แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1709 ให้ถือซะว่าที่นี่คือฝันร้าย
“พี่ใหญ่ นี่พี่คิดจะทำอะไร?”
ทันใดนั้นฟองน้ำก็เห็นความบ้าคลั่งในดวงตาของพายุ
พายุกลับพูดยิ้มๆว่า “แกดูสิ อันที่จริงจะว่าไปแล้วครอบครัวเราก็ทำบาปไว้เยอะเหมือนกันนะว่าไหม? เรื่องเลวทรามในประเทศพวกนั้น เอาตรงๆถ้าคิดให้ดีๆ ถึงจะมีคุณปู่ชี้นำ แต่มีบางเรื่องที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมเองไม่ใช่เหรอ? คนเขามีพ่อมีแม่ทั้งนั้น หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ไม่รู้สึกละอายใจเรื่องศีลธรรมบ้างเหรอ?”
“ศีลธรรม? พี่ใหญ่ พี่กำลังพูดอะไร?”
ดวงตาของฟองน้ำจดจ้องมาที่พายุเขม็ง เธอมองไปรอบๆ ก็พบว่าคนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นหน่วยกล้าตายของตระกูลนนท์สัจทัศน์ทั้งนั้น
หลายปีที่ผ่านมากว่าจะเข็นหน่วยกล้าตายได้หลายคนขนาดนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องเสียทั้งกำลังทรัพย์และกำลังคน แต่วันนี้พายุกลับพามาที่นี่ เธอเริ่มรู้สึกใจไม่ดีแปลกๆ
จรัลเริ่มหัวเสีย
“ไอ้ลูกเวร ที่ฉันมอบหมายให้แกฝึกหน่วยกล้าตายในตอนนั้นก็เพื่อปูทางหนีทีไล่ให้ตระกูล แล้วตอนนี้แกคิดจะทำอะไร?”
“ก็พังพินาศแหลกลาญไปด้วยกันหมดนี่แหละ ไหนๆก็เป็นสิ่งที่สมจิตอยากเห็นแล้ว ทั้งชีวิตของคนเป็นพ่ออย่างผมไม่เคยให้อะไรลูกเลย ตอนแรกแค่คิดว่าทิ้งทรัพย์สมบัติให้เธอมีกินมีใช้ไปตลอดทั้งชาติก็พอแล้ว แต่ผมกลับพบว่าลูกไม่ได้โหยหาสิ่งเหล่านี้ เธอต้องการให้ตระกูลนนท์สัจทัศน์พินาศต่างหากล่ะ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ผมก็จะช่วยให้เธอสมหวัง แต่ว่าสมจิตของผมเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง มือของเธอจะเปื้อนเลือดไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมจะทำแทนเธอเอง”
พายุพูดออกมาอย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศอยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่กลับทำให้จรัลกับฟองน้ำตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง
“ลูกเวร แกบ้าไปแล้วเหรอ?”
“พี่ใหญ่ พี่อย่าทำอย่างนี้!”
พายุกลับพูดด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ทำไมจะไม่ได้? ฉันว่าแบบนี้แหละดีสุดแล้ว สมจิตพูดถูก ตระกูลนนท์สัจทัศน์ทำเรื่องผิดบาปมหันต์ ทางเดียวที่จะล้างบาปได้มีแค่อย่างนี้เท่านั้น ไม่แน่เราอาจจะมีโอกาสได้ไปเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้งก็ได้นะ ถ้าชาติหน้ามีจริง ฉันจะไม่ยอมเสียลูกไปอีกเด็ดขาด ฉันจะกอดลูกเอาไว้แน่นๆ จะไม่ปล่อยมือ และจะไม่ทำให้เธอต้องลำบากอีก”
ขณะที่พูดเขาก็เอาแต่ยิ้มๆ ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้า
“พี่ใหญ่บ้าไปแล้ว! พ่อ พี่ใหญ่ถูกสมจิตล้างสมองจนบ้าไปแล้ว! พวกแกเป็นหน่วยกล้าตายของตระกูลนนท์สัจทัศน์ไม่ใช่หรือไง! เร็วเข้า รีบไปแย่งระเบิดในมือเขาเร็วเข้าสิ!”
ฟองน้ำไม่อยากตาย
เธอเพิ่งจะอายุสี่สิบกว่าเอง จะตายได้ยังไง?
เธอยังมีวันเวลาดีๆรออยู่นะ
ราวกับหน่วยกล้าตายเหล่านั้นไม่ได้ยินที่ฟองน้ำพูด ยังคงล้อมห้องนี้เอาไว้อย่างแน่นหนา
ฟองน้ำหน้าเปลี่ยนสี จรัลเองก็เช่นกัน
“ไอ้ลูกเวร แกคิดจะฆ่าพ่อเหรอ?”
“แล้วยังไง? ผมเองก็จะตายเหมือนกัน ลูกชายคนนี้จะลงไป ปรนนิบัติรับใช้พ่อด้วยไง”
ขณะที่พูดพายุก็เปิดแผงระเบิดออก
ฟองน้ำกรีดร้องเสียงแหลมออกมา
“พายุ พี่มันบ้า! ฉันจะออกไป! ฉันจะออกไป!”
เธอวิ่งออกไปข้างนอกราวกับคนเสียสติ แต่หน่วยกล้าตายของพายุเล็งปืนใส่ฟองน้ำ จากนั้นก็ลั่นไกใส่ขาของเธอ
ความเจ็บรุนแรงทำให้ฟองน้ำทรงตัวไม่อยู่จนต้องทรุดลงกับพื้น
ในอดีตเคยสูงส่งขนาดไหนตอนนี้ก็ยิ่งมีสภาพจนตรอกมากขนาดนั้น
จรัลเองก็ตกใจช็อก เขากำลังจะวิ่งออกไปเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นจุดจบของฟองน้ำเขาก็อึ้งอยู่กับที่
พายุก้มมองแผงระเบิดที่ส่งเสียงตี๊ดๆอยู่กับอกของตัวเอง จากนั้นก็ยิ้มเยาะออกมา
“ที่แท้พวกพ่อก็กลัวตายเหมือนกันนี่นา สมจิตพูดถูก คติอะไรนั่นของพ่อมันก็เป็นแค่ข้ออ้างที่ใช้อำพรางความสกปรกในใจเท่านั้น ก็ดีเหมือนกัน ไหนๆผมก็ไม่ใช่คนดีอะไร ตายไปด้วยกันนี่แหละ อย่างน้อยตายแล้วก็ยังยกเป็นความดีความชอบของสมจิตได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ตระกูลนนท์สัจทัศน์ติดค้างสมจิตอยู่แล้ว! หลังจากนี้เธอไม่ต้องแบกชื่อเสียงอันน่ารังเกียจของตระกูลนนท์สัจทัศน์อีกต่อไป เธอจะมีชีวิตอยู่ในชื่อของธีรยา หลานสาวของยศพงศ์ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลนนท์สัจทัศน์อีก!”
ขณะที่พูดดวงตาของพายุก็แดงก่ำ น้ำตาอุ่นๆหยดลงตรงหางตา
เขาไม่อยากจากลูกไป!
แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาทำผิดต่อลูก!
ในเมื่อนามสกุลนนท์สัจทัศน์ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ งั้นก็ไม่ต้องเป็นคนตระกูลนี้อีกต่อไป
ขอแค่เธอมีความสุขก็พอ
“ไอ้เนรคุณ!ไอ้ลูกเวร!”
จรัลกำลังจะเข้าไปแย่งระเบิดจากพายุ แต่ในตอนนี้เองเสียง “ตู้ม” ก็ดังขึ้นมา จนพื้นดินสะเทือน
ร่างกายของสมจิตชะงักเล็กน้อย ราวกับนึกอะไรได้ หน้าของเธอจึงขาวซีดในชั่วพริบตา
“พ่อ——”
เธอกำลังจะหันหลังแต่กลับถูกจันทรากอดเอาไว้
“อย่าไป!”
“แม่?”
เมื่อสมจิตเห็นจันทรามีท่าทางนิ่งสงบ ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ
ทำไมเธอนิ่งได้ถึงขนาดนี้?
“แม่ นั่นพ่อนะ! พ่อเขา…..”
“นี่คือสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้แกได้ สมจิต เรื่องที่พ่อแกรู้สึกเสียใจมาตลอดชีวิตคือการทำแกหล่นหาย แต่เพราะเขาเป็นผู้ชาย เลยต้องแบกรับทุกอย่างรวมกัน ในขณะที่ฉันเจ็บปวดกับการหายไปของแก หลายปีที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่ฉันรู้ว่าในใจเขาเศร้าเสียใจมากแค่ไหน ตอนนี้พอแกกลับมา พ่อแกดีใจมาก เขาบอกว่าตอนที่ไม่มีแกอยู่ข้างๆ เขาใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง แกอยากทำอะไร อยากได้สิ่งไหน พ่อของแกก็จะพยายามหามาให้ เขาบอกว่า แกเป็นผู้หญิง ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องคอขาดบาดตายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยิ่งฆ่าคนเท่าไหร่ มือก็ยิ่งเปื้อนเลือดมากเท่านั้น เดี๋ยวชาติหน้าจะไม่ได้เกิดในภพชาติที่ดี พ่อแกบอกว่าชีวิตนี้แกลำบากมามากพอแล้ว แถมตระกูลนนท์สัจทัศน์ก็ติดค้างแกมาทั้งชีวิต เพราะงั้นชาติหน้าแกจะลำบากอีกไม่ได้ นี่คือสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้แกได้ เขาบอกว่าถ้าแกไม่อยากเป็นสมจิต ก็กลับไปเป็นธีรยาต่อได้ตามสบาย ให้ถือซะว่าที่นี่คือฝันร้าย และจงลืมมันไป”
คำพูดของจันทราทำให้สมจิตร้อนใจ
“ไม่ใช่ แม่ แม่ปล่อยฉัน ฉันจะไปหาพ่อ แม่!”
สมจิตกำลังจะดิ้นให้หลุดจากจันทรา แต่กลับพบว่ามุมปากของจันทรามีเลือดสีดำๆไหลออกมา
เธอเริ่มลนลานขึ้นมาในทันที
“แม่ แม่เป็นอะไร? ฉันจะพาแม่ไปหาหมอ อดทนหน่อยนะ!”
มือของสมจิตถูกจันทราคว้าจับเอาไว้
นัยน์ตาของเธอทอแววอบอุ่นแปลกประหลาด
“สมจิต ไม่ต้องหรอก พ่อแกไปแล้ว แม่ก็ต้องตามเขาไปด้วยเหมือนกัน พ่อแกน่ะถึงจะดูเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด แต่เขาดีกับเราสองแม่ลูกมากนะ เขาเกิดในตระกูลนนท์สัจทัศน์ และเป็นลูกคนโตของบ้าน บางเรื่องเขาก็ถูกบงการมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบ เขาก็ต้องทำ แกคือจุดอ่อนของพ่อกับแม่ เพื่อแกแล้ว ต่อให้มันจะขัดศีลธรรม ต่อให้มันจะขัดกฎหมาย ตราบใดที่แกต้องการ พ่อกับแม่ก็จะหามาให้ พ่อแกบอกว่าครั้งนี้แกกลับบ้านมาพร้อมกับภารกิจ ยี่สิบปีก่อนพวกฉันเคยทำแกหล่นหายไป ในใจแกก็คงไม่อยากเป็นคนตระกูลนนท์สัจทัศน์ หรือมากไปกว่านั้นคือเกลียดที่มีสายเลือดนี้ไหลเวียนอยู่ในร่างกายใช่ไหม”
“ไม่ใช่ แม่ มันไม่ใช่”
ในที่สุดสมจิตก็ร้องไห้ออกมา
สุดท้ายพ่อกับแม่ก็ไม่รู้อะไรเลย!
“แม่ แม่ห้ามตายนะ! ขอร้องล่ะห้ามตายเด็ดขาด! ฉันอยากอยู่กับพ่อกับแม่ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันไม่เคยอยากให้พ่อกับแม่ตาย ฉันจะไปขอร้องคุณปู่ยศพงศ์ ต่อให้ตัดสินจำโทษพ่อกับแม่ตลอดชีวิต อย่างน้อยพ่อกับแม่ก็ยังอยู่กับฉัน! ทำไมพ่อกับแม่ต้องทำอย่างนี้? ทำไมต้องทิ้งฉันไปอีกครั้งด้วย?”
สมจิตร้องไห้โฮออกมา น้ำตาอุ่นๆหยดกระทบบนหลังมือของจันทรา ทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก