แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1735 แต่ฉันอยากอยู่ข้างนาย
“แค่กๆ!”
กานต์สำลักน้ำลาย
พอจะรู้ว่ายัยนี่ห้าว แต่ไม่คิดว่าจะห้าวขนาดนี้ เป็นคนประเภทที่กล้าพูดอะไรโหดเหี้ยมแบบนี้ออกมาอย่างหน้าตาเฉย
เมื่อไอราเห็นกานต์ไอจนหน้าดำหน้าแดง จึงรีบรินน้ำเปล่ายื่นไปให้ พร้อมกับตบหลังให้เขาเบาๆ
เมื่อนะโมเห็นฉากนี้ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น สายตาแหลมคมคู่หนึ่งก็ตวัดมองมา
“ยังไม่ไปอีก?”
“ห๊า?”
นะโมสะดุ้งกับแววตาดุร้ายของไอรา รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เฮีย งั้นผมขอตัวก่อนละ!เฮียก็สร้างบุญสร้างกุศลเยอะๆนะ!” พูดจบเขาก็วิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมา
กานต์มองมาที่ไอราอย่างหมดคำจะพูด ถอนหายใจแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “บ้าไปแล้วหรือไง? กล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมาได้ยังไง”
“ก็หาพยานไง อ่อ ใช่สิ ฉันยังไม่ปิดโทรศัพท์นะ!”
ไอราดิ้นออกจากอ้อมกอดของกานต์อย่างรีบร้อน พร้อมควานหาโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วหันหน้ากล้องไปทางกานต์ เอ่ยถามอีกครั้งว่า “กานต์ รีบตอบมาสิ จะยอมเป็นแฟนฉันไหม? อื้อ……”
เธอพูดยังไม่จบ ก็ถูกกานต์จับข้อมือ แล้วพลิกตัวกดเธอเอาไว้บนเตียง โทรศัพท์จึงหลุดออกจากมือ ริมฝีปากอ่อนนุ่มถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ
เมื่อเสียง “แชะ”ดังขึ้น รูปที่ทั้งสองจูบกันก็ถูกบันทึกเอาไว้ ตามมาด้วยจูบที่ร้อนแรงขึ้น
ไอรารู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ในหัวเอาแต่คิดว่า ตกลงไอ้บ้านี่ตอบตกลงแล้วหรือยัง?
ในตอนที่เธอกำลังหอบหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ได้ยินเสียงทุ้มแหบของกานต์ดังขึ้นมาข้างหู
“ฉัน กานต์คนนี้ขอยอมรับไอราเป็นคนรักตลอดไป ทั้งชีวิตนี้จะมีแค่เธอคนเดียว ไม่เปลี่ยนแปลง”
พูดจบเขาก็ยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อของไอรา จากนั้นก็กลั้นยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นยืน “จัดเสื้อหน่อย เปิดหมดแล้ว”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ความรู้สึกเย็นวูบทำให้ร่างกายไอรากระตุกอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อได้ยินที่กานต์พูดก็ก้มหน้าลง ถึงได้พบว่ากระดุมเสื้อถูกแกะออกตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ข้างในเหลือแค่เสื้อซับใน ใบหน้าพลันแดงซ่านขึ้นมาในทันที ทว่าในใจกลับลิงโลดเป็นอย่างมาก
ผู้ชายคนนี้แบดเอาเรื่อง!
สมกับเป็นผู้ชายที่ไอราชอบ!
เมื่อควักโทรศัพท์ออกมา ถึงได้รู้ว่าวิดีโอยังอัดอยู่ ไอราสะดุ้งโหยงลนลานกดปุ่มเลิกอัด จากนั้นก็กดเปิดดู เมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของกานต์ และได้ยินคำปฏิญาณของเขา เธอก็ยิ้มออกมาราวกับคนโง่
ด้านกานต์รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกาย เขาจึงเปิดฝักบัวราดน้ำใส่ตัว เมื่อเดินออกมาแล้วเห็นไอรามองโทรศัพท์เหมือนกำลังจินตนาการแต่งเรื่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้ มุมปากยกยิ้มจนแทบจะฉีกถึงหู
เขาเดินเข้าไปลูบหัวไอรา แล้วขยี้ผมยาวตรงที่นุ่มลื่นของเธอให้ยุ่งถึงได้หยุด จากนั้นก็พูดว่า “อยากเป็นแฟนฉันมากเลยเหรอ?”
“ไร้สาระน่า”
ไอรายังคงสาระวนอยู่กับโทรศัพท์
กานต์กวาดตามองก็พบว่า เธอกำลังโพสต์สเตตัสลงบนโซเซี่ยลทุกๆแพทฟอร์ม ที่น่าทึ่งก็คือเธอโพสต์คลิปที่เขาเพิ่งอัดเมื่อกี้ลงไปด้วย
ยัยนี้อยากป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเขากำลังคบกันขนาดนั้นเลยหรือไง?
เมื่อนึกถึงสีหน้าของพ่อกับแม่หลังจากที่ได้รู้เรื่องนี้ มุมปากกานต์ก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เป็นแฟนฉันต้องเชื่อฟังนะรู้ไหม?”
เพราะมีปัญหาเรื่องการได้ยินกานต์จึงต้องล้มเลิกความคิดที่จะกอดเธอจากข้างหลังในทีแรกไป เปลี่ยนเป็นอุ้มเธอมานั่งบนตักตัวเอง
ไอราที่ตอนแรกยังคุยจ้อ เมื่อถูกเขาอุ้มอย่างกะทันหัน ใบหูจึงแดงซ่าน
“นายอยากให้ฉันเชื่อฟังยังไง?”
“กลับไปอยู่บ้านก่อนสักพัก”
กานต์พูดจบได้ไม่ทันไร รอยยิ้มของไอราก็พลันนิ่งค้าง อารมณ์ดีที่มีเมื่อกี้พลันเหือดหายเพราะคำพูดของเขาประโยคนี้
“นายเป็นคนไม่ชอบตกเป็นที่สนใจ ต่อให้นายตกลงเป็นแฟนกับฉันแล้วก็คงไม่ยอมให้ฉันตามติดล่ะสิ ที่นายทำอย่างนี้ จะว่าไปคงเป็นเพราะอยากให้ฉันไปสินะ? กานต์ เพราะฉันนายถึง……”
ไอราพูดยังไม่ทันจบก็ถูกกานต์จูบปิดปาก
ไอราโกรธจนแทบร้องไห้
ตาหมาบ้านี่ไปเรียนเล่ห์เหลี่ยมนี้มาจากไหน?
เอะอะก็จับจูบอยู่ได้!
ถ้าให้เธอรู้ว่าไอ้บ้าที่ไหนเป็นคนสอนเขา เธอจะเล่นให้พิการเลยคอยดู!
ถ้าเป็นจูบปกติตามประสาคนเป็นแฟนกัน ไอราคงดีใจเหมือนได้รางวัล แต่ตอนนี้เธอมีแต่โกรธกับโกรธ!
เธอพยายามผลักกานต์ออก แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ผลักไม่หลุด
หลายปีมานี้ ฝีมือของกานต์เก่งกาจกว่าเธอมากโข แล้วยิ่งพละกำลังยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอไม่สามารถกดข่มกานต์ได้เลย
ไอราโกรธจนต้องกัดลิ้นของกานต์ บัดนี้กลิ่นเลือดจางๆคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก ทว่ากานต์กลับไม่รู้สึกรู้สาเหมือนไร้ความรู้สึก
จนกระทั่งไอราเริ่มหอบหายใจอีกครั้งถึงได้ปล่อยออก จากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของกานต์ดังขึ้นมาว่า “ฉันเคยบอกแล้ว คราวก่อนไม่พูดมันก็จะเน่าเสียอยู่ข้างในตลอดไป และคราวหน้าก็ห้ามพูดมันอีก”
“กานต์!”
หัวใจของไอราเจ็บหน่วงขึ้นมาในทันที
ตาหมาบ้านี่น่าโมโหชะมัด!
ทำไมเขาเป็นอย่างนี้?
มันเป็นเพราะเธอแท้ๆเขาถึงต้องกลายมาเป็นอย่างนี้ แต่เขากลับไม่ให้เธอพูด
“นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายชอบสีเขียวของกองทหารที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? นายทุ่มเทมาทั้งชีวิตเพื่อได้ปกป้องชาติในสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่หรือไง?”
“ตอนนี้ฉันอยากปกป้องเธอแค่คนเดียว ภาคิณกับภาณยังเด็ก บริษัทต้องมีคนดูแล ช่วงนี้อาชัยยศก็กำลังยุ่ง พี่ใหญ่ก็เอาแต่หมกมุ่นเรื่องเรียน พ่อกับแม่ก็เอาแต่เที่ยว กิจการใหญ่ขนาดนี้ ฉันเกษียณออกมาดูแลก็ดีเหมือนกัน จะได้ช่วยประคองน้องชายน้องสาวในระยะนี้ไปในตัวด้วย อีกอย่างเธอไม่อยากให้ฉันมีเวลาให้เธอตลอดเวลาเหมือนแฟนคนอื่นๆเขาทำกันเหรอ?”
“อยากสิ แต่ฉันไม่อยากให้นายออกจากกองทหารอย่างนี้!”
จมูกของไอราแดงระเรื่อ
“ยัยบ๊อง”
กานต์ลูบหัวของเธอ เอ่ยเสียงนุ่มว่า “ถ้าเธอเชื่อฉันก็กลับไปรอฉันที่บ้านนะ ฉันเองก็ไม่อยากออกจากกองทหารในสภาพจนตรอกหรอกมันต้องมีทางที่ได้ปลดประจำการอย่างสมเกียรติสิ และฉันต้องใช้เวลาจัดการอะไรนิดหน่อย ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ฉันคงไม่มีสมาธิ”
ไอรามองมาที่เขา พยายามอ่านความรู้สึกในดวงตาของเขา แต่กลับไม่เป็นผล
ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขากำลังรู้สึกอะไร ต่อให้เธอฆ่าเขาให้ตายก็ไม่มีทางได้รู้
เขาเลือดเย็นกว่าบุริศร์มาก
“แต่ฉันอยากอยู่ข้างนาย เราเพิ่งตกลงคบกัน นายก็จะให้ฉันไปอยู่ไกลๆนายแล้วเหรอ กานต์ นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติของคนเป็นแฟนกันนะ”
ไอราเอ่ยตัดพ้อออกมา ริมฝีปากที่ยู่เข้าหากันทำให้กานต์อดนึกถึงกมลขึ้นมาไม่ได้
ผู้หญิงเวลาโกรธมักจะทำท่าทางอ้อนๆเหมือนกันหมดเลยหรือเปล่านะ?
ก็ไม่เสมอไป!
กมลเล่นใหญ่กว่าไอรามากกว่านี้อีก
กานต์ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นหางตาก็เหลือบไปเห็นชายเสื้อของใครบางคนแวบผ่านไป เขาจึงหรี่ตาลงทันที