แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1814 ฉันอยากอยู่เงียบๆ
“แม่ แม่รู้ได้ยังไง? ใครบอกแม่? ใครสร้างข่าวลือ?”
ไอราคิดจะปิดบังในทันที
รมิดาพูดออกมาอย่างมีน้ำโห “สร้างข่าวลือ? งั้นได้ แกไปห้องแล็บกับฉัน ฉันจะตรวจให้แกเอง ดูซิว่าไตของลูกสาวฉันยังมีอยู่หรือเปล่า ถ้ายังอยู่ แม่คนนี้จะขอโทษแกเอง แต่ถ้าไม่มีอยู่ แกคอยดูได้เลยว่าฉันจะจัดการแกยังไง”
พูดจบรมิดาก็ลากไอราเตรียมพาไปห้องแล็บ
“ฉันไม่ไป”
ไอราขัดขืน ใช้มืออีกข้างเกาะกำแพงไว้แน่นให้ตายยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด
พูดเป็นเล่น ไปห้องแล็บเรื่องมันจะไม่แตกหรือไง?
อีกอย่างแม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
ไอราแปลกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อสิงหราชเห็นไอราไม่อยากไป แต่รมิดากลับจะพาไอราไปให้ได้ จึงเดินเข้าไปยืนบังไอราแล้วพูดว่า “คุณหมอรมิดา กรุณาปล่อยคุณไอราด้วยครับ ไม่อย่างนั้นผมคงต้องใช้กำลัง”
“แกกล้าใช้กำลังกับฉันเหรอ?”
รมิดาเห็นผู้ช่วยตรงหน้าแล้วรู้สึกอยากขำ
เธอกำลังสั่งสอนลูกสาว แต่ผู้ช่วยคนนี้กลับเข้ามาขวางแบบนี้มันได้ที่ไหนกัน
สิงหราชกลับพูดออกมาอย่างราบเรียบว่า “คุณไอราคือคนที่คุณกานต์มอบหมายให้ผมตามดูแล ต่อให้คุณเป็นแม่ของเธอหรือเป็นใครก็ตาม ถ้าคุณคิดที่จะทำร้ายคุณไอรา ผมก็มีสิทธิ์ลงมือครับ”
รมิดาชะงักไปเล็กน้อย สายตาที่ใช้มองสิงหราชฉายแววเชือดเฉือน แต่สิงหราชกลับมองมาที่เธออย่างไม่กลัวเลยสักนิด ไม่แสดงท่าทีไม่พอใจหรือสงสัยกับสายตาสำรวจของเธอเลยแม้แต่น้อย
เมื่อแมทธิวเห็นภาพเบื้องหน้า ก็อดที่จะนับถือความสามารถในการยื่นคำขาดของกานต์ไม่ได้
ด้านไอราเมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้าไปจับแขนของสิงหราชแล้วพูดว่า “สิงหราช นี่แม่ฉันเอง เธอก็แค่หยอกฉันเล่น นายไม่ต้องสนใจหรอก”
“ไม่ได้ครับ คุณกานต์บอกเอาไว้ ระหว่างที่เขายังไม่กลับมาห้ามให้คุณถูกทำร้ายหรือได้รับความอึดอัดใจใดๆเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นก็แปลว่าสิงหราชคนนี้ล้มเหลวในหน้าที่”
ไอราเองก็หมดคำจะพูดกับผู้ช่วยดื้อรั้นคนนี้แล้วจริงๆ
รมิดากลับหัวเราะออกมา ทั้งยังปล่อยมือออกจากไอรา มองมาที่สิงหราชแล้วพูดว่า “งั้นแกก็ไปเชิญกานต์มา”
“คุณกานต์กำชับ ไม่ให้ผมอยู่ห่างจากคุณไอราแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าคุณกานต์จะมาเขาจะมาเอง เพราะฉะนั้นรบกวนคุณหมอรมิดากรุณารอก่อนนะครับ ผมขอโทรถามคุณกานต์ก่อน”
สิงหราชพูดจบก็ถอยไป แล้วโทรหากานต์เป็นสิ่งแรก
เมื่อกานต์ได้ยินว่าไอรากับรมิดามีปากเสียงกันในห้องผู้ป่วย จึงไม่ได้สนใจว่ากิจจาจะว่าอะไรต่อ รีบเปิดประตูแล้วตรงไปที่ห้องของไอราทันที
“คุณน้า ใจเย็นก่อนครับ”
เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไอราจึงพุ่งเข้าไปหาเขาทันที
“นายเป็นยังไงบ้าง? ทำไมพ่อฉันถึงตีนาย? ขอฉันดูแผลหน่อย”
ไอราพูดพร้อมกับจะเปิดเสื้อของกานต์ออก
สีหน้าของรมิดาย่ำแย่จนแทบดูไม่ได้ จึงกระแอมไอเพื่อขัดจังหวะ
“ไอรา!”
กานต์เองก็หน้าแดงเล็กน้อย
ยัยนี่นับวันยิ่งจะไม่สนใจคนรอบข้างขึ้นเรื่อยๆ
เขากุมมือของไอราเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ฉันไม่เป็นไร เธอทำตัวดีๆหน่อย”
ไอรามองมาที่รมิดาอย่างไม่พอใจ ขมุบขมิบปากพูดว่า “ถือโอกาสช่วงที่ฉันไม่อยู่รังแกผู้ชายของฉันคิดว่าเก่งมากหรือไง”
“แกว่าไงนะ? พูดอีกทีซิ ฉันได้ยินไม่ชัด”
รมิดาถูกกระตุ้นด้วยคำว่า “ผู้ชาย”ของฉันจนแทบจะหลุดการควบคุม
แม้จะรู้มาตลอดว่าไอราชอบกานต์ แต่ก็คิดว่ามันเป็นแค่ความหลงใหลแบบเด็กๆ คิดว่าถ้ากานต์ไม่สนใจเธอ นานๆไปเธอก็คงหมดรักไปเอง หลังจากนั้นพอเจอผู้ชายที่ชอบเธอจริงๆแล้วค่อยแต่งงานกันก็ยังไม่สาย
แต่ว่าตอนนี้มันคืออะไร?
กานต์ไม่ใช่แค่มองเห็นความทุ่มเทของไอรา แต่ยังอยากตอบแทน แต่ถึงอย่างนั้นรมิดาก็รู้สึกว่าลูกสาวของตัวเองยังเสียเปรียบอยู่ดี
แต่ยัยลูกคนนี้กลับเข้าข้างแต่คนนอกไม่เห็นหัวคนในครอบครัวเลย
ไอราทำตัวสำออยขึ้นมาในทันที
เธอหลบหลังกานต์ จับชายเสื้อของเขาแล้วมองมาทางรมิดาด้วยท่าทางน่าสงสาร “แม่ แม่ถ่อจากที่ไกลๆมาสั่งสอนฉันถึงที่นี่มันไม่ดูทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อยเหรอ?”
“ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่? แล้วตอนที่แกเอาไตให้กานต์ทำไมแกไม่คิดถึงฉันกับพ่อแกบ้าง?”
เมื่อรมิดาพูดคำนี้ออกมา สีหน้าของไอราก็เปลี่ยนไป
“แม่ แม่พูดจาเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย? คนขี้กลัวอย่างฉันจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”
พูดจบเธอก็ไม่ลืมหันไปมองกานต์ หัวใจตุ๊มๆต่อมๆเป็นอย่างมาก
เขาคงไม่รู้หรอกใช่ไหม?
เมื่อกานต์ได้ยินเธอปฏิเสธ ก็ดึงเธอออกมาจากข้างหลัง เมื่อเห็นไอราหลบตา ก็พูดเสียงเบาว่า “ไอรา ฉันรู้แล้ว และฉันก็บอกท่านทั้งสองแล้วด้วย”
“อะไรนะ?”
ไอรานิ่งอึ้ง
รู้แล้ว?
รู้ได้ยังไง?
“นายรู้ตอนไหน?”
ตอนกานต์ตอบตกลงคบกับเธอ เธอดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เคยคิดเลยว่าจู่ๆกานต์จะตกลงคบกับเธอ คิดมาตลอดว่าเพราะน้ำหยดลงบนหินทุกวันหินมันเลยกร่อนและเริ่มหวั่นไหวกับเธอ แต่ดูจากตอนนี้แล้วเหมือนจะไม่ใช่เพราะสิ่งนี้
“แปลว่าที่นายตกลงคบกันฉันเพราะบุญคุญเหรอ?”
ร่างกายของไอราสั่นเล็กน้อย ดวงตาฉ่ำน้ำมองมาที่กานต์อย่างไม่กะพริบ
กานต์รู้ว่าเธอไม่สบายใจ และรับไม่ได้ ดังนั้นจึงจ้องมองมาที่ดวงตาของเธอแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ถ้าคนที่บริจาคไตให้ฉันเป็นคนอื่น ฉันจะให้เงินจำนวนนับไม่ถ้วน ให้โอกาสและความมั่งคั่งที่สมเกียรติแก่คนคนนั้น แต่จะไม่มีทางให้ความรู้สึกและแต่งงานด้วยเด็ดขาด ความรู้สึกของฉันไม่สามารถวัดได้จากไตดวงแค่เดียวหรอกนะ ไอรา ฉันเห็นถึงความทุ่มเทที่เธอมีให้ฉันตั้งแต่ที่ได้รู้เรื่องนี้ ฉันถึงได้ตัดสินใจให้โอกาสเธอ ฉันชอบเธอ บางทีอาจจะเป็นรักแล้วก็ได้ ฉันเพิ่งรู้ตัวเมื่อไม่นานมานี้เอง ขอโทษที่ต้องพูดกับเธอแบบนี้นะ”
เมื่อได้ยินกานต์พูดออกมา ไอรากลับไม่ได้ดีใจเท่าที่ควร
เธอไม่รู้ว่าที่กานต์พูดมาใช่เรื่องจริงหรือเปล่า และไม่รู้ว่าตอนนี้เธอควรเผชิญหน้ากับกานต์ยังไงดี รู้สึกแค่ว่าพอเรื่องที่ตัวเองพยายามปกปิดมันมาตลอดถูกเปิดเผยออกไป ความพยายามทั้งหมดกลับกลายเป็นแค่ตลกฉากหนึ่งเท่านั้น
“กานต์ ฉันไม่เคยคิดที่จะใช้สิ่งนี้มาบีบบังคับให้นายชอบฉัน และฉันไม่เคยคิดว่าการที่ฉันทำอย่างนี้ต้องให้นายมาตอบรับความรู้สึกของฉัน ถ้าหากนายตอบตกลงเพียงเพราะอยากตอบแทน…..”
“ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ชอบเธอจริงๆ”
“แต่ถ้าฉันไม่บริจาคไตให้นาย นายจะยอมตอบรับความรู้สึกของฉันเหรอ? จะยอมตกลงคบกับฉันเร็วแบบนี้หรือเปล่า?”
ไอรารู้ว่าตัวเองกำลังจริงจังเกินเหตุ
สิ่งนี้คือปัญหาที่เธอข้ามมันไปไม่ได้สักที คิดเอาไว้ตลอดว่ารอให้กานต์ยอมรับตัวเธอได้ก่อนถึงจะพูดมันออกมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างจะถูกเปิดโปงต่อหน้ากานต์แบบนี้
ความรักที่เขามีให้เธอเป็นเพราะการบริจาคไตใช่ไหม?
ไอรารู้สึกรับไม่ได้ ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว พลันทำให้เธอรู้สึกกระอักอระอ่วนขึ้นมา
“ขอโทษ ฉันอยากอยู่เงียบๆ ทุกคนออกไปก่อนได้ไหม?”
ความรู้สึกที่ดิ่งลงของไอราทำให้ทุกคนเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีใครอยากไปกระตุ้นอารมณ์ของไอราในตอนนี้ มีแค่กานต์คนเดียวที่ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองมาที่ไอราด้วยสายตาแน่วแน่
สายตานั้นทำให้ไอรากดดัน ทันใดนั้นเธอก็เดินเข้าไป แล้วดึงมือของกานต์ให้ออกไปข้างนอก
“นายออกไปสิ! ออกไป!”