แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1695 บางทีอาจเป็นเพราะเธอเลือดเย็นเกินไปล่ะมั้ง
เป็นครั้งแรกที่พายุมีใจที่ขัดแย้งต่อคำสั่งเสียของบรรพบุรุษที่ศรัทธาและปฏิบัติตามมาตั้งแต่เล็กจนโต
เขาไม่แค้นเคืองหรอ?
จะไม่แค้นเคืองได้ยังไงกัน?
สมจิตเป็นลูกเพียงคนเดียวในชีวิตนี้ของเขา!
เมื่อก่อนตอนที่สมจิตเพิ่งเกิดออกมา เขาดีใจขนาดไหนกัน สามปีนั้นเขามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับสมจิต ถึงขั้นจินตนาการว่าหลังจากที่ลูกสาวโตขึ้นอีกหน่อยจะเชิญครูสอนที่บ้านแบบไหนมา ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ต่างก็จบลงที่ฤดูร้อนในปีนั้น
ลูกสาวของเขาหายตัวไป
จันทราในตอนนั้นเรียกได้ว่าใกล้จะเป็นบ้าแล้ว หากไม่ใช่ความเชื่อบางอย่างประคับประคองเธอเอาไว้ บางทีจันทราอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ไปตั้งนานแล้วก็ได้
ภรรยาและลูกสาวของเขาเจ็บปวดมาทั้งชีวิตเพื่อสิ่งที่เรียกว่าคำสั่งเสียของบรรพบุรุษตระกูลนนท์สัจทัศน์
เขาในฐานะที่เป็นสามี ในฐานะที่เป็นพ่อ ชีวิตนี้ทำอะไรเพื่อผู้หญิงสองคนนี้กันแน่นะ?
นิวัฒน์ทุกข์ใจอย่างที่สุด จันทราแทบจะร้องไห้จนสลบไป มีเพียงแค่สมจิตที่รอบดวงตาแดงก่ำ แต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยด
เธอผ่านช่วงวัยที่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากแม่มาตั้งนานแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมดในปีนั้นก็เหมือนกับฝันร้าย ที่ในตอนแรกเริ่มที่สุดมักจะตามติดกวนใจเธอ
เธออยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตกกลางคืนต่างไม่กล้าที่จะนอนหลับ พอหลับตาลงในสมองต่างก็คือหน้าตาที่น่าเกลียดนั่นของพ่อเลี้ยง ท่าทางที่ดุร้ายนั่นของแม่เลี้ยง
เธอหวาดกลัว เธอทุกข์ทรมาน เธอไม่กล้าอยู่ด้วยกันกับเด็กคนอื่น เธอกลัวคนอื่นรู้ความลับของเธอ แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ เด็กคนอื่นๆก็ยิ่งรังแกเธอ
เธอไม่กล้าตอบโต้ กลัวว่าลงมือหนักทำคนอื่นบาดเจ็บจะถูกผู้อำนวยการไล่ออก
หลังจากที่ไล่ออกไปเธอจะไปที่ไหนได้ล่ะ?
โลกที่กว้างใหญ่แต่กลับไม่มีสักที่คือบ้านของเธอ
จนกระทั่งการปรากฏตัวของยศพงศ์
ยศพงศ์ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อเลือกเด็กสองสามคนมาอบรมเลี้ยงดูในฐานะหมากรุกตัวลับ
ในตอนนั้นยศพงศ์บอกกับพวกเขาทั้งหลายอย่างชัดเจนว่า พาพวกเขาไปสามารถให้ของกินที่ดีที่สุด เสื้อผ้าที่ดีที่สุดกับพวกเขาได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องทำเรื่องที่ลำบากที่สุดเหนื่อยที่สุดในโลก ยังต้องละทิ้งอดีตทั้งหมดของตัวเอง
นับจากวันนั้นที่ไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พวกเขาก็จะไม่ได้มีสถานะแบบเมื่อก่อนอีกต่อไป สถานะของพวกเขามีเพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือหมาก หรือมีดคม
ข้างบนต้องการให้พวกเขาทำอะไรพวกเขาก็ต้องทำ ข้างบนต้องการให้พวกเขาเข้าสนามรบฆ่าศัตรูพวกเขาก็ต้องไปสนามรบฆ่าศัตรู ต้องการให้พวกเขาเป็นคู่ในการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แต่งเข้าสู่บ้านคนรวยพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้าน
ในตอนนั้นเด็กจำนวนมากต่างก็ไม่ต้องการชีวิตแบบนี้ แต่สมจิตอยาก
เธอแทบอยากจะละทิ้งสถานะในอดีตอย่างอดใจรอไม่ไหว ให้โอกาสตัวเองเกิดใหม่อีกครั้งใช้พละกำลังและชีวิตที่เหลือมาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อชีวิตที่เป็นของตนเอง
ดีงนั้นเธอจึงกลายเป็นธีรยา กลายเป็นลูกสาวบนทะเบียนบ้านของผู้อำนวยการ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชีวิตของเธอนำพาความโชคร้ายใช่หรือเปล่า หลังจากที่ทุกอย่างจัดการเสร็จ เธอยังไม่ทันไปจากที่นี่กับยศพงศ์ก็เกิดแผ่นดินไหว ทั้งเขตเมืองต่างก็ร้องไห้โหยหวน
วินาทีนั้นเธอนึกว่าพระเจ้าจะพาตัวเธอไปแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเธอไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตใหม่จริงๆ ทว่าในวินาทีสำคัญยศพงศ์ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ตั้งแต่หลังจากที่ถูกยศพงศ์ช่วยชีวิตไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สมจิตก็รู้สึกได้รับการเกิดใหม่อีกครั้ง
นอกจากตอนฝึกฝนที่ค่อนข้างจะลำบากแล้ว เวลาอื่นๆเธอต่างก็เป็นอิสระ ถึงขั้นยศพงศ์เอาใจใส่เธอ รักและเอ็นดูเธอเหมือนกับคุณปู่
เธอยังจำตอนที่เธอเข้าร่วมกองกำลังตอนอายุสิบแปดได้ ยศพงศ์ลงมือทำของอร่อยเต็มโต๊ะให้กับเธอด้วยตัวเอง และยังบ้าเป็นเพื่อนกับเธอตลอดทั้งคืน สถานบันเทิงที่เธออยากไปแต่กลับไม่กล้าไปเหล่านั้น ยศพงศ์คนที่อายุมากขนาดนั้นเที่ยวเป็นเพื่อนเธอไปทั่ว อาหารขยะที่เธออยากกินแต่กลับไม่มีเวลาไปกินเหล่านั้น ยศพงศ์ก็กินเป็นเพื่อนเธอจนพอ
เธอยังจำตอนที่ตนเองนั่งรถบรรทุกไปรายงานตัวที่กองทัพภาคได้ หางตาของยศพงศ์เปียกชื้น
วินาทีนั้นเธอร้องไห้เรียกเขาว่าคุณปู่ ยศพงศ์โบกมือแล้วพูดว่า “สาวน้อย ฉันรอเธอกลับมา”
ความรักจากคนในครอบครัวที่เธอขาดไปเหล่านั้น ยศพงศ์ให้กับเธอหมดแล้ว
ชีวิตของเธอคือยศพงศ์ที่ช่วยเอาไว้ เส้นทางชีวิตของเธอคือยศพงศ์ที่ให้ ดังนั้นในตอนที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์ สมจิตทั้งคนแทบจะกลายเป็นบ้า
เธอจะเป็นลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์ได้ยังไงกัน?
แต่ว่าสายตาของยศพงศ์ทุกข์ทรมานขนาดนั้น ทำให้เธอเข้าใจว่านี่ล้วนแต่เป็นเรื่องจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ตระกูลนนท์สัจทัศน์มีคนถูกบุริศร์จับได้ ยศพงศ์แอบหาคนไปเอาเลือดของคนนั้นมาตรวจดีเอ็นเอกับสมจิต ทุกสิ่งล้วนกระจ่าง
สมจิตรู้สึกละอายใจต่อยศพงศ์ ละอายใจต่อเครื่องแบบทหารในก่อนหน้านี้ของตนเอง ละอายใจต่อพี่น้องทั้งหลายที่ดีกับเธอเหล่านั้น
ยศพงศ์กลับพูดกับเธอว่า สมจิตในก่อนหน้านี้ได้ตายไปในแผ่นดินไหวครั้งนั้นตอนอายุแปดขวบ คนที่มีชีวิตรอดออกมาจากในแผ่นดินไหวคือธีรยา ภารกิจครั้งนี้หากเธอคิดว่าลำบากใจ เธอไม่ต้องไปเลยก็ได้
แต่สมจิตรู้ว่า ตนเองจำเป็นต้องมา
ที่นี่คือรากเหง้าของเธอ!
พ่อแม่ของเธออยู่ที่นี่!
ต่อให้ต้องทำลายตระกูลนนท์สัจทัศน์ ก็ต้องคนตระกูลนนท์สัจทัศน์อย่างเธอลงมือด้วยตัวเอง!
เดิมคิดว่าหัวใจที่แข็งและเยือกเย็นของเธอไม่มีทางเกิดการสั่นไหวอะไรอีก แต่จันทราร้องไห้จนแทบจะเป็นลมหมดสติ ก็ยังคงทำให้ดวงตาของสมจิตสะท้อนความรู้สึกใจไม่แข็งพอและสับสนออกมาเล็กน้อย
เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเสียใจของจันทรา ทว่าเธอกลับไม่สามารถมีความรู้สึกซาบซึ้งเข้าอกเข้าใจได้
บางทีอาจเป็นเพราะเธอเลือดเย็นเกินไปล่ะมั้ง
คนตระกูลนนท์สัจทัศน์เลือดเย็นจนทำให้คนรู้สึกว่าน่ากลัวจริงๆ
สมจิตก็ปล่อยให้จันทรากอดตัวเองร้องไห้อยู่อย่างนั้น สุดท้ายร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง เป็นลมหมดสติไปในที่สุดถึงอุ้มจันทรากลับเข้าไปในห้อง
ตอนที่ผ่านข้างกายของฟองน้ำ ฟองน้ำจับแขนของสมจิตเอาไว้อย่างกะทันหัน
ดวงตาของเธอก็แดงเช่นเดียวกัน ถึงขั้นยังมีหยดน้ำเคลื่อนไหว แต่เธอกลับเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “สมจิต เธอตั้งใจใช่หรือเปล่า? เธอมองเห็นพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ที่ด้านหลังของฉันตั้งนานแล้วแต่กลับไม่ได้ส่งเสียง เธอตั้งใจพูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมา เพื่อให้พี่สะใภ้ใหญ่เจ็บปวด เพื่อให้ฉันโทษตัวเองใช่ไหม? เธอกำลังวางแผนอะไรอยู่? เธอวางแผนคนที่ใกล้ชิดที่สุดสายเลือดเดียวกันกับตนเองได้ยังไงกัน? สมจิต เธอเป็นคนของตระกูลนนท์สัจทัศน์!ในร่างกายของเธอมีเลือดของคนตระกูลนนท์สัจทัศน์อยู่!เธอจะทำอะไรกันแน่?”
ฟองน้ำจ้องสมจิตอย่างไม่ละสายตา ราวกับต้องการพบอะไรบางอย่างออกมาจากใบหน้าและท่าทางของเธอ น่าเสียดายสมจิตในเวลานี้นิ่งสงบ
เธอเพียงแต่มองดูฟองน้ำ เอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “หากคุณคิดว่านี่คือเจตนาแอบแฝงของหนูล่ะก็ งั้นก็ใช่ล่ะมั้ง บางทีสิ่งที่หนูพูดเหล่านี้อาจจะกำลังหลอกพวกคุณทั้งหมอก็ได้ บางทีหนูอาจจะแค่กำลังเล่านิทาน”
พูดจบสมจิตสลัดหลุดออกมาจากมือของฟองน้ำ โอบจันทราเข้าไปในห้อง กลับเห็นดวงตาของพายุก็แดงเช่นเดียวกัน ราวกับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว
เธอมองดูไม่นานดันประตูให้เปิดออกเบาๆไม่ได้พูดอะไร นำจันทราวางลงที่ข้างกายพายุ จากนั้นเอ่ยว่า “หนูกลับห้องแล้ว”
“สมจิต หลายปีมานี้แม่ของลูกคิดถึงลูกมากจริงๆ ลูกมองเห็นรอยแผลเป็นบนแขนของเธอแล้วหรือยัง? นั่นล้วนเป็นรอยแผลที่เธอกรีดทีละเส้นออกมา เธอเกลียดตัวเองที่ไม่ได้คุ้มครองลูกให้ดี หลายปีมานี้ลูกลำบาก พ่อกับแม่ของลูกก็ไม่ได้สบาย ฉะนั้น อย่าโกรธเกลียดพวกเราได้ไหม? ลูกอยากได้อะไร พ่อให้ลูกทั้งหมด ชีวิตนี้ก็ให้ลูกได้ ขอร้องเพียงแค่ลูกอย่าเกลียดพวกเรา!สมจิต ทุกประโยคที่ลูกพูดมาทั้งหมดสำหรับพ่อแม่ล้วนเป็นการลงโทษประหารที่ทรมานลูกรู้หรือเปล่า? บนโลกใบนี้ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะยอมรับที่ลูกสาวผ่านความทุกข์ทรมานเหล่านี้ได้ แต่เวลาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว พ่อกับแม่ไม่มีวิธีเข้าร่วมความเจ็บปวดของลูกมาตั้งแต่ต้น ถ้างั้นให้โอกาสกับพวกเราสักครั้ง โอกาสในการชดใช้ความผิดสักครั้งได้หรือเปล่า?”