แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1760 แพ้ไม่เป็นก็พูดออกมาให้ชัดเจน
ชมพูนะโมพวกเขาเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
“ป้ามน ลุงบุริศร์ ได้ยินว่าพี่กานต์เข้าโรงพยาบาลแล้ว เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ดวงตาของชมพูยังคงบวมอยู่ ในเวลานี้กลับกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ไอรารู้สึกกลัดกลุ้ม ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็ได้ยินนรมนเอ่ย “เด็กแสบนี่รังเกียจว่าอุดอู้เกินไป วิ่งออกไปแข่งรถ สุดท้ายเจอเข้ากับอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปกู้ภัย ถูกแรงระเบิดกระเด็นออกไป ตอนนี้กำลังอยู่ด้านในช่วยชีวิตอยู่ คงจะไม่เป็นไรมาก”
ชมพูได้ฟังนิ่งอึ้งเล็กน้อย
กานต์เล่นแข่งรถ?
จะเป็นไปได้ยังไง?
นิสัยของกานต์หนักแน่นเป็นอย่างมาก ไม่มีทางเล่นของเหล่านี้โดยเด็ดขาด แต่กับไอรามีความเป็นไปได้เช่นนี้
ชมพูมองไปที่ด้านข้าง พบเงาร่างไอราอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อยในทันที
“คือเธอใช่ไหม? คือเธอที่ลากพี่กานต์ไปแข่งรถใช่หรือเปล่า? ไอรา เธอจะทำอะไรกันแน่? ทำร้ายพี่กานต์จนตอนนี้ถูกกักตัวตรวจสอบยังไม่พอ ยังเอาแต่ใจพาเขาออกไปแข่งรถอีก เธอจะต้องทำร้ายเขาจนถอดเครื่องแบบทหารนี้ออกให้ได้ถึงจะพอใจใช่ไหม? เธอคือเจ้าหญิง เธอไม่สนใจเครื่องแบบทหารนี้ แต่เธอรู้ไหมว่าพี่กานต์เพื่อเครื่องแบบทหารนี้ทุ่มเทไปเท่าไร?”
คำกล่าวโทษของชมพูทำให้ไอราไร้คำพูดที่จะโต้ตอบ
นรมนเห็นชมพูใจร้อนเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย
แม้จะรู้ว่าเด็กสาวคนนี้มีความหมายอย่างนั้นกับกานต์ แต่ว่านี่ก็ช่าง…
ยังไม่ทันรอให้นรมนมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับคืนมา นะโมก็ขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าวดึงชมพูกลับมา เอ่ยเบาๆว่า “เธอกำลังทำอะไร?”
“นายไม่เห็นหรอ? ฉันกำลังพูดกับไอรา!เธอสามารถเอาแต่ใจเองได้ ป่าวประกาศเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้ได้ แต่กรุณาอย่าทำร้ายพี่กานต์ของพวกเรา!”
เทียบกับความใจร้อนของชมพูแล้ว นะโมใจเย็นเป็นอย่างมาก
“ชมพู ตอนที่เธอเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเฮียก็ควรจะถามเฮียก่อนว่าต้องการให้เธอทำเช่นนี้หรือเปล่าใช่หรือไม่? เฮียกับไอราคือต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกัน พวกเขาสองคนจะทำอะไรถึงตาเธอมาชี้นิ้วบงการหรอ? ต่อให้วันนี้ไอราทำผิด ก็ต้องเป็นเฮียมาตำหนิเธอ ไม่ใช่เธอ”
คำพูดของนะโมทำให้ดวงตาของนรมนเปล่งประกายขึ้นมาหลายระดับ
กานต์กับไอราคือต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกัน?
เธอฟังไม่ผิดใช่หรือเปล่า?
แม้เธอจะคาดหวังมาโดยตลอดให้ไอรามาเป็นลูกสะใภ้ของเธอ และก็รู้ว่าไอราตามจีบกานต์มายี่สิบปี แต่ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกันตอนไหนกัน?
เธอพลาดอะไรไป?
บุริศร์เห็นท่าทีที่ภรรยาของตนเองดวงตาเปล่งประกายก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงทำให้เด็กๆตกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะดึงแขนเสื้อของนรมน
นรมนใช้สายตาถามเขาด้วยความสงสัน “ทำอะไร?”
“อย่าสร้างปัญหา!ทุกอย่างรอกานต์ออกมาค่อยพูด”
สายตาของบุริศร์นรมนดูออกแล้ว แม้ว่าจะใจร้อน แต่ตระหนักถึงสถานะของชมพู เธอก็ยังคงนิ่งเอาไว้ ทว่าสายตาที่มองไอรากลับชอบยิ่งกว่าเดิม
ก็ไม่ได้บอกว่าชมพูไม่ดี เพียงแต่สถานะของชมพูทำให้นรมนปร้บตัวไม่ค่อยได้
แม้ว่าต่างก็เป็นเจ้าหญิง แต่เจ้าหญิงประเทศอื่นกับเจ้าหญิงประเทศZไม่เหมือนกัน
นรมนกับบุริศร์ต่างก็เป็นคนประเทศZธเนศพลแม้ว่าจะเป็นเพื่อนรักของพวกเขา แต่ตอนนี้ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า หากกานต์กับชมพูคบกัน ความรู้สึกของพระราชวงศ์นี้เป็นไม่ง่ายเท่าไร แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นนรมนรู้ว่ากานต์ไม่ได้มีความหมายอย่างนั้นกับชมพู
ตอนนี้ได้ฟังนะโมพูดว่ากานต์ดูเหมือนจะยอมรับไอราแล้ว หัวใจของความเป็นแม่ดวงนี้ของนรมนก็ถือว่าได้วางลงแล้ว
ชมพูกลับเป็นเพราะว่าช่วงนี้ถูกกานต์ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าโจมตีเข้าให้ ตอนนี้ยังได้ยินนะโมพูดเช่นนี้อีก อดไม่ได้ที่จะใจร้อนขึ้นมา
“นายก็รู้สึกว่าฉันไม่ถูก? เฮียเป็นเฮียของพวกเรา หรือนายก็หวังให้เขาถอดเครื่องแบบทหารเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งหรอ? ก็ใช่ เฮียไปแล้วนายถึงมีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนตำแหน่งน่ะสิ”
คำพูดนี้ของชมพูพูดอย่างเลือกคำพูดไม่ถูกแล้ว
สีหน้าของนะโมซีดลงเล็กน้อยในทันที กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ไอรารู้ความรู้สึกที่นะโมมีต่อชมพูจากกานต์ ตอนนี้เห็นชมพูรังแกนะโมเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นน้องชายที่ตนเองปกป้องมาตลอดหลายปีนี้ จะสามารถเห็นเขาถูกชมพูรังแกเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
เธอเอ่ยขึ้นอย่างโมโหจนหอบหายใจในทันที “ชมพู หากเธอแพ้แล้วยอมรับไม่ได้ก็พูดออกมาให้ชัดเจน ไม่ต้องระบายความโกรธกับนะโม”
“ฉันแพ้แล้วพาล?”
“ไม่งั้นล่ะ? ในตอนแรกคือเธอที่พูดว่าจะแข่งขันกันอย่างยุติธรรม ตอนนี้กานต์เลือกฉันเธอกลับแพ้ไม่เป็นแล้ว? นี่ก็คือสิ่งที่เธอเรียกว่าจิตใจและสปิริต?”
คำพูดของไอราราวกับฝ่ามือหนึ่งตบลงบนใบหน้าของชมพูอย่างแรง
เธอรู้สึกตนเองขายหน้ามากขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ชมพูกัดริมฝีปากล่างผลักนะโมออกวิ่งไปทางด้านนอก
“ชิส์ นิสัยอะไรกัน”
ไอราแขวะเล็กน้อย
นะโมเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างที่จะปวดหัว “ลูกพี่ เธอก็พูดน้อยลงสักสองประโยคเถอะ ชมพูช่วงนี้แรงกดดันทางด้านอารมณ์สูงมาก เธอก็อย่าไปกระตุ้นเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้นเธอทำร้ายให้เฮียต้องถูกกักตัวตรวจสอบก็มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่หน่อยจริงๆ พวกเราต่างก็เป็นห่วงเฮียกันมาก”
นี่เป็นครั้งแรกที่นะโมพูดจากับไอราแฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ไอราหุบปากในทันที
“ประธานบุริศร์ คุณนาย ผมไปดูชมพูก่อน พวกคุณตามสบาย”
พูดจบนะโมก็หมุนตัววิ่งไปในทันที
จากนั้นไอราถึงได้พบว่ากันติมากับพริมรตาไม่รู้ว่ากลับห้องผู้ป่วยไปตั้งแต่เมื่อไร ที่นี่เหลือเพียงแค่นรมนกับบุริศร์สองคน
เธอเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างทุกข์ใจว่า “ป้ามน พวกท่านก็รู้สึกว่าหนูไม่ค่อยดีใช่ไหมคะ?”
“อย่าพูดแบบนี้ ขอเพียงแค่ตนเองคิดว่าทำถูกก็ยืดหยัดต่อไป ฉันเชื่อว่ากานต์เจ้าเด็กแสบนั่นมีความสามารถในการแยกแยะถูกผิด และฉันก็เชื่อเช่นเดียวกันว่าลูกสาวของรมิดาไม่มีทางแย่ไปถึงไหนได้”
ได้ฟังนรมนพูดเช่นนี้ ไอราอีกนิดเดียวก็จะพูดเหตุผลที่ตนเองไปที่นั่นออกมาแล้ว แต่ว่าสุดท้ายเธอก็ยังคงอดทนเอาไว้ได้
ไฟห้องฉุกเฉินดับลง
ตอนที่กานต์ถูกเข็นออกมาเป็นเพราะฤทธิ์ของยาชากำลังหลับลึกชั่วคราว เพียงแต่หมอทำการอธิบายบางส่วนเกี่ยวกับอาการของกานต์
ดีที่บาดแผลของเขาไม่ได้รุนแรงมาก พักผ่อนอย่างระมัดระวังก็จะฟื้นตัว
ใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของไอราก็ถือว่าวางลงมาเสียที
ไอรากับนรมนพวกเธอเข็นกานต์กลับไปที่ห้องผู้ป่วยด้วยกัน
เพราะว่าบุริศร์ สองสามวันนี้ห้องผู้ป่วยถูกคุ้มกันขึ้นมา ทุกคนที่คิดจะเข้าห้องผู้ป่วยต่างก็ถูกตัดขาดอยู่ด้านนอก แม้แต่คนของกองทัพภาคก็ไม่ยกเว้น
ธเนศพลได้ยินว่าบุริศร์กลับประเทศมาแล้ว ก็ตามมาอย่างเร่งรีบ คุยกับเขาอยู่ครู่หนึ่งก็กลับ สำหรับการเคลื่อนไหวของบุริศร์ก็ไม่ได้ยับยั้ง
กานต์ถือได้ว่าได้รับช่วงเวลาที่เงียบสงบสองสามวัน และนรมนมองดูท่าทีของลูกชายที่แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บแต่กลับสีหน้าแดงเปล่งปลั่ง ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าลูกชายตนเองคงจะมีความรักแล้วจริงๆ
และคู่รักเห็นได้ชัดก็คือไอราที่อยู่ตรงหน้า
เธอหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “เจ้าเด็กแสบ ในตอนแรกหลบหลีกไอราขนาดนั้น คือตั้งใจใช่หรือเปล่า แกชอบไอรามาตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหม?”
“แม่ ผมเป็นถึงลูกในไส้ของแม่นะ!”
กานต์เริ่มหมดคำพูดแล้ว
คำพูดนี้ของแม่เขาพูดจนเขาก็ยังไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงถึงจะดี หากรู้แต่แรกว่าสุดท้ายจะต้องตกอยู่ในมือของไอรา เขาจะเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนั้นกับไอราตั้งแต่เด็กหรอ?
น่าเสียดายที่ทุกอย่างต่างก็ไม่มีหากรู้แต่แรก