แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1627 ฉันไม่ลำบากเลย
ยังไงนรมนก็คิดไม่ถึงว่าพฤกษ์จะเลือกเส้นทางนี้
“ตำแหน่งทหารกองหนุนหมายความว่าไง? ตัวเขาก็มียศทหารอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
คมทิพย์ก็กำลังตั้งใจฟัง
บุริศร์พูดขึ้น: “เขามียศทหาร แต่หลายปีนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อยๆถอนตัวออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว อีกอย่างหลังจากที่เขากับคมทิพย์แต่งงานกันได้จัดทำรายงานการเปลี่ยนอาชีพ และได้รับการอนุมัติแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้สถานะของทหารประจำการออกไปไม่ได้ ทำได้เพียงออกไปในสถานะของทหารกองหนุน และพลทหารที่เป็นทหารกองหนุนต้องขึ้นไปอยู่แนวหน้า ด้วยยศทหารของเขา ถ้าเป็นทหารประจำการ เขาจะอยู่บังคับบัญชาที่หน่วยบัญชาการก็ได้ แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงพลทหารที่ไร้ยศศักดิ์คนหนึ่งเท่านั้น”
น้ำตาของคมทิพย์ทะลักออกมาไม่หยุด
“เขาอยู่ไหน?”
แม้จะรู้ว่าตนเองไม่สะอาดแล้ว รู้ว่าตนเองไม่คู่ควรกับพฤกษ์แล้ว แต่เธอยังอยากไปเจอเขา
ออกรบที่ต่างประเทศงั้นเหรอ? !
เรื่องประเภทนี้มีไม่กี่คนหรอกที่ชอบไป คนมากมายที่ลงสนามรบในต่างประเทศ แทบจะถือว่าต้องใช้ชีวิตเฉียดตาย คนที่พวกเขาต้องคบค้าสมาคมด้วยเป็นคนชั่วช้าสุดๆ ไม่นึกว่าพฤกษ์จะส่งตนเองไปในสถานที่อย่างนั้น
บุริศร์ยังไม่ทันตอบ มือถือของคมทิพย์ก็ดังขึ้น
พฤกษ์นั่นเอง!
คมทิพย์รีบกดเปิด เสียงที่คุ้นเคยของพฤกษ์ลอยออกมาจากด้านใน
“คมทิพย์ ผมรู้ว่าเรื่องลูกสร้างความเจ็บปวดให้คุณอย่างมาก ผมจะพูดขอโทษสักกี่ครั้งก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับสิ่งที่ทำร้ายคุณได้ เป็นผมที่โดนครอบงำจนสติเลอะเลือน ทำลายครอบครัวที่แสนสุขของพวกเราให้หายไป ผมเคยบอกว่า คุณเป็นผู้หญิงของผม ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกคุณเด็ดขาด แต่ผมกลับผิดสัญญา ไม่เพียงแต่ผิดสัญญา ผมเองก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย บุลินที่ด้านนั้นผมก็ลงโทษเธอแล้ว และเผยแพร่เรื่องที่เธอทำทั้งหมดออกไป ยิ่งกว่านั้นยังเจอหลักฐานอีกมากมาย เพียงเธอฟื้นตัวออกจากโรงพยาบาลก็จะโดนตัดสินโทษทันที อย่างน้อยก็สิบปีถึงจะได้ออกมา ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างผม ผมรู้ว่าคุณจนปัญญาที่จะใจแข็งทำอะไรผมได้ ผมจึงถือโอกาสลงโทษตัวเองเสียเลย ลงโทษให้ผมโดนเนรเทศออกไปนอกประเทศ ทุกวันต้องคลุกคลีอยู่กับลูกกระสุน หัวใจไร้ที่พึ่งพิง ต้องระเหเร่ร่อนเหมือนกับจอกแหน”
“ชีวิตนี้ได้รักคุณ ได้คุณมาเป็นภรรยามันเป็นความโชคดีมหาศาลของคนอย่างผมแล้ว แม้จะเป็นแค่ช่วงไม่กี่ปีสั้นๆ แต่สำหรับผมก็คือตลอดชีวิต ชีวิตนี้ของพฤกษ์ผมจะมีแค่คุณคมทิพย์เป็นภรรยาเพียงคนเดียว แต่ผมรู้ หนทางข้างหน้าของคุณยังอีกยาวไกล ชีวิตในวันข้างหน้าต้องมีคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนกัน ลืมผมเถอะนะ หาคนที่ดีกับคุณ คนที่คุณจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป ถ้าหลายปีหลังจากนี้ผมยังมีโชคได้กลับมา ผมหวังว่าจะได้รับการให้อภัยจากคุณ ผมขออวยพรให้จากนี้ไปคุณมีแต่ความราบรื่น สมปรารถนากับทุกๆเรื่องนะ”
ได้ฟังคำพูดทั้งหมดของพฤกษ์ คมทิพย์ร้องไห้ราวกับมนุษย์น้ำตา
“บุริศร์ ประธานบุริศร์! เขาอยู่ไหน? สรุปเขาอยู่ที่ไหน?”
ตอนนี้คมทิพย์ไม่สนใจอะไรแล้ว เธอจะไปหาพฤกษ์! ต้องเจอเขาให้ได้!
บุริศร์รีบส่งโลเคชั่นไปให้อย่างรวดเร็ว
นรมนคว้าเสื้อคลุมกับกระเป๋าของคมทิพย์เอาไว้แต่แรกแล้ว จูงเธอวิ่งออกไปข้างนอก
ทั้งสองคนรีบขึ้นรถ ตามมาถึงที่คลับเฮาส์ที่บุริศร์อยู่ในทันที แต่กลับเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในการทหารลำหนึ่งบินจากบนหัวของเธอขึ้นไป
“บุริศร์ นั่น……”
นรมนสังหรณ์ใจไม่ดี
บุริศร์พยักหน้า
คมทิพย์ตะลึงอยู่ชั่วครู่ แล้ววิ่งไล่ตามราวกับเสียสติ
“พฤกษ์! พฤกษ์นายลงมานะ! ฉันไม่ยอมให้นายไป! พฤกษ์!”
“คมทิพย์!”
นรมนอยากจะจับเธอเอาไว้ แต่จับเอาไว้ไม่อยู่
คมทิพย์กำลังวิ่งอยู่บนพื้นราวกับเสียสติไปแล้ว กำลังไล่ตามเฮลิคอปเตอร์ จู่ๆเธอก็ “พลั่ก” เสียงล้มดังขึ้น เธอจึงถือโอกาสถอดรองเท้าแล้ววิ่งตามด้วยเท้าเปล่าเสียเลย
เสียงของเครื่องบินดังลั่น เดิมทีพฤกษ์ไม่ได้ยินเสียงตะโกนของคมทิพย์อยู่แล้ว
คริชณะกับป้องเห็นผู้หญิงเสียสติคนนั้นที่ด้านล่าง แต่พวกเขาต่างก็ลังเลเล็กน้อย
ถ้าตอนนี้ให้พฤกษ์เห็นฉากนี้ เขาจะรีบไปที่สนามรบอย่างสบายใจได้ไหม?
ป้องกำลังคิดจะเอ่ยปาก แต่คริชณะพูดขึ้นมาทันที: “พฤกษ์ คมทิพย์เธออยู่……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ในเมื่อผมตัดสินใจแล้วก็จะไม่คืนคำ”
พูดจบพฤกษ์ก็หยิบหูฟังขึ้นมาอุดหูทันที
คริชณะถอนหายใจพูดขึ้น: “คมทิพย์ไล่ตามนายอยู่ข้างล่างนะ”
แต่พฤกษ์กลับไม่ได้ยิน ในใจของเขากำลังคิดถึงคมทิพย์ ตอนนี้ฟังข้อความที่เขาทิ้งไว้ให้แล้วจะเป็นยังไงบ้างนะ?
จะเสียใจมากไหม?
แต่ความเสียใจมักยากที่จะหลีกเลี่ยงเสมอ
เขาที่รีบรุดไปสนามรบอย่างนี้ คนที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะยังมีชีวิตอยู่อีกไหม ก็ไม่ควรให้ความหวังเธอหรอก
ถ้าทั้งสองคนยังมีโชคชะตาต่อกัน รอให้คมทิพย์ผ่านหลุมนี้ในใจไปได้แล้ว บางทีเมื่อหลายปีผ่านไปถ้าเขาได้กลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะได้กลับมามีโชคชะตาร่วมกันใหม่ใช่ไหมล่ะ?
พฤกษ์ทำได้เพียงใช้ความเชื่อมั่นกับความกล้าหาญนี้เพื่อยืนหยัดต่อไป
เครื่องบินบินสูงขึ้นเรื่อยๆ ครู่เดียวก็มองไม่เห็นคมทิพย์แล้ว ในใจของคริชณะกับป้องทนไม่ได้ ป้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตนเองเอาไว้ทันที ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนคมทิพย์ไม่สนใจเลยว่าจะทำให้การจราจรวุ่นวาย นรมนกับบุริศร์ต้องร่วมมือกันถึงจะขวางเธอเอาไว้ได้
ความเศร้าโศกในหลายวันนี้ทำให้เธอทนไม่ไหวแล้วเป็นลมไปในทันที
“คมทิพย์!”
นรมนรีบโทรเรียกรถพยาบาลให้คมทิพย์
เสียงรถฉุกเฉินที่พาคมทิพย์ไปโรงพยาบาลดังขึ้นตลอดทาง
กลัวว่าหลังจากคมทิพย์ฟื้นขึ้นมาแล้วจะปล่อยวางไม่ได้ นรมนจึงอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดเวลา ส่วนคมทิพย์ที่เป็นลมไปไม่นานก็ฟื้นแล้ว แค่มองเพดานสีขาวๆ ไม่พูดไม่จา ทำให้นรมนกังวลเหลือเกิน
“คมทิพย์ เธอพูดหน่อยสิ เธอเป็นอย่างนี้ฉันกังวลนะ”
“ฉันไม่เป็นไร”
คมทิพย์พยายามจะเค้นรอยยิ้มออกมา แต่กลับดูแย่กว่าร้องไห้เสียอีก นรมนจึงอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที
“ทนายปวินล่ะ?”
“ฉันจะติดต่อเขาให้”
นรมนหยิบมือถือออกมา แต่กลับได้ยินคมทิพย์พูดขึ้น: “นรมน ขอให้เธอช่วยฉันสักเรื่องได้ไหม?”
“ระหว่างเราสองคนมีอะไรที่ต้องขออีก? มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย ถ้าฉันช่วยได้ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว”
คมทิพย์มองเธอ พยายามจะยิ้มออกมา แต่ยังไงก็ยกมุมปากไม่ขึ้นเลย
“ฉันรู้ว่าตอนนี้ร่างกายของฉันมันไม่สะอาดแล้ว ไม่คู่ควรกับพฤกษ์แล้ว แต่ตอนนี้เขามีฉันเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว ถ้าแม้แต่ฉันก็ทิ้งเขา เขาก็จะไม่มีใครให้คิดถึงอีกแล้ว ฉันรู้ว่าเธอมีวิธี เธอช่วยฉันทำลายใบหย่าที่อยู่ในมือของทนายปวินได้ไหม?”
นรมนเข้าใจในทันที
คมทิพย์ไม่อยากหย่า!
เดิมทีเป็นเพราะรู้สึกว่าตนเองไม่สะอาดแล้ว ไม่คู่ควรกับพฤกษ์แล้ว แต่ตอนนี้พฤกษ์ไปแล้ว รีบรุดไปที่สนามรบต่างประเทศ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย สถานการณ์อันตรายเหลือเกิน เธอยินยอมให้ตนเองทำผิดเพื่อกลายเป็นความทรงจำและความอาลัยอาวรณ์สุดท้ายของพฤกษ์
“ได้ ฉันรับปากเธอ ฉันรับรองว่าพรุ่งนี้ทนายปวินจะไม่มีใบหย่าไปดำเนินการเรื่องหย่าแน่ๆ ต่อให้เขาคิดจะทำ ก็ต้องให้พฤกษ์เซ็นชื่ออยู่ดี ตอนนี้พฤกษ์ไม่มีทางเซ็นชื่อให้เขาได้หรอก”
นรมนกอดคมทิพย์แน่น พูดขึ้นด้วยความสงสาร: “อย่าทำให้ตัวเองลำบากเกินไปเลยนะ”
“ฉันไม่ลำบากเลย ตอนที่ความเป็นความตายอยู่ตรงหน้า เรื่องแย่ๆที่เขาทำมันไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึง ฉันรู้ว่าตัวเองปล่อยเขาไปไม่ได้ เอาแต่รู้สึกว่าเรื่องนั้นทำให้ในใจของฉันผ่านไปไม่ได้ แต่ถ้าเขาไม่อยู่แล้ว เรื่องแย่ๆที่ฉันเก็บไว้มันมีประโยชน์อะไรล่ะ?”
แววตาของคมทิพย์เปล่งประกายความแน่วแน่ออกมา เธอไม่เคยรู้ว่าตนเองต้องการอะไรอย่างชัดเจนเหมือนตอนนี้มาก่อนเลย
เธอต้องการพฤกษ์!
เธออยากให้เขาใช้ชีวิตให้ดี!