แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1767 น้ำทะเลแช่สมองของเธอพังแล้ว?
“กานต์ คุณกลับมา!”
ไอราคำรามเบาๆ แต่กลับก็ไม่กล้าเสียงดังมากนัก
นี่กานต์กลับไปจะทำอะไร?
สายฟ้าไม่ได้ยุแหย่ง่ายขนาดนั้น หากเขาถูกคนของสายฟ้าพบเข้า ถึงเวลาตัวคนเดียวจะทำอย่างไร?
ไอราคิดถึงตรงนี้ก็จะย้อนกลับไป กลับถูกสิงหราชดึงแขนไว้ในทันที
“นายหญิง คุณกานต์บอกเอาไว้แล้วว่าให้ผมส่งคุณไป”
“ปล่อย!”
ไอราไม่เคยเห็นสิงหราชมาก่อน แต่จากคำเรียกขานที่เขามีต่อกานต์ก็รู้ได้ว่าเขาคือข้ารับใช้ตระกูลโตเล็ก
สิงหราชกลับเอ่ยขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย “ผมเชื่อฟังเพียงแค่คำสั่งของคุณกานต์เท่านั้นฉะนั้นนายหญิงขออภัยครับ!”
พูดจบสิงหราชก็น็อคไอราจนสลบไป นำเธอลากเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ มองดูทิศทางของทะเลใหญ่อีกทีจากนั้นขับเฮลิคอปเตอร์ไปอย่างไม่ลังเลหันหลังกลับมา
กานต์กลับมาถึงใต้เรือกลไฟของสายฟ้า ปีนขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว ปล่อยระเบิดทิ้งไว้ในตำแหน่งที่หลบซ่อนสองสามจุด จากนั้นจากไปอย่างไร้ซุ่มไร้เสียงอีกครั้ง
มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เลือดเย็น
กล้าวางแผนทำร้ายเขา ปล้นผู้หญิงของเขาไป ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสม!
กานต์ออกไปจากตรงนั้นระยะทางหนึ่งด้วยความรวดเร็ว จากนั้นถึงได้หยิบรีโมทออกมาจากกระเป๋าเสื้อผ้า จ่อไปทางเรือกดปุ่มลงไป
เสียงระเบิดก้องกังวาล เมฆรูปเห็ดสีดำก็กระจายเต็มบนพื้นผิวทะเล
สายฟ้าถูกแรงสั่นสะเทือนจนต้องกระโดดทะเลเอาชีวิตรอด กลับโมโหเรื่องนี้จนแทบจะสลบลงไป
“ใคร? ใครระเบิดเรือกลไฟของฉัน? องค์หญิงไอราล่ะ? ตัวเธอจะเกิดอะไรขึ้นไม่ได้!”
แต่ความหวาดกลัวที่แรงระเบิดดึงดูดเข้ามาทำให้คนที่อยู่บนเรือไม่ฟังคำสั่งเลยแม้แต่น้อย ต่างฝ่ายต่างหนีเอาชีวิตรอด
สายฟ้าจ้องเขม็งไปที่ฉากนั้น โมโหจนร้อนรนจนปัญญา ทำได้เพียงไปจากที่นี่ก่อนชั่วคราวเช่นเดียวกัน
หลังจากกานต์ระบายความแค้นเรียบร้อยก็ขึ้นฝั่งในเขตพื้นที่ทะเลที่อยู่บริเวณใกล้เคียง วินาทีแรกก็ติดต่อสิงหราช。
“มารับฉันที่นี่!”
กานต์ส่งตำแหน่งที่ตั้งให้กับสิงหราช。
สิงหราชยังไม่ทันจัดการที่ทางกับไอราให้เรียบร้อยก็ได้รับคำสั่งจากกานต์ รู้สึกนับถือกำลังการเคลื่อนไหวของกานต์เป็นอย่างยิ่ง รีบกลับเส้นทางการบินกลับไปถึงตำแหน่งที่ตั้งของกานต์
คนกลุ่มหนึ่งออกจากทะเลหลวงไปอย่างรวดเร็ว
กานต์มองดูท่าทางสลบไสลของไอรา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นายทำเธอสลบไป?”
“นายหญิงไม่ยอมจากไป จะตามคุณไปให้ได้ ผมกลัวทำเรื่องของคุณกานต์เสีย จึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้”
สิงหราชพูดด้วยท่าทีที่เหมาะสม
ดวงตาของกานต์เป็นประกายขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกที่แปลกประหลาดหมุนวนอยู่ภายในดวงตาของเขา จากนั้นเอ่ยอย่างราบเรียบว่า “ครั้งหน้าอย่าทำอีก”
“ครับ”
กานต์กอดไอราเข้ามาในอ้อมแขน หาเข็มเงินออกมาจากในกระเป๋าเป้พกติดตัว แทงลงไปเข็มหนึ่งบนจุดชีพจรบางแห่งของไอรา ไอราร้องโหยหวนฟื้นขึ้นมาในทันที
“สารเลว!แกกล้าทำฉัน!”
ความทรงจำของไอรายังหยุดอยู่ที่ฉากนั้นก่อนหน้าที่จะสลบ ตาของเธอยังไม่ทันลืมขึ้นก็ลงมือไปทางข้างกาย ถูกกานต์รั้งเอาไว้ในทันที
“เพิ่งฟื้นขึ้นมา โวยวายอะไร?”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ไอราอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย จากนั้นถึงได้มองชัดเจนว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเป็นใคร แต่กลับเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? คุณกลับไปทำอะไร?”
“ระเบิดเรือ!”
สองคำสั้นๆกลับแสดงนิสัยและอารมณ์ของกานต์ออกมาให้เห็นเต็มตา
ไอราหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“สายฟ้าคงจะโมโหตาย”
“คงจะไม่ คนอย่างเขาไม่คิดอะไรมาก เธอต่างหาก ดีขึ้นหน่อยหรือยัง?”
นี่ไอราถึงได้เห็นว่าในมือของกานต์ถือเข็มเงินเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเจ็บปวดเมื่อสักครู่นี้ เอ่ยขึ้นด้วยปากที่กระตุกเล็กน้อยว่า “เมื่อครู่นี้คือคุณที่ใช้เข็มเงินแทงฉัน?”
“ไม่งั้นล่ะ? ถึงอย่างไรผมก็เคยเรียนจุดชีพจรบนร่างกายมนุษย์กับพี่ใหญ่มาช่วงหนึ่ง เธอไม่ใช่บอกว่าถูกวางยาทั่วทั้งร่างกายอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงหรอกหรอ? ฉันจำได้ว่าตำแหน่งนั้นที่ฉันแทงลงไปเมื่อสักครู่นี้น่าจะทำให้เธอฟื้นตัวได้เยอะมาก”
กานต์พูดจบก็เก็บเข็มเงินลงไป แต่ไอรากลับรู้สึกกลัวขึ้นมา
“คุณแทงเข็มกับคนครั้งแรกใช่หรือเปล่า?”
“เธอรู้ได้ยังไง?”
“แรงของคุณสามารถแทงวัวตัวหนึ่งให้ตายได้ คุณว่าฉันรู้ได้ยังไง!กานต์ คุณน่ะอยากทำฉันให้ตายแล้วหาแฟนใหม่ใช่หรือเปล่า?”
ไอรารู้สึกอยุติธรรมเหลือเกิน นี่ไม่ตายที่ทะเลหลวง ไม่แน่อาจตายอยู่ในมือของกานต์ได้
กานต์กลับหัวเราะสบายๆพร้อมกับเอ่ย “วางใจ ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเธออยากตายอยู่ในมือของฉันก็ไม่ควรจะเป็นวิธีการตายนี้ ตายอยู่บนเตียงไม่ดีหรอ?“
“คุณไสหัวออกไปเถอะคุณ!”
ไอราคิดไม่ถึงจริงๆว่ากานต์จะพูดจาเพ้อเจ้อขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งข้างกายยังมีคนอื่นอีก อดไม่ได้ที่จะอายจนหน้าแดง
กานต์กลับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ หมุนตัวไปพูดกับสิงหราชว่า “ขับตรงกลับเมืองชลธี”
แม้ว่าบุริศร์กับนรมนย้ายกิจการไปที่ต่างประเทศทั้งหมดแล้ว แต่กานต์ยังคงจัดการกับคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็กออกมาเมื่อหลายปีก่อน หลังจากวันหยุดกลับไปพักด้วยความเคยชิน เขายังคงมีความรู้สึกเล็กน้อยกับคฤหาสน์หลังเก่า
สิงหราชชะงักไปชั่วขณะ ไม่รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของเมืองชลธี แต่ว่าก็ไม่ได้เอ่ยถาม เปิดจีพีเอสหมุนเปลี่ยนเส้นทางในทันที
ในเครื่องบินเงียบลงมาอย่างกะทันหัน ไอราถึงรู้สึกขึ้นมาได้ว่าสถานการณ์ของตนเองกับกานต์ค่อนข้างเก้กังทำตัวไม่ถูก
“คุณไม่มีคำถามจะถามฉันหรอ?”
เสียงของไอราเบามาก ถึงขนาดเก็บลมหายใจของทั่วทั้งร่างกาย
กานต์มองดูเธอแวบหนึ่งอย่างนิ่งเฉย สายตาที่มีความหมายลึกซึ้งทำให้ไอราราวกับนั่งอยู่บนพรมเข็ม
“เธอมีอะไรจะพูดกับฉัน?”
กานต์ย้อนถามกลับ
อยู่ๆไอราก็ไม่รู้ว่าตนเองควรจะเริ่มพูดขึ้นมาจากตรงไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีความรู้สึกคิดไปเองอย่างหนึ่ง รู้สึกว่ากานต์ดูเหมือนจะรู้อะไรหน่อยแล้ว
เห็นท่าทางที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดของไอรา กานต์ก็ไม่บีบบังคับเธอ เพียงแต่เสียงเยือกเย็นเล็กน้อยว่า
“ต่อไปไม่ว่าจะทำอะไร พาสมองออกไปด้วยหน่อย อย่าคิดว่าทักษะของตนเองดีมากก็มั่นใจในฝีมือกล้าทำอะไรไปหมด คราวนี้เป็นเพราะฉันติดตั้งระบบติดตามลงบนโทรศัพท์มือถือของเธอ คราวหน้าฉันคงไม่กล้ารับประกันว่าเธอจะมีความโชคดีขนาดนี้”
ได้ยินกานต์ติดตั้งระบบติดตามบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง ไอราอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย
ไม่รู้สึกแย่และโกรธเหมือนกันกับคนอื่น ในใจของเธอเกิดกระแสความอบอุ่นพาดผ่านอย่างช้าๆ เพราะเธอรู้ว่า กานต์คนๆนี้ที่จริงแล้วเย็นชามาก หากไม่ใช่คนที่สำคัญต่อตนเองเขาไม่มีทางยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยแม้แต่น้อย
คิดถึงอันตรายที่กานต์ตัวคนเดียวไปช่วยชีวิตเธอขึ้นมา มุมริมฝีปากของไอราก็เริ่มยกขึ้น
“กานต์ คุณรักฉันแย่แล้วใช่หรือเปล่า?“
“น้ำทะเลแช่สมองของเธอพังแล้ว?”
กานต์เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง พูดจาค่อนข้างเหน็บแนม
ไอรากลับไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าวกอดแขนของเขาเอาไว้ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “คุณอย่าไม่ยอมรับ ไม่งั้นคุณใส่ใจฉันขนาดนั้นทำไม? ต่างก็บอกว่าเป็นฉันที่ตามจีบคุณ รีบพูดมาคุณมีความรู้สึกกับฉันตั้งแต่เมื่อไร?”
กานต์มองดูไอราทีหนึ่งราวกับดูคนโง่ เอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างรังเกียจว่า “ฉันมีความรู้สึกกับเธอมาตลอดเธอไม่รู้?”
“หา?”
ไอรารู้สึกว่าตัวเองแทบจะถูกความสุขพุ่งชนจนล้มคว่ำแล้ว ก็ได้ยินกานต์เอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “เริ่มตั้งแต่เธอแอบดูฉันฉี่ ฉันก็แทบอยากจะฆ่าเธอทิ้งไปจากโลกใบนี้ ความโกรธและความเกลียดก็คงจะถือว่าเป็นความรู้สึกแบบหนึ่ง”
คำพูดนี้พูดออกมา รอยยิ้มของไอราก็ค้างเติ่งอยู่บนใบหน้า