แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1749 นายปล่อยฉันไปเถอะ
“นาย นายมาได้ยังไง?”
เสียงของพริมรตาเจือปนไปด้วยความสั่นเทาและหวาดหวั่น
กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
พวกเขารู้จักกัน?
พริมรตาเป็นแค่นักศึกษาที่มาจากบ้านนอก จะไปรู้จักกับสายฟ้าได้ยังไง?
ด้านสายฟ้าก็ไม่รู้เลยว่ากานต์อยู่ข้างนอก เมื่อเห็นท่าทางสั่นกลัวของพริมรตา ก็อดที่จะแสยะยิ้มออกมาไม่ได้
“ทำไม? ถึงยังไงเราก็ถือได้ว่าเป็นคนเคยๆกันทั้งนั้น ไม่ได้เจอฉันแค่ไม่กี่ปีเองตื่นเต้นถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
สายฟ้าก้าวไปยืนใกล้ๆพริมรตา เมื่อเห็นแผลที่ท้องของเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ว้า ท้องทะลุขนาดนี้ คงตั้งท้องไม่ได้แล้วสินะ?”
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”
พริมรตาไม่กล้าส่งเสียงดัง กระนั้นน้ำเสียงกลับแข็งกร้าวและกดต่ำ
ในใจเธอกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทิ้มไปหมด เหมือนดอกไม้ท่ามกลางฝนกระหน่ำ ชวนสงสารและน่าทะนุถนอม
“จะแตกตื่นอะไรขนาดนั้น? มีตรงไหนในร่างกายของเธอที่ฉันยังไม่เห็นบ้าง?”
“หุบปาก! นายมันปีศาจ! สารเลว!”
พริมรตาร้องไห้โฮออกมาทันที พร้อมกันนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบของกายมาปาใส่สายฟ้าเป็นพัลวัน
“ไสหัวไป! ออกไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“แจ้งตำรวจ? แจ้งตำรวจว่าอะไรล่ะ? พริมรตา เธอลืมไปแล้วเหรอว่าตอนอยู่กับฉันเธอเป็นยังไง? หืม?”
สายฟ้าพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปกดบนแผลของพริมรตาเบาๆ ของเหลวอุ้นๆพลันทะลักไหลออกมา เจ็บจนพริมรตาต้องส่งเสียงอื้ออึง เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมาบนหน้าผาก กระนั้นก็ไม่กล้าปริปากร้องขอความช่วยเหลือ
“ตกลงนายคิดจะทำอะไร? นายปล่อยฉันไปเถอะ! เมื่อก่อนฉันผิดเองที่ไปชอบนายอย่างไม่รู้จักเจียมตัว ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ฉันมันก็แค่เศษฝุ่นบนดิน ส่วนนายคือเมฆบนฟ้า คนที่ฉันไม่อาจเอื้อมถึง ตอนนี้ฉันยอมหลบหนีไปไกลๆแล้ว นายยังอยากจะให้ฉันทำอะไรอีก?”
พริมรตาสะอื้นออกมาเสียงเบา ไม่หลงเหลือความโกรธไว้เลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับอ้อนวอนอย่างต่ำต้อย
เมื่อสายฟ้าเห็นแบบนี้ก็ปล่อยมือ หยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดรอยเลือดบนนิ้ว เอ่ยพูดอย่างเนิบนาบว่า “ถ้ารู้ว่าอะไรเป็นอะไรแบบนี้ตั้งแต่แรกต้องมาเจ็บแบบนี้ไหม?”
พริมรตาเงียบ
อยู่หน้าปีศาจตนนี้ทีไร ยิ่งเธอพูดเท่าไหร่ก็ยิ่งผิดเท่านั้น สู้ไม่พูดเลยจะยังดีกว่า
ยังจำได้อยู่เลยเมื่อก่อนเธอชอบหน้าตาของเขา คิดว่าเขาเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ วัยสิบเจ็ดเป็นช่วงอายุที่วัยรุ่นถวิลหาคู่ เธอตามจีบชายหนุ่มตรงหน้าโดยไม่หันมามองฐานะของตัวเองเลย
เดิมทีคิดว่าคงจีบไม่ติด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสายฟ้าจะหวั่นไหวเพราะความพยายามของเธอ จนตอบตกลงเธอ
ช่วงเวลานั้นเธอมีความสุขสุดๆ เจอใครก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าแฟนตัวเองหล่อและแสนดีกับเธอขนาดไหน จนคนรอบข้างต่างก็พากันอิจฉาเธอ เธอคิดว่าตัวเองหาความสุขเจอแล้ว และไม่คาดคิดเลยว่าผ่านไปแค่หนึ่งเดือนสายฟ้าจะชวนเธอไปเที่ยว
เธอใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็กๆนั่นมาตลอดชีวิต ครอบครัวไม่ได้มีเงินมากพอให้เธอออกไปเที่ยวที่ไหน ในตอนที่ได้ยินสายฟ้าเอ่ยชวนจึงดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบอกแม่ยังไง นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่เธอแอบออกไปข้างนอกกับสายฟ้าโดยที่ไม่บอกแม่ และเธอคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะกลายเป็นฝันร้ายของเธอไปตลอดชีวิต
พริมรตาถูกสายฟ้าพามายังสถานที่ที่ไม่รู้จัก ตอนแรกเธอคิดว่าจะมีเธอกับเขาแค่สองคน ทว่าสายฟ้ากลับส่งเธอขึ้นเตียงกับตาแก่คนหนึ่ง
ตาแก่นั่นคือโรคจิตดีๆนี่เอง ทั้งทารุณและกระทำเธอสารพัด ราวกับไม่เห็นเธอเป็นมนุษย์
เธอเคยขอร้องความช่วยเหลือจากสายฟ้า แต่ผู้ชายที่เคยแสนดีกับเธอกลับสะบัดมือเธอทิ้ง ยัดเยียดให้เธอกลับไปยังห้องที่ทำให้เธอเปือดเปื้อนอีกครั้ง
หลังจากถูกกระทำอยู่ประมาณเดือนหนึ่งถึงได้รู้ว่า ตาแก่นั่นต้องการลูก แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ติดสักที
สุดท้ายสายฟ้าก็ต้องข่มเหงเธอ เธอถึงได้ตั้งท้อง
หลังจากนั้นเธอก็ถูกขังอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันจนกว่าจะคลอดลูก สายฟ้าเย็นชากับเธอทำเหมือนเธอเป็นแค่คนตาย
จนในที่สุดหลังจากที่ตั้งท้องมาสิบเดือนก็ถึงเวลาคลอด ทว่าอาการซึมเศร้ากลับเป็นเหตุให้เธอแท้ง
เธอดิ้นรนหาทางหนีอย่างสุดชีวิต เมื่อกลับมาถึงบ้านก็บอกทุกอย่างแก่ผู้เป็นแม่ แม่จะแจ้งตำรวจแต่เธอก็ห้ามเอาไว้
คนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์แบบนั้นได้ต้องไม่ใช่คนที่เธอต่อกรได้ง่ายๆแน่นอน
พริมรตากับแม่จึงตัดสินใจย้ายบ้านในชั่วข้ามคืน หนีออกสถานที่ที่อยู่มาเกือบครึ่งค่อนชีวิตมายังเมืองหลวง แต่ก็ไม่คาดคิดเลยว่าผ่านไปไม่กี่ปีก็ยังต้องมาเจอสายฟ้าอีกครั้ง ซ้ำยังในสถานการณ์แบบนี้อีก
ดังนั้นเธอจะไม่กลัวได้ยังไงกัน?
สายฟ้าในตอนนี้อำมหิตเสียยิ่งกว่าในตอนนั้นอีก พริมรตาทำได้เพียงเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “นายจะทำอะไรกันแน่?”
“เธออยากมีลูกไหม?”
คำถามไม่ปี่มีขลุ่ยของสายฟ้าทำให้พริมรตางุนงง แต่เมื่อนึกถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้ ดวงตาก็หม่นแสงลงอย่างห้ามไม่ได้
“ถึงอยากมีแล้วจะทำยังไงได้? ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนพิการไปแล้วนี่นา”
สายฟ้าดูท่าจะพึงพอใจเมื่อเห็นท่าทางซึมเศร้าของเธอ เขาหัวเราะออกมาเบาๆแล้วหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าส่งไปให้พริมรตา
ในโทรศัพท์เป็นรูปของเด็กผู้ชายอายุสามขวบ ยิ้มตาหยีใส่กล้อง ซึ่งกระตุ้นอารมณ์ของพริมรตาได้เป็นอย่างดี
“เด็กคนนี้ เขา……”
“ลูกของเธอ ปีนี้อายุสามขวบ”
สายฟ้าพูดเสียงเบา ทว่ากลับทำให้พริมรตาช็อกเป็นอย่างมาก
“จะเป็นไปได้ยังไง? ตอนนั้นเด็กนั่นตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นมันก้แค่กลลวงที่เอาไว้หลอกเธอเท่านั้นแหละ ไม่งั้นเธอคิดว่าอย่างเธอจะหนีออกมาจากคฤหาสน์นั่นได้เหรอ? หลายปีนี้ไม่มีใครมาสร้างความเดือดร้อนให้เธอใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่าเจ้านายเห็นแก่ที่เธอคลอดเด็กคนนั้นออกมา เลยไว้ชีวิตเธอก็เท่านั้นแหละ”
เมื่อได้ยินสายฟ้าพูดมาอย่างนี้ พริมรตาที่ไม่สามารถเป็นแม่ใครได้อีกก็ก่อเกิดความหวังขึ้นมา
“ฉันขอเจอเขาได้ไหม? ฉันจะไม่แย่งตัวเขา ขอแค่ได้เจอเขาสักแวบ แค่แวบเดียวก็พอ”
แม้ว่าเด็กคนนี้จะเกิดมาจากการที่เธอถูกย่ำยี แต่ถึงอย่างนั้นเด็กคนนี้ก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ แถมยังเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตนี้ของเธอด้วย
ตาแก่นั่นอายุเยอะแล้ว ส่วนเธอเพิ่งยี่สิบต้นๆ เธอทนได้
แค่รอให้ตาแก่นั่นตาย ลูกก็ตกเป็นของเธอแล้วไม่ใช่เหรอ?
เมื่อสายฟ้าเห็นความร้อนรุ่มในดวงตาของพริมรตา ก็รู้ในทันทีว่าเลือกใช้สิ่งของชักจูงเธอได้ถูก เขาเก็บโทรศัพท์อย่างเนิบช้า
พริมรตาร้อนรนจะแย่งกลับมา
“นายส่งรูปลูกมาให้ฉันได้ไหม? นะ? เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราที่เคยมีส่งมาให้ฉันเถอะนะ”
“ฉันส่งให้เธอได้ แต่เธอต้องตอบตกลงเงื่อนไขก่อน ขอแค่เธอจัดการมันได้ดี อย่าว่าแต่รูปลูกเลย แม้แต่ลูกตัวเป็นๆเธอก็สามารถเป็นเจอเขาได้”
สายฟ้าวางกับดักล่อ
พริมรตารีบเอ่ยถาม “นายอยากให้ฉันทำอะไร?”
บางทีอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณความกลัวที่มีต่อสายฟ้า สภาพของเธอในตอนนี้จึงสั่นเทิ้มจนแทบทรงตัวไม่อยู่
สายฟ้ากลับพอใจในสภาพของเธอตอนนี้เป็นอย่างมาก เขายิ้มเยาะพร้อมเชยคางของเธอขึ้น บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา จากนั้นก็พูดว่า “ที่ฉันอยากให้เธอทำมันง่ายมาก เธอต้องหาทางแต่งงานกับกานต์ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด แผลนี้เธอก็ได้มาเพราะฝีมือเขา เพราะฉะนั้นการตามวอแวให้เขารับผิดชอบก็ถือว่าสมเหตุสมผล อีกอย่างกานต์ไม่ใช่แค่นายทหารธรรมดานะ เขาคือลูกชายของบุริศร์ คุณชายรองแห่งบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด ครอบครัวร่ำรวย อำนาจล้นฟ้า”
เมื่อกานต์ที่อยู่ข้างนอกได้ยินก็หรี่ตาลง
นี่คือพุ่งเป้ามาที่เขาใช่ไหม?