อง ขวัญชนกเกี่ยวข้องกับทวีหรือเปล่า ตอนนี้ขวัญชนกต้องการจัดการน้ำเพราะตำแหน่งหัวหน้าตระกูลจริงหรือเปล่า ถ้าเราไม่ถามเรื่องพวกนี้ให้ชัดเจน ฝ่ายธเนศพล……”
“ไม่ต้องรีบหรอก ขอแค่จับตัวทวีได้ บางทีทุกอย่างอาจชัดเจน พนอเป็นคนนอก เขาไม่รู้เรื่องสำคัญ ผมรู้สึกว่าไม่แน่ทวีอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราแก้ไขทุกอย่างได้”
“หมายความว่าไง”
นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ต้องการสื่ออะไรกันแน่ เธอจึงอดถามไม่ได้
บุริศร์ลูบหัวนรมน เขายิ้มแล้วพูดว่า “คุณดูสิ ทวีกับนิวัฒน์ นามสกุลเดียวกันไม่ใช่เหรอ”
“หืม?”
เห็นนรมนยังมีสีหน้างุนงง บุริศร์พูดต่อ “ผมสงสัยว่าทวีกับนิวัฒน์ ไม่เป็นพ่อลูก ก็อาจเป็นลุงกับหลาน”
นรมนเบิกตาโต เธอเริ่มเข้าใจ นี่มันเป็นไปได้จริงๆ
“ดังนั้นถ้าจับตัวทวีได้ ไม่แน่อาจเจอนิวัฒน์ด้วย ถึงตอนนั้นจะได้รู้ว่า เขาเป็นพ่อของน้าฉันหรือไม่ ถ้าการคาดเดาของเราถูกต้อง เจตต์ก็เป็นหลานของเขา แบบนี้ยังจะลงมือได้อีกเหรอ”
บุริศร์หรี่ตาลง แล้วพูดว่า “บางคนไม่มีความเป็นคน ไม่สนว่าลูกของตัวเองจะอยู่หรือตาย แค่หลานคนเดียว จะไปสำคัญอะไร”
คำพูดนี้ทำให้นรมนตกใจ
เธอครุ่นคริดอย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นอย่างที่บุริศร์เดา งั้นเจตต์กำลังตกอยู่ในอันตราย นอกจากจะเกิดเรื่องกับลูกชายหรือหลานของนิวัฒน์ เขาถึงจะคิดปล่อยตัวเจตต์
แต่ความคาดเดาแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล
บุริศร์ไม่รู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาเริ่มเป็นกังวล เพราะเธอเอาแต่เงียบ
“วางใจเถอะ ผมจะรีบจัดการเรื่องเจตต์กับขวัญตา คุณไม่ต้องกังวล พวกเขาต้องการเส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาไม่มีทางทำอะไรเจตต์กับขวัญตา อย่างมากก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย”
นรมนไม่ได้มองโลกในแง่ดี กับการคาดเดาของบุริศร์
เรื่องทั้งหมดต้องรอให้จับตัวทวีคืนนี้ ถึงจะทำอะไรต่อได้อย่างนั้นเหรอ
นรมนรู้สึกจิตใจไม่สงบสุข
“ตอนนี้ขวัญชนกเป็นยังไงบ้าง”
บุริศร์ได้ยินนรมนถามถึงขวัญชนกขึ้นมา เขาอดพูดไม่ได้ว่า “ธเนศพลออกคำสั่งแล้ว อยากจับจุดอ่อนของตระกูลพรรณโรจน์ ทำได้ง่ายมาก ตอนนี้ธุรกิจทั้งหมดของตระกูลพรรณโรจน์โดนตรวจสอบ ตอนนี้ขวัญชนกวุ่นวายมาก เขาสืบไปทั่ว เพราะต้องการรู้ว่าไปล่วงเกินใคร แต่คนของธเนศพลปิดปากเงียบ ไม่มีทางรู้แน่ อีกสักสองวัน ตระกูลพรรณโรจน์ต้องถอนตัวออกจากธุรกิจในเมืองชลธีแน่”
เมื่อได้ยิน นรมนไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะคนอย่างธเนศพล ที่ได้ตำแหน่งองค์ชาย คงไม่ได้เรียบง่าย เป็นกันเอง เหมือนที่เห็นภายนอก แต่เธอเป็นห่วงป้องกับโพนี่
เหมือนรู้ว่านรมนกำลังกังวลเรื่องอะไร บุริศร์พูดเบาๆ ว่า “ป้องโดนคุณท่านจิรเมธไล่ออกจากตระกูล แถมยังประกาศแล้วด้วย ตอนนี้ป้องกับโพนี่อยู่เมืองหลวง เป็นคนของธเนศพลแล้ว ดังนั้นพวกเขาต้องปลอดภัย แต่อาการของคุณท่านจิรเมธไม่ค่อยดี อยู่ในห้องไอซียู และยังไม่ฟื้น น่าจะยื้อได้อีกไม่นาน”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ป้องกับน้ำจะกลับไปเจอเขาครั้งสุดท้ายได้ไหม”
“ได้สิ เพราะเขาเป็นปู่แท้ๆ ของน้ำ ธเนศพลไม่ได้เลือดเย็นขนาดนั้น แต่นี่คือความเมตตาสุดท้าย ที่เขามีให้ตระกูลพรรณโรจน์”
บุริศร์รู้จักนิสัยของธเนศพล และไม่ต้องการพูดถึงเรื่องของธเนศพล เห็นนรมนดูอ่อนเพลีย จึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณไปอยู่เป็นเพื่อนกานต์ดีไหม ผมจัดการเรื่องทางนี้เอง”
“โอเค”
นรมนรู้ว่าถึงตัวเองอยู่ ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เธอจึงพยักหน้าและไปที่ห้องกานต์
กานต์กำลังเล่นมือถือ เขารีบลุกขึ้น เมื่อเห็นนรมนเดินเข้ามา
“หม่ามี้”
“ไม่เป็นไร หม่ามี้แวะมาดูเท่านั้น กำลังเล่นอะไรอยู่เหรอ”
“เล่นเกมครับ เล่นด้วยกันไหม”
กานต์ดูออกว่านรมนกับบุริศร์อารมณ์ไม่ค่อยดี และพอรู้ว่าเกี่ยวกับเจตต์ เขาลองสืบดูว่าเจตต์อยู่ไหน แต่ตั้งแต่ที่เจตต์รู้ว่าเขาแอบติดตั้งแอพดักฟังในมือถือ เจตต์ก็เปลี่ยนมือถือ ตอนนี้การหาตัวเจตต์ไม่ใช่เรื่องง่าย
เขาเห็นนรมนมีท่าทีกังวล เลยคิดว่าเล่นเกมสักเกม น่าจะทำให้นรมนอารมณ์ดีขึ้นสักนิด
“โอเค”
นรมนเห็นแววตาคาดหวังของกานต์ เธอจึงไม่ปฏิเสธ
ทั้งสองนั่งลง เปิดเกม และจับคู่เล่น จากนั้นจึงเข้าเกมอย่างรวดเร็ว
บางทีถ้าอยากปลดปล่อยตัวเองจริงๆ ความคิดของนรมนจดจ่ออยู่กับเกม ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นเยอะ
ทั้งสองคนเล่นเกมไปสามรอบ อย่างไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า คนใช้เดินขึ้นมาตามทั้งสองคนไปทานข้าว นรมนจึงเพิ่งรู้ว่าบุริศร์ออกไปแล้ว
ขณะเดียวกัน คนที่ออกไปกับเขาคือพนอกับเบิร์ด
นรมนอึ้งเล็กน้อย นี่แสดงว่าบุริศร์ชิงออกไปก่อน หรือไม่ก็ไม่ต้องการให้นรมนไปด้วย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน นรมนคงโกรธมาก คิดว่าบุริศร์ไม่เคารพเธอ แต่เมื่อผ่านอะไรมามากมาย ทำให้เธอรู้ว่า นี่คือวิธีที่บุริศร์แสดงออกว่ารักเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้กานต์อยู่ที่นี่ด้วย ต้องมีคนคอยดูแลลูก
นรมนวางใจ เพราะบุริศร์เป็นคนจัดการ
เธอพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร และลงมาข้างล่างกับกานต์
อาหารดูน่าทาน ทำให้รู้สึกหิว แต่นรมนไม่ทานสักที เธอมองคนใช้ตรงหน้า แล้วถามว่า “เธอเป็นใคร เข้ามาในคฤหาสน์ตอนไหน”
คนใช้หลุบตาลงพร้อมกับก้มหน้า ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด ดูจากการแต่งกาย น่าจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน แต่นรมนรู้สึกว่าเธอมีอะไรผิดปกติ
แต่บอดี้การ์ดที่บุริศร์สั่งให้อยู่ที่นี่ กลับไม่ทำอะไรเลย นรมนรู้ว่าตัวเองไม่สามารถพึ่งพวกเขาได้ บางทีตอนที่บุริศร์พาคนออกไป ที่นี่ก็โดนเพ่งเล็งเอาไว้แล้ว
จ้องแต่จะคิดบัญชีผู้อื่น โดยลืมไปว่าตนเองก็จะโดนคนอื่นคิดบัญชีเช่นกัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอกับกานต์จะโดนผู้อื่นคิดบัญชี หรือจะเป็นคนคิดบัญชีผู้อื่นกันแน่