แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1804 ฉันไม่มีทางยอมรับเธอ
เธอคิดว่าตัวเองรักกานต์มากมาโดยตลอด ขอเพียงแค่เป็นสิ่งที่ไอราทำให้กับกานต์ได้ เธอชมพูก็สามารถทำได้
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ต่างก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอก
ในตอนที่อันตรายมาถึง ในวินาทีนั้นที่ทางเลือกชีวิตแผ่อยู่ตรงหน้า เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ไอรากลับใช้ทั้งหมดของตัวเองไปช่วยชีวิตคนที่ตนเองรัก
อยู่ๆชมพูก็รู้สึกว่า”ฉันชอบพี่”สามคำนี้ที่ตัวเองพูดกับกานต์น่าขายหน้าขนาดไหน
มีผู้หญิงที่ชีวิตก็ไม่เอากลับจะรักกานต์เช่นนี้อย่างไอราอยู่ เธอยังมีสิทธิ์อะไรมาพูด“ฉันชอบพี่”อยู่อีก?
“พี่กานต์ วันนี้พี่ไม่ได้มาเยี่ยมฉันผู้ป่วยคนนี้หรอกหรอ? ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าพี่มาแทงใจฉันล่ะ?”
อารมณ์ของชมพูหดหู่เป็นอย่างยิ่ง
กานต์เห็นเธอเป็นเช่นนี้กลับหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “แทงใจก็เป็นเพราะในใจของเธอยังมีที่ว่างสามารถเศร้าได้ ดังนั้นความชอบที่เธอมีต่อฉันไม่ได้เป็นความชอบแบบผู้หญิงชอบผู้ชายไปเสียหมด มีความรู้สึกพี่ชายน้องสาว มีมิตรภาพที่โตมาด้วยกัน บางทีเธอก็อาจจะมีความเสน่หาต่อฉันจริงๆ แต่ไม่ได้หยั่งรากลึกลงไปขนาดนั้นอย่างไอราแน่นอน ชมพู ในใจของฉันเธอคือการมีอยู่แบบน้องสาวมาโดยตลอด ถึงแม้ไม่มีไอรา ฉันก็ไม่มีทางยอมรับเธอ”
“พี่กานต์ พี่เลิกพูดได้แล้ว”
ชมพูหดหู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
กานต์กลับดูเหมือนมองไม่เห็นความทรมานของเธอ เอ่ยเบาๆว่า “นะโมเป็นผู้ชายที่ไม่เลวคนหนึ่ง ขอเพียงแค่เป็นเรื่องของเธอเขาจำเอาไว้ในใจหมด จัดการให้เธออย่างเงียบๆ อย่าจ้องฉันอย่างเส้นผมบังภูเขาเลย ฉันพี่ชายของเธอเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว ฉันรู้ว่าเธอหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอไม่มีทางแย่งสามีของผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นวางความรู้สึกที่มีต่อฉันลง ดูนะโมให้ดีๆ เธอจะพบว่าที่จริงแล้วความรักของเธออยู่ข้างกายเธอมาโดยตลอด”
“สามีอะไร? พี่ไม่ใช่ยังไม่แต่งงานหรอกหรอ?”
ชมพูรีบคัดค้าน
แม้ว่าในใจของเธอจะยอมแพ้โดยสมบูรณ์แบบแล้ว ตอนที่เธอรู้ว่าไอราไม่เอาชีวิตก็จะรักกานต์เธอก็ตัดสินใจยอมแพ้แล้ว แต่ตอนนี้ได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไร
กานต์หัวเราะพร้อมกับเอ่ย “ฉันได้เขียนคำร้องแล้ว คราวหน้ายินดีต้อนรับเธอกับนะโมมาดื่มเหล้ามงคล ตอนนี้เธอเป็นแบบนี้ก็ไปได้รับการฝึกอบรมไม่ได้แล้ว สู้ร่วมงานแต่งของฉันเสร็จค่อยว่ากัน?”
“พี่กานต์ พี่เลวมากเลยนะ!”
ชมพูไม่เคยรู้สึกว่ากานต์น่ารังเกียจขนาดนี้มาก่อน บางทีเมื่อก่อนอาจจะมองเขาแบบใส่ฟิลเตอร์เอง แต่ว่าตอนนี้กลับอยากจะตีคนมากๆแล้วมีหริอเปล่า
กานต์เห็นเธอแบบนี้ก็รู้ว่าชมพูปล่อยวางลงแล้ว
บางคนที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่ความหมกมุ่น ไม่แน่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง บางทีอาจจะเป็นความเคยชินที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก บางทีอาจจะเป็นจิตใต้สำนึกคิดว่าฉันควรชอบเขา ดังนั้นในตอนที่ทุกอย่างได้ปัดหมอกแห่งความหลงใหลออกแล้ว กลับสบายราวกับยกภูเขาออกจากอกเสียด้วยซ้ำ
ชมพูในตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้
แต่ว่าตัวเธอเองก็รู้เช่นเดียวกัน สำหรับกานต์เธอเคยชอบด้วยใจจริง
“ไม่ใช่ซื้อผลไม้มาให้ฉันหรอ? ยังไม่หยิบมาอีก?”
ชมพูทำปากจู๋ไม่พอใจ ท่าทางทะเล้นนั่นก็ทำให้ในใจของกานต์ผ่อนคลายลงไปมากเช่นเดียวกัน
“ยัยเด็กบ้า เมื่อก่อนเธอไม่มีทางทำอย่างนี้กับฉัน”
“พี่ก็พูดแล้ว นั่นเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ในเมื่อพี่อยากเป็นพี่ชายฉัน เป็นธรรมดาที่ฉันจะต้องขับเคลื่อนสิทธิ์ของความเป็นน้องสาวแล้ว ไม่งั้นไม่ได้เสียเปรียบพี่แล้วหรอ?”
คำพูดของชมพูทำให้กานต์ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“อืม ล้างแอปเปิลสักลูกให้เธอกิน?”
“ได้ ฉันยังต้องปอกเปลือกนะ”
“อืม”
กานต์กลับไม่ได้พูดอะไรอีก
เขาล้างแอปเปิลลูกหนึ่งให้ชมพูด้วยความเงียบมาก จากนั้นนั่งถือมีดปอกผลไม้ปอกเปลือกอยู่ตรงนั้น
ชมพูมองดูกานต์ภายใต้แสงอาทิตย์ทำเรื่องที่ปกติธรรมดาเช่นนี้ อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าที่จริงแล้วเช่นนี้ก็ดีมากเหมือนกัน
บางทีเขาอาจจะกลายเป็นคนรักตลอดทั้งชีวิตของเธอไม่ได้ แต่เขาเป็นพี่ชายตลอดทั้งชีวิตของตนเองได้
ความรักสามารถทำให้คนเปลี่ยนไปจนน่ารังเกียจ เธอโชคดีที่สามารถหยุดไว้ได้ทันเวลา บางทีภายในระยะเวลาสั้นๆอาจจะไม่สามารถลบกานต์ออกจากใจได้ แต่หากเป็นพี่ชายตลอดทั้งชีวิตก็ไม่เลวมากเหมือนกัน
อารมณ์ของชมพูเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ภายในชั่วพริบตา
เธอมองดูแอปเปิลที่กานต์ยื่นมาให้ หัวเราะพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “พี่ พี่ว่านะโมชอบฉันจริงๆหรอ?”
กานต์ชะงักเล็กน้อย
ชมพูเปลี่ยนจาก“พี่กานต์”เป็น“พี่” การเปลี่ยนแปลงภายในชั่วพริบตาทำให้เขาไม่ได้เตรียมป้องกันเอาไว้ ยังนึกว่าเห็นกมลแล้วเสียอีก แต่ว่ากานต์ก็กลับเข้าใจแล้วว่าชมพูได้ตัดสินใจวางลงแล้ว
สามารถกลับคืนสู่ความสัมพันธ์เดิมกับน้องสาวที่โตมาด้วยกัน ไม่น่าอึดอัดขนาดนั้น กานต์ก็รู้สึกดีใจ
กานต์หัวเราะเบาๆพร้อมกับเอ่ย “เธอเองไม่มีตาหรอ? นะโมทำมากมายขนาดนั้นเพื่อเธอ เธอตาบอดหรอ?”
ชมพูถูกด่ามาประโยค เริ่มรู้สึกหดหู่ขึ้นมาในทันที
“นี่ฉันไม่ใช่เมื่อก่อนตาบอดจนมีแต่พี่เต็มลูกกะตาหรอ จะเห็นความทุ่มเทของนะโมที่ไหนกัน?”
“เธอนั่นไม่ใช่ตาบอด เธอนั่นคือใจบอด”
คำพูดของกานต์ทำให้ชมพูหดหู่อีกครั้ง
เธอรู้สึกว่าแอปเปิลที่อยู่ในมือไม่หอมแล้ว
“พี่ ตอนนี้ฉันคือผู้ป่วย!”
“เธอไม่พูดผู้ป่วยฉันก็ลืมไปเลย ตั้งแต่เล็กจนโตฉันสอนเธอยังไง? หืม? ถูกคนนอกสะกดจิตง่ายดายขนาดนั้น ชมพู สมองของเธอถูกหมากินไปแล้วหรอ? ความระแวดระวังของเธอล่ะ?”
กานต์พอคิดถึงว่าฝ่ายตรงข้ามเกือบทำให้ชมพูฆ่าตัวตายได้สำเร็จ ในใจของเขาก็โมโหขึ้นมา
ชมพูก็นิ่งเงียบเช่นเดียวกัน
เธอคิดมาโดยตลอดว่าฝีมือของตนเองแกร่งพอ แต่ให้ความสามารถอยู่ที่กองทัพบกก็มีไม่กี่คนที่เป็นคู่ต่อกรของตนเอง ด้วยเหตุนี้เธอยังภาคภูมิใจในตัวเองอีก แต่ว่าเรื่องคราวนี้ก็ราวกับเสียงฝ่ามือที่ดังก้อง ตบหน้าจนเธอไม่มีหน้าไปพบคนแล้ว
“พี่ ช่วงก่อนหน้านี้ฉันไม่มีชีวิตชีวา การนอนหลับก็ไม่ดี ดังนั้น…”
“ฉันไม่ฟังข้ออ้างและเหตุผล ชมพู ตอนนี้ฉันปลดแล้ว ต่อไปไม่สามารถคุ้มกันอยู่ข้างกายเธอได้ตลอดเวลา ต่อไปอีกฉันจะกลายเป็นสามี เป็นคุณพ่อ ภาระบนตัวของฉันจะนับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่มีเวลาแยกร่างไปดูแลเธอได้ หากเธอไม่สามารถแข็งแกร่งด้วยตัวเองได้ล่ะก็ ถึงเวลาจะทำยังไง? สถานการณ์ประเภทเดียวกันกับวันนี้ หากไม่ใช่ฉันกับไอรารีบมา หากไม่ใช่ไอราหยุดยั้งเธอเอาไว้ เธอคิดจะให้ฉันร่วมงานศพของเธอหรอ? เธอเคยคิดถึงน้าพลกับน้าน้ำบ้างหรือเปล่า?”
กานต์รู้ว่าคำพูดเหล่านี้รุนแรงมากสำหรับชมพู แต่เขาไม่มีเวลาแล้วจริงๆ
แม้ว่าขั้นตอนยังไม่เดินทางไปถึงโต๊ะทำงานของธเนศพล แต่ผู้บังคับบัญชาทางตรงของเขาได้เซ็นชื่อแล้ว เขาได้อยู่ในสภาพดำเนินเรื่องปลดประจำการแล้ว
ต่อไปไม่ว่าจะเป็นธเนศพลทางนี้ หรือว่ากองทัพภาค ต่างก็ไม่ใช่ที่ๆกานต์อยากจะเข้าก็เข้าตามอำเภอใจแล้ว นับประสาอะไรกับจุดศูนย์กลางการใช้ชีวิตในภายภาคหน้าของเขาจะอยู่ที่ครอบครัวและการทำงาน ทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่สุดท้ายจะถูกเขาปิดเอาไว้ในความทรงจำ ออกห่างไปในที่สุด
วันเวลาพิเศษที่รุ่งเรืองเหล่านั้นพอผ่านไปแล้วไม่ย้อนคืนกลับมาอีก และเขากับชมพูก็กลายเป็นคนที่อยู่คนละโลกเช่นเดียวกัน ต่อให้เขาอยากจะปกป้องเธอก็ไม่มีกำลังมากพอแล้ว
ชมพูแม้ว่าจะวางความหมกมุ่นที่มีต่อกานต์ลงได้ แต่กลับไม่ได้คิดไกลขนาดนี้ เวลานี้ได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ ชมพูก็รู้สึกลนขึ้นมาในทันที
“พี่ พี่กำลังพูดอะไร? ต่อให้พี่ปลดแล้ว พี่ยังคงเป็นพี่ชายของฉัน พี่ยังคงมาเยี่ยมฉันที่บ้านได้!”
ทว่าชมพูพูดจบก็พบว่าตนเองผิดไปแล้ว
เพราะว่าดวงตาของกานต์นิ่งสงบมาก แต่กลับบอกกับเธออย่างโหดร้ายมากเช่นเดียวกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ชมพูรู้สึกสะอึกที่ลำคอขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอถึงขั้นรู้สึกเกลียดความเย็นชาและการสารภาพของกานต์ แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะรั้งเขายังไงถึงจะดี
จะสามารถรั้งกานต์เอาไว้ได้ไหม?