แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1578 ตายร้อยรอบก็ไม่เพียงพอที่จะระงับความโกรธของประชาชน
- Home
- แค้นรักสามีตัวร้าย
- บทที่ 1578 ตายร้อยรอบก็ไม่เพียงพอที่จะระงับความโกรธของประชาชน
“สามีจ๋า!”
ถ้าหากก่อนหน้านี้เพราะว่าหนอนกู่ขวัญตาคาดเดาความรักความผูกพันที่เจตต์มีต่อตนเองลึกซึ้งไม่พอ กระตือรือร้นไม่เท่าความรักความผูกพันที่มีต่อนรมนล่ะก็ อย่างงั้นวินาทีนี้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าแทบตายจริงๆเลย
ตั้งแต่ตอนที่แน่ใจได้ว่าความสัมพันธ์ของเจตต์กับนรมนเป็นญาติพี่น้องกัน ความรักความผูกพันที่เขามีต่อเธอก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นกัน เธอคงไว้ด้วยความคิดเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอด ไม่ได้มั่นใจในตนเองขนาดนั้น ถ้าหากไม่ใช่เป็นอย่างนี้ นิวัฒน์ก็จะไม่จับช่องว่างนี้ได้ ทำให้ความสงสัยงงงวยที่อยู่ในใจของเธอขยาย จากนั้นเกือบจะทำร้ายเจตต์กับนรมน เจตต์ยังตกกระไดพลอยโจนไปจนถึงต้องออกทะเล พาเธอออกมาเดินเล่นผ่อนคลาย นี่จึงพบเจอกับนิวัฒน์และคนทั้งหลาย ตกหลุมพรางของพวกเขาแล้ว
“ขอโทษ ล้วนเป็นฉันใจแคบเอง”
เสียงที่แหบของขวัญตามีความสะอึกสะอื้นเล็กน้อย
ในชั่วพริบตาเดียวที่นิวัฒน์ตายไปร่างกายของเธอสบายขึ้นไม่น้อย แต่ว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่าในใจก็สบายขึ้นเช่นกันแล้ว
มุมปากของเจตต์งอขึ้นนิดๆ ยิ้มลูบหัวของขวัญตาอยู่ พูดเสียงเบาๆว่า “เรียกผมว่าสามีคำหนึ่ง ชีวิตนี้ล้วนให้คุณแล้ว? จำเป็นต้องพูดขอโทษเหรอ อีกทั้งตอนที่แต่งงานก็ได้บอกพ่อมาก่อน ได้ลูกเขยคนหนึ่งก็เหมือนได้ลูกชาย ผมแทนลูกชายคนหนึ่ง ในเมื่อเป็นบิดาของผม จะให้คนอื่นวางแผนทำร้ายผู้เฒ่าผู้แก่อย่างเขาตามใจได้อย่างไรล่ะ?”
นอกจากร้องไห้ขวัญตาล้วนไม่รู้ว่าตนเองยังจะสามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
เดิมทีเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เจ้าน้ำตาคนหนึ่ง และทนดูผู้หญิงที่ไม่ทันไรก็ร้องไห้ไม่ได้ แต่วินาทีนี้ตนเองจึงรู้ บางทีก็ร้องไห้โดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
เจตต์ถูกการร้องไห้ของเธอทำจนมีความรู้สึกรักสงสารเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกระซิบเบาๆกล่อมภรรยาอยู่ กลับทำให้นรมนกับบุริศร์ที่อยู่ข้างๆมีความรู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อยแล้ว
“คู่นี้จะทารุณใครให้ตายเหรอ? โชว์ความรักเหมือนดั่งคนอื่นทำไม่เป็น ก็ไม่ดูสถานที่เช่นกัน”
ในคำพูดของบุริศร์ค่อนข้างมีความอิจฉาเล็กน้อย
นรมนหัวเราะเบาๆหนึ่งที โดยจิตใต้สำนึกมาถึงข้างกายของบุริศร์ ดึงแขนเสื้อของเขาดึงแล้วดึงอีก พูดเสียงเบาๆว่า “ทำยังไงดีล่ะ? ฉันก็ลงมือแล้วเช่นกัน คุณจะไม่โทษฉันนะ?”
“คุณวินิจฉัยอย่างแน่ชัดว่าผมจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้ดีๆใช่ไหม?”
บุริศร์มีความหึงหวงเล็กน้อย
แม้รู้ว่านรมนทำเช่นนี้เป็นเพราะว่าเจตต์คือพี่ชายของเธอ แต่พอนึกถึงลักษณะท่าทีการร้องตะโกนของเจตต์เมื่อก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่พอใจ
นรมนรีบพูดว่า “เอาล่ะ ฉันผิดแล้วยังไม่ได้เหรอ? เดี๋ยวคุณจะลงโทษฉันยังไงก็ได้ล่ะ”
พูดจบตาของเธอกะพริบสองที ความหมายไม่ชัด บุริศร์รู้สึกกลับมีไฟร้อนผะผ่าววิ่งอุตลุดขึ้นมาทั้งตัว ทรมานเหลือเกิน
เขากอดนรมนไว้ในอ้อมอกทันที ดั่งไม่มีใครอยู่ข้างๆพูดว่า “นี่คุณพูดเองนะ เดี๋ยวอย่าร้องขอความเมตตาล่ะ”
นรมนเหมือนนึกอะไรออก อยู่ดีๆใบหน้าแดงขึ้นเลย
“นี่ไม่ใช่ฉันรู้ว่าที่นี่เป็นเขตอิทธิพลของคุณชายอรรณพเหรอ? ก็แค่ความสัมพันธ์ของคุณกับคุณชายอรรณพ นิวัฒน์ตายแค่คนเดียวน่าจะจัดการได้ อีกทั้งคุณยายและน้องชายฉันฝั่งโน้นก็จะไม่ยอมรับการคงอยู่และฐานะของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นจะไม่มีคนออกหน้าพูดเข้าข้างเขา ถึงแม้ว่าเป็นทวีฝั่งนี้อยากจะทำอะไร ก็ก่อเรื่องอะไรขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน”
“แสดงว่าคุณล้วนคิดวางแผนทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้วล่ะ”
แท้ที่จริงบุริศร์ก็คิดอย่างนี้เช่นกัน ก็เพียงแค่อยากจะหยอกนรมนเล่นเท่านั้น
นรมนรู้สึกเขินยิ้มแล้วยิ้มอีก รู้สึกว่าบุริศร์ดูเหมือนยังมีความรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เธอรีบเขย่งเท้าจูบอยู่บนใบหน้าของบุริศร์หนึ่งทีอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พบเห็นว่ามีสองสายตาส่งตรงมายังพวกเขา
พอบุริศร์เงยหน้าขึ้นก็มองเห็นเจตต์กอดขวัญตาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนใจจ้องมองพวกเขาอยู่ ยิ้มอยู่พูดว่า “โชว์ความรักความเคยชินแบบนี้จะไม่ดีนะ”
“ไสหัวออกไป ใครเริ่มโชว์ก่อนล่ะ? ในใจตนเองไม่รู้เหรอ? ยังมีความยุ่งเหยิงกองนี้ที่คุณทิ้งไว้ให้ผมจัดการ คุณก็ไม่ได้คิดทางหนีทีไล่เหรอ?”
น้ำเสียงของบุริศร์มีความไม่พอใจเล็กน้อย
เจตต์ยิ้มอยู่พูดว่า “นึกได้แล้วล่ะ เมื่อกี้นรมนไม่ใช่ล้วนพูดแล้วเหรอ? คุณเป็นพี่น้องกับคุณชายอรรณพ ที่นี่ทั้งเป็นเขตอิทธิพลของคุณชายอรรณพ คนชั่วตายไปคนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องเพียงแค่คำเดียวเท่านั้น ผมเป็นพี่ชายของภรรยาคุณ คุณไม่สนใจผมได้เหรอ? ดังนั้นคุณก็คือทางหนีทีไล่ของผมล่ะ”
ทันใดนั้นบุริศร์มีความรู้สึกอยากจะต๋อยคนเล็กน้อย
“เจตต์ คุณยังจะมีหน้าอยู่เหรอ?”
“มีภรรยาก็พอแล้ว มีหน้าทำอะไรล่ะ?”
เจตต์พูดจบก็พูดกับนรมนว่า “น้องสาว ผมพาพี่สะใภ้ของคุณออกไปก่อนแล้วนะ ฝั่งนี้ลำบากคุณกับน้องเขยแล้ว”
“น้องเขย” คำนี้เน้นหนักเป็นพิเศษ กลับทำให้บุริศร์โมโหจนมันเขี้ยว
แต่ว่าเรื่องบางเรื่องควรทำยังต้องทำ บุริศร์ยอมรับชะตากรรมหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความให้กับอรรณพ
คนเหล่านั้นของนิวัฒน์หลังจากจบความตื่นเต้นดีอกดีใจในแรกสุดก็ค่อยๆสงบลง ได้ยินการพูดคุยระหว่างเจตต์กับบุริศร์อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย
“ประธานบุริศร์ พวกเราก็ถูกบังคับจนใจเช่นกัน ขอคุณเมตตาลดหย่อนผ่อนผันปล่อยพวกเราไปเถอะ”
มีคนรวบรวมความกล้าหาญเอ่ยปากแล้ว
คนอื่นๆเห็นมีคนพูดนำหน้าแล้ว ก็ต่างคนต่างเอ่ยปากเช่นกัน
บุริศร์กลับพูดเย็นชาว่า “แม้ว่าพวกคุณถูกแม่หนอนกู่ควบคุม แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ได้ทำเรื่องชั่วร้ายให้กับนิวัฒน์ไม่น้อย ตนเองไปโรงพักเล่าเรื่องที่ตนเองเคยทำมาให้ชัดเจน ห้ามปกปิด ผมจะให้คนพิจารณาจัดการตามเหตุการณ์ ถึงเวลานั้นปล่อยพวกคุณออกไป แต่มีโอกาสเพียงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าหากวันหลังก่อกรรมทำชั่วฝ่าฝืนกฎหมายอีก คำให้การของพวกคุณก็จะสามารถทำให้พวกคุณใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ในคุกโดยตรงได้เลย”
ได้ยินว่าบุริศร์จะให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง คนทั้งหลายล้วนรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของเขาเป็นอย่างยิ่ง ต่างคนต่างแสดงให้เห็นว่าขอบคุณ และเดินตามคนของบุริศร์ออกไปโรงพักอย่างเชื่อฟัง
บ้านว่างเปล่าในทันที
นิวัฒน์วางแผนทำร้ายผู้อื่นทั้งชีวิตสุดท้ายตอนตายกลับไม่มีญาติพี่น้องสักคนอยู่ข้างกาย เปล่าเปลี่ยวจนทำให้คนรู้สึกไม่เป็นความจริงอย่างมาก
นรมนจ้องมองศพของเขาอยู่ พูดเสียงเบาๆว่า “นี่ก็นับได้ว่าเป็นฮีโร่รุ่นหนึ่งแล้วล่ะ? ตายอย่างเงียบสงัดเช่นนี้ กระทั่งไม่มีคนรู้ว่าเขาตายยังไง คุณว่าจะเป็นการประชดประชันอย่างหนึ่งหรือไม่ล่ะ?”
บุริศร์จับมือของนรมนไว้ พูดเสียงเบาๆว่า “ผลกรรมตามสนองไม่ว่าเขาจะเคยกระหยิ่มยิ้มย่องขนาดไหนบ้าระห่ำกำเริบเสิบสานขนาดไหน ชีวิตที่ตกหล่นอยู่ในมือของเขาเหล่านั้น ช้าเร็วก็ต้องได้ชดใช้อยู่ดี ตอนนี้มีสภาพแบบนี้ก็ถือว่าควรรับบาปกรรมที่ก่อไว้ ผมจะให้คุณลากศพของเขาไปเผ่า จากนั้นหาสถานที่หนึ่งฝังไว้ก็พอ คนอย่างเขาแบบนี้ถึงแม้ตายแล้ว ก็ไม่คู่ควรจะมีลูกหลานรุ่นหลังไปบูชาเซ่นไหว้เขา คุณดูจากท่าทีของเจตต์ก็รู้ จากใจเขาก็ไม่ยอมรับนิวัฒน์คุณตาคนนี้เลยสักนิด ดังนั้นทุกอย่างล้วนกระจายตามลมไปเถอะ”
“อืม”
นรมนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
นิวัฒน์สามารถมีชีวิตแบบนี้ได้ ก็ถือว่าเจตต์ได้โปรดเมตตาแล้ว ไม่งั้นด้วยบาปความชั่วเหล่านั้นที่อยู่ในมือเขา ตายร้อยรอบก็ไม่เพียงพอที่จะระงับความโกรธของประชาชน
“เอาล่ะ เรื่องของที่นี่มอบให้คนอื่นไปจัดการเถอะ กานต์ล่ะ?”
“ฉันจะพูดกับคุณเรื่องนี้อยู่พอดี”
นรมนเล่าเรื่องที่ได้พบเห็นนภดลกับปาณีที่นี่และการเปลี่ยนแปลงของปาณียังมีเรื่องที่ฝากฝังขวัญตาส่งคนกับกานต์ออกไปพร้อมกันอย่างรวดเร็วให้บุริศร์ฟังหนึ่งรอบ
หลังจากบุริศร์ฟังจบขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าก็มีความเคร่งขรึมน่าเคารพกับหนักอึ้งเล็กน้อย
“คุณความหมายว่านภดลแปรสภาพโดยสิ้นเชิงแล้วเหรอ? ไม่มีสติคงอยู่สักนิดแล้ว?”