แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1674 ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็ต้องถึงจุดจบ
“คุณผู้หญิง คุณดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว”
แม่บ้านหลิวทนมองแก้วตาเป็นอย่างนี้ไม่ได้ จึงยกมือขึ้นมาเช็กน้ำตาที่ไหลริน
แก้วตากลับพูดออกมาอย่างพอใจว่า “ดูถูกงั้นเหรอ? คงจะใช่ แต่ว่าตอนนี้พอได้มาเจอเธอ ฉันรู้สึกว่าต่อให้ต้องดูถูกตัวเองแค่ไหนก็ไม่สำคัญอะไรแล้ว ตอนนี้ชีวิตของฉันเดินมาถึงจุดจบ แต่พอเห็นเธอมีชีวิตรอด และจินตนาการถึงชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอหลังจากนี้ ฉันว่าพระเจ้าไม่ได้ใจร้ายกับฉันหรอก ชาตินี้ความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกของฉันกับเธอเบาบางมากเกินไป หวังแค่ว่าชาติหน้าฉันจะสามารถชดใช้ให้เธอได้ บางทีการที่ไม่มีแม่อย่างฉันอาจจะเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของเธอก็ได้”
ปาณีได้ยินทุกคำพูดในหู ราวกับรู้ถึงตัวตนของคนตรงหน้าแล้ว เธอพยายามลืมตาขึ้นมามองแม่ของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ลืมไม่ขึ้น
แก้วตานั่งเฝ้าปาณีอยู่สักพัก เมื่อรู้ว่าเวลาผ่านไปพอสมควรแล้ว ถึงได้ก้มลงหอมหน้าผากของเธออย่างอาวัยอาวรณ์ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
เป็นครั้งแรกที่ปาณีถูกมารดาหอม ในใจก็อดสั่นไหวขึ้นมาไม่ได้ เธอเกลียดที่ตัวไร้เรี่ยวแรง ไม่รู้ว่าหลังจากนี้แก้วตาจะกลับมาอีกหรือเปล่า
ยศพงศ์ที่รออยู่ข้างนอกเรียกคืนสติกลับมา ถึงยังไงก็เป็นผู้ชาย พูดคุยกับธเนศพลสักพัก ก็เห็นแก้วตาเดินตาบวมออกมา เขานิ่งไปเล็กน้อย ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ฉันเข้าไปดูเธอได้ไหม?”
ท่าทีแบบนี้ทำให้แก้วตาค่อนข้างเหนือความคาดหมาย
“ได้สิ พ่อเป็นปู่ของเธอนะ”
ยศพงศ์ ยิ้มขมขื่นออกมา แล้วเดินเข้าไปข้างใน
เมื่อเขาเห็นปาณีนอนอยู่บนเตียงก็เอ่ยพูดทั้งๆที่น้ำตารินไหล “หลานรัก ปู่ขอโทษ หลายปีที่ผ่านมาปู่ไม่รู้จักแก พอตอนนี้ได้รู้จัก ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็ไม่สามารถให้อะไรแกได้แล้ว หวังว่าแกจะไม่โกรธปู่นะ”
พูดจบเขาก็ลูบหัวของปาณีเบาๆ จากนั้นก็หยิบจี้หยกในกระเป๋ามาใส่บนคอให้ปาณี
“สิ่งนี้ฉันได้มาก่อนแกเกิดได้ไม่นาน ปลุกเสกแล้วเรียบร้อย น่าเสียดายหลังจากที่แกเกิดฉันกลับคิดว่าแกตายไปแล้ว เลยไม่ได้เอาของสิ่งนี้ให้แก วันนี้ในที่สุดก็มีโอกาสใส่ให้แกเองกับมือ หลานรัก แกแข็งแกร่งมาก ปู่รู้ว่าแกทุกข์ทรมานมาเยอะ แต่แกก็ทนมาได้ ในบรรดาลูกหลานตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร ปู่คิดว่าแกเหมือนปู่ที่สุดแล้ว ป้องบอกว่าแกอาจจะทนไม่ไหว แต่ปู่ไม่คิดอย่างนั้น แกคือหลานสาวของยศพงศ์ แค่นี้เองทำไมจะทนไม่ไหวล่ะ? อีกอย่างแกก็ยังเป็นห่วงนภดลอยู่ใช่ไหมล่ะ? ปู่รู้เรื่องของแกหมดแล้ว แต่ปู่อยากบอกแกว่า ถ้าแกยังนอนอยู่แบบนี้ นภดลอาจจะเป็นอันตราย ดังนั้นแกต้องสู้นะ”
หัวใจของปาณีปวดหน่วงขึ้นมาในทันที
นภดล?
ภาพตอนที่นภดลคลั่งปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ
เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไร แต่จิตสำนึกมันบอกว่าที่นภดลคลุ่มคลั่งมันต้องเกี่ยวกับเธอแน่ๆ
ลมหายใจของปาณีเริ่มถี่กระชั้นชิด
ยศพงศ์ มองมาที่ปาณีอีกครั้ง จากนั้นถึงได้เดินออกไป
แก้วตาประหลาดใจที่ยศพงศ์ เข้าไปแค่แป็บเดียว แต่ว่าในเวลาแบบนี้ก็ไม่สะดวกพูดเท่าไหร่ เมื่อยศพงศ์เดินออกมาเธอก็โค้งให้เขา แล้วพูดว่า “พ่อคะ ฉันคงไม่กลับมาแล้ว เดี๋ยวต้องไปที่ศาลเลย”
“ไปเถอะ”
ยศพงศ์พยักหน้า
แก้วตาหันไปมองห้องของปาณีอีกครั้ง จากนั้นถึงได้หันหลังเดินจากไป
แม่บ้านหลิวงุนงงเล็กน้อย
“คุณผู้หญิง คุณจะไปศาลทำไมเหรอคะ?”
“แม่บ้านหลิว เธออยู่ที่นี่เถอะ เธอเป็นคนของฉัน ถ้าตุลธรหาฉันไม่เจอ เขาต้องมาเอาคืนกับเธอแน่ๆ เธออยู่ที่นี่ถึงจะปลอดภัย หลายปีที่ผ่านมาขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างฉันนะ ถ้าเป็นไปได้ หลังจากนี้ฉันก็หวังว่าเธอจะดูแลลูกสาวแทนฉัน ขอบคุณมากนะ”
แก้วตาโค้งให้แม่บ้านหลิว จนแม่บ้านหลิวตกใจ
“คุณผู้หญิง ทำอะไรคะ?”
ธเนศพลถอนหายใจออกมา แล้วมองมาที่ยศพงศ์
ยศพงศ์ เอ่ยพูดเสียงเบา “ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรจบสิ้นแล้ว เธอไปมอบตัวและเปิดโปงความผิดของตุลธรในฐานะผู้รู้เห็น ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรถึงคราวล่มสลายแล้ว แกอยู่ดูแลปาณีที่นี่เถอะ เพราะปาณีคือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร ตาแก่อย่างฉันขอบคุณแกมาก”
พูดจบยศพงศ์ เองก็โค้งคำนับให้แม่บ้านหลิว จนแม่บ้านหลิวร้องไห้ออกมา
“คุณผู้หญิง คุณท่าน พวกคุณกำลังพูดอะไรกัน? ฉันดูแลคุณหนูแน่ๆ แต่ว่าตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร…..”
“ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงก็ไม่ต้องไปหาฉัน แม่บ้านหลิว ฉันไปก่อนนะ”
ในครั้งนี้แก้วตายิ้มออกมาอย่างนิ่งสงบ
แม่บ้านหลิวตกตะลึงขึ้นมาในทันที
เธอไม่ได้เห็นคุณผู้หญิงยิ้มอย่างสบายใจแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ?
หลังจากแต่งงานมีลูก ก็มีแต่หงอยเหงาเศร้าสร้อย หลายปีที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้ เธอยอมมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็น เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล และเพื่อลูก ทว่าในตอนนี้เธอกลับยิ้มออกมาอย่างสดใส เหมือนกลับไปเป็นหญิงสาวก่อนแต่งงาน
ทันใดนั้นแม่บ้านหลิวก็รู้สึกสงสารร้องไห้น้ำตาไหลออกมา
“คุณผู้หญิง”
แก้วตาไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังเดินออกไปข้างนอก ส่วนคนที่เดินตามหลังไปคือคนของธเนศพล
ยศพงศ์ เซื่องซึมลงทันตา เขามองมาที่ธเนศพลแล้วพูดว่า “คุณชายธเนศพล ฉันไปก่อนนะ คุณท่านขวัญชัยรอฉันอยู่”
“ลุงพงศ์ ขอบคุณนะครับ”
ธเนศพลรู้ ความจริงแล้วไม่ต้องรอจัดการตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรเอาจนป่านนี้ก็ได้ ในเมื่อคุณท่านขวัญชัยสังเกตได้ตั้งนานแล้ว แค่เอ่ยปากพูดก็ล้มตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรได้แล้ว หรือถ้ายศพงศ์เห็นแก่ตัวหน่อย ก็คงหาคนมาใส่ความตุลธร เพื่อล้างหางที่แปดเปื้อนของตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรให้สะอาด ต่อให้พวกเขาหาเบาะแสของตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรเจอ ก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรยั่งยืนในเมืองหลวงต่ออีกห้าสิบปีก็ไม่เป็นปัญหา
แต่ยศพงศ์ ไม่ทำอย่างนี้ ด้านหนึ่งเพราะเขายังมั่นใจและศรัทธาในความเป็นวีรบุรุษ อีกด้านก็เพื่อเป็นการปูทางให้ธเนศพล
ซึ่งการที่เขาใช้ทั้งตระกูลมาปูทางให้ตัวเองได้ขึ้นตำแหน่ง ธเนศพลรู้สึกว่าภาระบนไหล่นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ
คุณท่านขวัญชัยกับยศพงศ์ กำลังใช้ความจริงอันโหดร้ายบอกกับเขาว่า ห้ามฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าได้แตะต้องแล้วก็ต้องมีสิ่งที่ต้องแลกทั้งนั้น
ยิ่งมีอำนาจมากแค่ไหนความต้องการก็ยิ่งสูงเท่านั้น ถ้าไม่สามารถยึดมั่นในความตั้งใจเดิมได้ ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็ต้องถึงจุดจบ
ธเนศพลหงุดหงิดในใจ
ยศพงศ์ โบกมือ แล้วจากไปในทันที เพียงแต่ว่าแผ่นหลังดูลู่ลงอย่างเห็นได้ชัด
แม่บ้านสะอื้นออกมาเงียบๆ แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรทำอะไร เธอโค้งให้ธเนศพล แล้วเดินเข้าไปในห้องของปาณี จึงพบว่าเครื่องช่วยหายใจของปาณีมีความเปลี่ยนแปลง
“คุณชายธเนศพล เรียกคุณชายป้องมาดูได้ไหมคะ? เหมือนเครื่องช่วยหายใจของคุณหนูจะไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ เอาแต่ร้องตี๊ดๆตลอดเลย”
แม่บ้านหลิวมีสีหน้าตื่นตกใจและกังวล
ธเนศพลไม่อยากเสียเวลา จึงรีบติดต่อป้อง
ป้องไม่สามารถนอนหลับได้เต็มอิ่ม อารมณ์ของเขาเริ่มเดือดปุดๆ
โพนี่ลูบขมับให้เขา เอ่ยูดเสียงนุ่มว่า “อาการของโพนี่ไม่ค่อยคงที่ ถ้าคุณเหนื่อยฉันไปดูก็ได้”
“ช่างเถอะ ผมไปเองดีกว่า งานคุณก็เยอะ แถมยังต้องดูลูกอีก คุณเหนื่อยกว่าผมเยอะ อีกอย่างผมเข้าใจอาการของปาณีมากที่สุด อีกอย่างช่วงนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ออกไปข้างนอกหรืออยู่บ้านก็ต้องรอบคอบ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ให้รปภ.มาเฝ้า”
เมื่อได้ยินที่ป้องพูด โพนี่ก็นิ่งไป
เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่?
ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นสินะ