แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1800 ฉันทำเพราะเธอ
มือถือดังอยู่ไม่กี่เสียง ทางนั้นก็รับแล้ว
ตอนที่กิจจาเห็นกานต์ก็เอ่ยถามอย่างตามใจคิดว่า “แกไม่ใช่ไปเมืองหลวงแล้ว? เวลานี้ไม่กะหนุงกะหนิงกับไอรา ทำไมมีเวลาวิดีโอคอลหาฉันได้?”
“พี่ มีช่องทางหาแหล่งไตหรือเปล่า?”
คำพูดนี้ของกานต์พูดออกมา กิจจาชะงักไปในทันที
“ไตของแกเกิดปัญหาขึ้นแล้ว? การปลูกถ่ายคราวก่อนไม่ใช่ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหรอกหรอ? หรือจะบอกว่าเกิดปฏิกิริยาต่อต้านอวัยวะใหม่?”
“ไม่ใช่ผม คือไอรา”
กานต์นำเรื่องที่ไอราปิดบังมาโดยตลอดบอกกับกิจจา
หลังจากที่กิจจาฟังจบไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน สุดท้ายก็เอ่ยขึ้นว่า “กานต์ ชาติก่อนแกจะต้องกอบกู้ทั้งกาแล็กซี่เอาไว้อย่างแน่นอน ชาตินี้ถึงได้มีบุญเจอผู้หญิงอย่างไอรา”
“ผมก็ว่าใช่ ดังนั้นผมตั้งใจจะทะนุถนอมเธอ เธอคนนี้น่ะนะ งานอดิเรกอย่างอื่นไม่มี ชอบต่อยตีฝึกวิชาการต่อสู้ แต่สภาพร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวย ขยับเล็กน้อยก็ทนไม่ไหว จะว่ายังไงดีล่ะ? เธอก็เหมือนกับดอกเหมยดอกหนึ่งที่ถูกย้ายไปปลูกในเรือนกระจก แม้ว่ายังคงสวยงาม แต่กลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน พี่ ผมอยากให้เธอแข็งแรง หากได้ล่ะก็ ช่วยผมหาแหล่งไตที่เข้ากันได้กับผม ผมคืนไตของเธอให้กับเธอ”
“แกคิดว่าการปลูกถ่ายไตคือเล่นพ่อแม่ลูกหรอ? แกอยากเอาก็เอา ไม่อยากเอาก็คืนให้คนอื่นเขา? นี่ไม่ก่อความวุ่นวายหรอ?”
กิจจาได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ก็โมโหขึ้นมา
กานต์กลับฟังความห่วงใยของกิจจาออก หัวเราะพร้อมกับเอ่ยว่า “งั้นพี่ว่าทำไงดี?”
“หาเวลาสุ่มตัวอย่างให้กับเธอ ฉันไปตลาดมืดลองดูว่าจะสามารถหาที่เข้ากันได้เจอหรือเปล่า หากมีล่ะก็ พยายามทำการผ่าตัดให้กับเธอ ฟังสภาพการณ์ที่แกพูดเมื่อสักครู่นี้ ฉันกลัวว่าเธอจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านอวัยวะใหม่ ยังไงก็ต้องตรวจเช็คให้ดีสักรอบถึงจะได้”
คำพูดของกิจจาทำให้กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอไม่อยากให้ผมรู้เรื่องที่เธอบริจาคไตให้กับผม ผมก็ไม่ได้บอกเธอมาโดยตลอดว่าผมรู้ คาดว่าคงจะกลัวผมตอบแทนบุญคุณเธอล่ะมั้ง เด็กคนนี้เห็นความรักเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษมาโดยตลอด ดังนั้นตลอดเวลาผมทำเป็นไม่รู้ ตอนนี้หากบอกเธอว่าผมรู้แล้ว เกรงว่าเธอจะทำเรื่องที่สุดท้ายไม่เกิดประโยชน์”
ไม่พูดไม่ได้กานต์เข้าใจไอราอย่างสมบูรณ์แบบ
กิจจาได้ยินเขาพูดเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนอีกครั้ง เขาก็มีแต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าน้องชายคนนี้เท่านั้นถึงได้ผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเองเช่นนี้
“งั้นแกอยากให้ฉันทำยังไง? ฉันลำพังแค่ตัวอย่างเดียวไม่มีทางทำการผ่าตัดได้”
กานต์ยิ้มขึ้นมาอย่างกะทันหัน เอ่ยว่า “พี่ ไม่อย่างงั้นพี่มาเมืองหลวงสักรอบ?”
“ไปซะ!”
กิจจาด่าเขาไปในทันทีหนึ่งคำ แต่ว่ามือก็ได้เริ่มพลิกดูตารางเวลาช่วงวันเหล่านี้โดยจิตใต้สำนึกแล้ว
“พรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ไหม?“
กิจจาดูแล้วหลายรอบ มีเพียงแค่บ่ายวันพรุ่งนี้ที่มีเวลา
กานต์เป็นธรรมดาที่จะคาดหวังให้ยิ่งไวยิ่งดี ได้ยินพรุ่งนี้ตอนบ่าย ก็เอ่ยขึ้นในทันทีว่า “ได้ แต่ว่าตอนที่พี่มาพาณิตามาด้วย”
“พาเธอไปทำไม?”
“แกคิดอะไรกับณิตา?”
ประโยคนี้ของกิจจาทำให้กานต์หมดคำพูดไปในทันที
“พี่ ผมไม่ได้คิดอะไรกับณิตา และก็ไม่กล้ามีความคิดด้วย พี่วางใจได้เลย ผมให้พี่พาเธอมาก็เพราะเธอคือเพื่อนสนิทของไอรา ถึงเวลามีเพียงแค่เธอเท่านั้นถึงจะสามารถใส่ยากล่อมประสาทลงไปในแก้วของไอราอย่างไร้ซุ่มไร้เสียงได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เรียนหมอมาเหมือนกัน สะดวกหน่อย”
กิจจาในที่สุดก็ฟังออกแล้ว รู้สึกกานต์พูดมาตั้งนาน ประโยคสุดท้ายนี้ถึงจะเป็นส่วนสำคัญ
ดังนั้นเจ้าเด็กแสบนี่คิดว่าเขาตรวจร่างกายและทำการผ่าตัดให้กับไอราไม่ค่อยสะดวก?
“ไม่อย่างนั้นแกหาแพทย์หญิงมาทำเรื่องนี้เถอะ ฉันก็ไม่สะดวกพอดี”
“พี่ ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม?”
กานต์เริ่มกลัดกลุ้มขึ้นมา
กิจจาหัวเราะอย่างประชดประชัน เอ่ยตรงๆว่า “กำลังยุ่งอยู่ จัดการเสร็จค่อยโทรหาแก”
“ครับ”
หลังจากวางสาย กานต์ก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด
ขอเพียงแค่มีกิจจาออกหน้า ปัญหาของแหล่งไตก็คงจะไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้ก็มีแต่เรื่องของไอราทางนี้แล้ว
คิดถึงตอนที่ไอราบริจาคไตคนในครอบครัวไม่มีใครรู้สักคน ในใจของกานต์ก็ทรมานมากเป็นพิเศษ
เขากำลังคิดว่าหากกมลบริจาคไตหนึ่งข้างของตัวเองให้กับผู้ชายคนหนึ่ง และปิดบังทุกคนในครอบครัวเอาไว้ล่ะก็เขาจะมีความรู้สึกยังไง?
คาดว่าใจที่อยากจะฆ่าผู้ชายคนนั้นคงมีแล้วล่ะมั้ง
ดังนั้นคราวนี้ไม่ว่าจะสามารถทำการผ่าตัดสำเร็จได้หรือไม่ กานต์คิดว่าอรรณพกับรมิดาต่างก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริงของเรื่อง
กานต์ทางนี้กำลังคิดเรื่องราว ไอราก็ได้พูดกับหมอจบแล้ว พอหันกลับมากลับไม่พบเงาร่างของกานต์ อดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย
“กานต์ล่ะ?”
เธอถามนะโม
นะโมก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน เพียงครู่เดียวไอราก็ร้อนรนขึ้นมา
เธอวิ่งออกจากห้องผู้ป่วยด้วยความรวดเร็ว ก็เห็นกานต์สูบบุหรี่อยู่ที่มุมเลี้ยวระเบียงทางเดิน อดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย
กานต์สูบบุหรี่เป็นนั้นเธอรู้ เพราะที่กองทัพภาคแรงกดดันสูงมาก มีครั้งหนึ่งที่กานต์ได้รับบาดเจ็บรุนแรงไม่มีมอร์ฟีนระงับความเจ็บปวดแล้ว ได้แต่ใช้นิโคตินมาบรรเทาความเจ็บปวดแทน
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเรียนรู้การสูบบุหรี่ ไอจนน้ำตาต่างก็ไหลออกมา แต่กลับสูบอยู่ตลอด ราวกับมีเพียงเช่นนั้นถึงจะสามารถกดความเจ็บปวดที่กัดเซาะไปถึงกระดูกลงมาได้ยังไงอย่างงั้น
แต่หลังจากนั้นจำนวนการสูบบุหรี่ของกานต์ก็น้อยมาก ขณะนี้เห็นกานต์กำลังสูบบุหรี่ ปฏิกิริยาตอบสนองโดยจิตใต้สำนึกของไอราก็คือเรื่องขอวชมพูทำให้กานต์เจ็บปวดแล้ว
ผู้ชายคนนี้แม้ว่าจะปฏิเสธชมพูอย่างไร้เยื่อใยโดยสมบูรณ์ แต่ในใจก็ยังคงมีตำแหน่งของชมพูอยู่
ไอราเดินเข้าไปอย่างช้าๆ แย่งบุหรี่ของกานต์ไปจากด้านข้าง จากนั้นกดลงบนขอบหน้าต่างดับไฟ
“โรงพยาบาลห้ามสูบบุหรี่ ตัวหนังสือใหญ่ขนาดนี้คุณมองไม่เห็น?”
“ไม่สูบแล้ว”
ไอราออกมาแล้ว กลิ่นบุหรี่บนร่างกายของตนเองไม่แน่อาจจะกระตุ้นไปยังการรับกลิ่นของเธอ เขาไม่กล้าสูบแล้วเป็นธรรมดา
“ฉันไปอาบน้ำสักหน่อย กระจายกลิ่นบุหรี่บนร่างกายออกไป”
พอไอราได้ฟังก็เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ชมพูไม่ได้แพ้กลิ่นบุหรี่ คุณไม่ต้องอาบน้ำ”
กานต์ชะงักเล็กน้อย มองดูความไม่สบายใจภายในดวงตาของไอรา ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างกะทันหันว่า “เธอนึกว่าฉันทำเพื่อชมพู?”
“ไม่งั้นล่ะ? คุณยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้หรือว่าไม่ใช่เพราะหงุดหงิดเรื่องที่ชมพูถูกสะกดจิต? กานต์ ฉันไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องระมัดระวังกับฉันมาก”
ไอราก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าเป็นอะไรไป เดิมทีเธอไม่ได้อยากทะเลาะกับกานต์ แต่เวลานี้ก็คือค่อนข้างจะทนไม่ไหวแล้ว
กานต์ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ที่ตอนไม่ได้ก็กังวลว่าจะไม่ได้ พอได้แล้วก็กังวลว่าจะเสียไปอีกของไอรา แต่ว่ากลับดูความลนลานและความไม่มั่นใจในตัวเองภายในดวงตาของเธอออก
เขาเดิมทีไม่ได้คิดจะอธิบาย กลับชะงักเล็กน้อยในตอนที่มองเห็นอารมณ์ภายในดวงตาของเธอ จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนหายใจว่า “ฉันยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้เป็นเพราะเธอ ไม่เกี่ยวข้องกับชมพู”
“เพราะฉัน?”
ไอราอดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไป
เธอมีเรื่องรบกวนจิตใจอะไรให้กานต์ต้องสูบบุหรี่?
หรือเขารู้อะไรมา?
ไอรารู้สึกลนขึ้นมาในทันที
“คุณอย่าคิดอะไรซี้ซั้ว ฉันปกติดี คุณสูบบุรี่เพราะฉันอะไรกัน?”
กานต์เห็นการหลบเลี่ยงของไอรา คำพูดที่มาถึงริมฝีปากสุดท้ายก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
เด็กคนนี้เนี่ยนะ ดื้อจริงๆเลย
เขากำลังคิดใช้วิธีอะไรมาอธิบายอีกสักรอบ ก็เห็นนะโมวิ่งออกมา ตอนที่เห็นกานต์กับไอราสีหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน
“เฮีย ลูกพี่ สถานการณ์ของชมพูไม่ค่อยดี”