แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่1293 ฉันอยากจะให้เธอมาทำงานด้วย
“เอาล่ะ อย่าเสียใจไป เบื้องบนให้โอกาสแล้ว ก็รอดูบุณพจน์ละกันจะเลือกอย่างไร นายก็ไม่ต้องเสียใจมากไป เรื่องนี้จบลงแล้ว นายอยากเกษียณก็ทำได้ หรือเผลอๆ อาจจะถึงกับได้เกษียณอายุก่อนและได้เงินเดือนก็ได้”
บุริศร์รู้ว่าเกษียณอายุก่อนและได้เงินเดือนหมายความว่าอย่างไร นั่นก็คือปลดประจำการ
คนทั่วไปเกษียณอายุหกสิบปี ทหารพิเศษเกษียณอายุสามสิบห้า แต่ตำแหน่งทหารของเขาอยู่ตรงนั้น แม้ว่าจะเกษียณแล้วยังมีตำแหน่ง ถึงกับมีเงินเดือน เพียงแต่ไม่ร่วมปฏิบัติการทหารเท่านั้น
นี่คือชีวิตที่บุริศร์ต้องการ
เขาพยักหน้า สูบบุหรี่มวนหนึ่งกับคริชณะ หลังจากนั้นก็พูดเบาๆ “ผมจะไปดูนรมนหน่อย จริงสิ ค่ายกลข้างนอกเป็นมายังไงกันแน่ คือกลแปดทิศหยินหยางโบราณจริงๆ หรือครับ”
“พูดถึงเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนั้นที่มากับพวกนายไม่ใช่คนธรรมดา ถึงได้ฝ่าค่ายกลได้ ไม่ธรรมดานะ”
คริชณะสนใจพรวลัย
บุริศร์ได้ฟังแล้วก็รู้ว่าพรวลัยพูดถูกต้อง อดไม่ได้ที่จะสงสัยสถานะของเธอ
“พรวลัยเป็นคนของพิรุณ”
บุริศร์พูดเช่นนั้นทำให้คริชณะอึ้งไป
“พรวลัยงั้นหรือ นามสกุลอะไร”
“ไม่รู้ครับ ผมรู้แค่เธอชื่อพรวลัย เป็นของขวัญบรรลุนิติภาวะที่พิรุณให้บุณพจน์ แต่ดูเหมือนบุณพจน์จะแคร์เธอมาก”
บุริศร์เล่าเรื่องเท่าที่รู้ให้คริชณะฟัง
คริชณะพูดเสียงเบา “ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นทายาทของค่ายกล สายแร่นี้เก่าแก่มาก ฉันบอกแล้วหมู่บ้านดารายนมีประวัติมาหลายร้อยปี ถ้าหากภูเขาลูกนี้ไม่มีค่ายกลปกป้อง บางทีอาจมีคนค้นพบสายแร่นี้ไปตั้งนานแล้ว ไม่มีทางซ่อนได้ดีขนาดนี้ นายไม่รู้ เพื่อทำลายค่ายกลนี้ พวกเราต้องเรียกยอดฝีมือมาเท่าไหร่ ทั้งวาดแผนที่ทั้งหาข้อมูลตั้งหลายเดือน นึกไม่ถึงพรวลัยนั่นจะแก้ได้ง่ายๆ เธอเป็นคนมีฝีมือ ฉันอยากจะให้เธอมาทำงานด้วย”
“เรื่องนี้ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ พรวลัยผู้หญิงคนนี้มีความคิดเป็นของตัวเอง และยังฟังแต่บุณพจน์ ถ้าพี่อยากได้ตัวพรวลัย ก็ต้องให้เกียรติบุณพจน์”
ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ คริชณะก็รู้สึกลำบากใจ
“บุริศร์ นายกำลังทำให้ฉันลำบากใจ”
“ผมแค่พูดความจริง พรวลัยรักบุณพจน์ และในท้องยังมีลูกของบุณพจน์ ผมไม่สนใจพี่ต้องการคนเก่งอย่างไร อย่างน้อยจะบังคับพรวลัยไม่ได้ และจะให้เธอเหนื่อยเกินไปไม่ได้ ผมรับปากบุณพจน์ไว้แล้ว จะดูแลแม่ลูกให้ปลอดภัย”
นี่คือคำสัญญาของบุริศร์ต่อบุณพจน์
คริชณะขมวดคิ้วนิดหนึ่ง แต่ก็พยักหน้า
เห็นว่าคุยกันพอสมควรแล้ว บุริศร์ก็ถามว่านรมนอยู่ที่ไหน แล้วก็เดินจากไป
นรมนสงสัยตลอด อีกฝ่ายจัดหาอาหารดีมากมาให้ แต่ไม่ยอมให้พวกเธอออกจากเต็นท์
พรวลัยกลับนิ่งสงบ แต่ความนิ่งนี้กลับทำให้รู้สึกอึดอัด
นรมนรินน้ำให้เธอ พูดขึ้น “ดื่มน้ำหน่อยเถอะ บนเขาอากาศเย็น ดื่มน้ำอุ่นอบอุ่นร่างกาย”
“ขอบคุณค่ะ”
พรวลัยรับแก้วน้ำไปแต่เพียงแค่อุ่นมือ ไม่ได้ดื่ม สายตาฉายแววกังวล
“คุณชายบุณพจน์เมื่อไหร่จะมาสมทบกับพวกเราคะ”
นรมนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“คงเร็วๆ นี้แหละ”
ตอนที่บุริศร์เดินเข้ามา นรมนก็ประหลาดใจทีเดียว
“บุริศร์?”
“กลัวมั้ย”
บุริศร์ลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ยิ้มพลางพูด “ไม่ใช่คนของพิรุณ แต่เป็นพี่คริชณะ”
“คริชณะหรือคะ พวกเราจับพลัดจับผลูเจอพี่คริชณะหรือคะ”
นรมนเซอไพรส์มาก
บุริศร์พยักหน้า
ช่วงนี้ภรรยาติดตามเขาไปที่ต่างๆ เหนื่อยมากจริงๆ
เมื่อได้ยินว่าเป็นทหารของคริชณะก็ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง พูดเรียบๆ “ฉันอยากกลับไปหาคุณชายบุณพจน์ค่ะ”
บุริศร์มอง พูดเสียงเบา “ผมรับปากบุณพจน์ไว้แล้ว ให้คุณกลับไปไม่ได้ เขาคงมีแผนของเขา คุณกลับไปจะมีแต่ทำลายแผนของเขา อีกอย่างสภาพร่างกายคุณตอนนี้ก็ไม่เหมาะด้วย”
พรวลัยดวงตามีประกายนิดหนึ่ง มืออดลูบท้องตัวเองไม่ได้ สายตาอบอุ่นขึ้น
“ฉันท้องใช่มั้ยคะ”
นี่คือคำถามที่เธอถามตัวเองมาตลอด
นรมนสบตากับบุริศร์ บุริศร์พูดเสียงเบา “ครับ ตอนนี้ครรภ์น่าจะยังไม่ปลอดภัย ความหมายของบุณพจน์ก็คือ หวังว่าคุณจะรักษาเด็กคนนี้ไว้ได้”
ดวงตาพรวลัยอุ่นนิดหนึ่ง
“แต่ถ้าไม่มีเขาแล้ว ฉันอยู่ไปจะมีความหมายอะไรคะ”
“จะไม่มีเขาได้ยังไง บุณพจน์จะต้องมีวิธีช่วยเหลือตัวเองให้ปลอดภัยแน่นอน”
“เขาไม่มีทางค่ะ”
พรวลัยจู่ๆ ก็ตื่นเต้น
“ถ้าหากคุณชายบุณพจน์มีหนทางละก็ ไม่มีทางให้ฉันหนีมาหรอกค่ะ และยิ่งไม่มีทางให้พวกคุณดูแลเด็กคนนี้ เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะฝากผู้หญิงกับลูกให้คนอื่น แต่ไหนแต่ไร เขามั่นใจในชัยชนะ ต่อให้อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากแค่ไหน ยากลำบากแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางทิ้งฉัน เขาบอกว่า เขารอดฉันรอด เขาตายฉันตาย พวกเราสองคนเป็นคนเดียวกัน ถ้าตอนนี้เขาฝากฉันกับพวกคุณ ก็หมายความว่าเขาไม่มีทางหนีแล้ว อยากจะเสี่ยงตายวางเดิมพันทั้งหมด”
พูดถึงตรงนี้ พรวลัยก็สะอื้น
สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนไป
“เขาเป็นลูกชายของพิรุณ พิรุณไม่มีทางปล่อยให้เขาตายหรอกครับ”
“พวกคุณยังไม่เข้าใจพิรุณ! เขาไม่มีทางฆ่าคุณชายบุณพจน์ แต่จะทำให้เขาตายทั้งเป็น! ตายคนเดียวไม่น่ากลัว แต่น่ากลัวตรงที่อยากตายแต่ตายไม่ได้ พวกคุณไม่มีทางเข้าใจ บุริศร์ ฉันติดตามพวกคุณมาก็เพราะคุณชายบุณพจน์แคร์พวกคุณ ฉันต้องปกป้องพวกคุณค่ะ ส่งพวกคุณไปยังที่ปลอดภัย นี่คือความตั้งใจของคุณชายบุณพจน์ แต่ฉันจะไม่ทิ้งเขาไว้คนเดียว”
ดวงตาของพรวลัยเปียกชื้นแล้ว
เธอพูดสะอึกสะอื้น “พวกคุณคิดว่าลำบากแล้วหรือ แต่พวกคุณเข้าใจจริงๆ มั้ยอะไรคือลำบาก บุริศร์ คุณคิดว่าตัวเองเสียใจ น่าสงสาร แม่เลี้ยงของคุณ แม่แท้ๆ ต่างเล่นงานคุณ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เลี้ยงคุณอย่างคนปกติทั่วไปจนโต ถึงกับให้คุณคาบช้อนทองมาเกิด คุณใช้ชีวิตเทียบกับคุณชายบุณพจน์แล้ว นั่นคือสวรรค์ต่างหาก คุณมี อาจารย์ดีสั่งสอนและยังมีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ แต่คุณชายบุณพจน์ล่ะ เขาไม่มีอะไรเลย ตั้งแต่เล็กเขาก็ถูกโยนไว้ที่ศาลบรรพชนหนาวเหน็บ ป้ายบูชาแตกหัก ถูกบอกว่านั่นคือแม่ของเขา คนที่ใช้พิษ ตอนที่คุณกินอยู่หรูหรา คุณชายบุณพจน์ต้องดิ้นรนท่ามกลางงูพิษ เขาไม่มีชีวิตวัยเด็ก ไม่มีช่วงเวลาที่มีความสุข เขามีแต่หนอนพิษ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของพิรุณ แต่พิรุณไม่สนใจเขาจะเป็นจะตาย พูดให้น่าฟังหน่อย คือเข้มงวด พูดไม่น่าฟัง นั่นก็คือเย็นชาไร้หัวใจ! พ่อแบบนี้ พวกคุณคิดว่าเขาจะทำอย่างไรกับคุณชายบุณพจน์คะ”
บุริศร์รู้สึกเจ็บปวด
หลังจากพูดจบแล้ว พรวลัยก็ลุกขึ้นจากถุงนอน จัดการตัวเอง พูดเสียงเบา “ในเมื่อตอนนี้พวกคุณถึงที่ปลอดภัยแล้ว และพบคนที่ตามหาแล้ว อย่างนั้นฉันก็จะกลับก่อน ฉันจะไปหาคุณชายบุณพจน์ ตอนนี้เขาต้องการฉัน”
“เธอจะกลับไปไม่ได้! ถ้าที่เธอพูดเป็นความจริง พิรุณก็จะไม่ปล่อยเธอไปเหมือนกัน! บุณพจน์อยากให้ลูกคนนี้เกิดมามากแค่ไหนรู้มั้ย ถ้าเธอกลับไป นอกจากดูแลตัวเองไม่ได้ แม้แต่เด็กในท้องก็เก็บไว้ไม่ได้ พรวลัย นี่คือความปรารถนาของบุณพจน์ เขาหวังให้เธอคลอดเด็กคนนี้”
นรมนห้ามพรวลัย
เธอเป็นผู้หญิง ย่อมดูสายตามิตรภาพของพรวลัยออก แต่เธอก็รู้ด้วย บุริศร์รับปากบุณพจน์ไว้แล้วจะดูแลพรวลัยและลูกในท้องอย่างดี จะยอมปล่อยเธอไปไม่ได้
สายตาบุริศร์ซับซ้อน พูดเสียงเบา “คุณอยู่ที่นี่ ผมจะไปช่วยเขาเอง”
คำพูดนี้ทำให้พรวลัยประหลาดใจ แล้วส่ายหน้าทันที
“ไม่ได้ค่ะ คุณชายบุณพจน์ไม่อยากให้คุณเกิดเรื่อง ในเมื่อคุณมาถึงที่ปลอดภัยแล้ว จะกลับไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ ไม่มีคุณชายบุณพจน์ อย่าว่าแต่ลูก ต่อให้ตัวฉันเองอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย เขาทนลำบากคนเดียวมาตลอด ครั้งนี้เพื่อช่วยพวกคุณ ต้องบาดเจ็บ ตอนนี้เขายังอ่อนแอ ถ้าหากถูกพิรุณรู้ว่าเขาช่วยพวกคุณ ฉันไม่กล้าคิดจะลงเอยอย่างไร ชีวิตนี้ฉันไม่หวังอะไรอย่างอื่น ฉันอยากจะได้ตายพร้อมกับเขา นั่นคือการได้กลับบ้านที่ดีที่สุด พวกคุณไม่ต้องเกลี้ยกล่อมฉัน ทางของฉันขอเลือกเอง ต่อให้คุณชายบุณพจน์วางแผนไว้แล้ว แต่ถ้าฉันไม่ต้องการ ฉันก็จะไม่ยอมรับ”
ในเวลานี้พรวลัยทำให้บุริศร์กับนรมนมีมุมมองใหม่กับเธอ
“เธอกลับไปคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้ และยังอาจจะกลายเป็นจุดอ่อนของบุณพจน์ เธอไม่กลับไป พิรุณบางทีอาจจะโกรธลงโทษบุณพจน์ แต่ถ้าเธอกลับไป บุณพจน์จะต้องยอมถูกจับเพื่อเธอกับลูก เธออยากให้เป็นอย่างนี้หรือ”
นรมนทำให้พรวลัยอึ้งนิดหนึ่ง ก็ได้ยินนรมนพูดต่อ “ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงบุณพจน์ พวกเราก็เป็นห่วงเขา แต่ถ้าเธอกลับไปแล้วทำให้ทรมานบุณพจน์มากขึ้น ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็น รักใครสักคนไม่ใช่บอกว่าต้องตายด้วยกันถึงจะเป็นรักแท้ บางครั้งการรอคอยก็เป็นรักอย่างหนึ่ง”
พรวลัยมองนรมน ฟังคำพูดของเธอ น้ำตาไหลออกมามากขึ้น
“ฉันแค่กลัว กลัวว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก ฉันกลัวตอนที่เขาต้องการฉันมากที่สุดฉันจะไม่อยู่ข้างเขา ที่จริงพวกคุณยังไม่รู้ คุณชายบุณพจน์กลัวความมืด กลัวการอยู่คนเดียว ตั้งแต่อายุสิบแปด พวกเราก็ไม่เคยแยกจากกัน ตอนนี้ไม่มีฉันอยู่ด้วย ฉันกลัวว่าเขาจะนอนไม่หลับ ฉัน
นรมนเดินเข้าไป กอดพรวลัยแน่น กระซิบ “ไม่เป็นไรนะ พวกเราอดทนหน่อย ฉันเชื่อว่าบุริศร์จะหาวิธีพาบุณพจน์ ออกมาให้ได้ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน เมื่อก่อนบุริศร์ไม่รู้ว่าบุณพจน์เป็นใคร ถึงได้ปล่อยให้เขาต้องเผชิญอะไรมากมาย ตอนนี้พวกเรารู้แล้ว จะไม่มีทางนิ่งดูดาย พรวลัยเชื่อพวกเรานะ เชื่อพวกเราจะพาบุณพจน์มาหาเธอได้อย่างปลอดภัย ได้มั้ย”
พรวลัยทนไม่ไหวแล้วซบกับอกนรมนร้องไห้สะอื้น
“ขอร้องล่ะ จะต้องไม่ทิ้งคุณชายบุณพจน์นะคะ พวกคุณคือความอบอุ่นและแสงสว่างสุดท้ายของเขา”
คำพูดนี้ทำให้ก้นบึ้งหัวใจของบุริศร์เหมือนมีคลื่นซัดสาด
“ผมสัญญา”
บุริศร์เดิมทีอยากอยู่เป็นเพื่อนนรมน แต่เมื่อได้ยินพรวลัยพูดอย่างนี้ เขาก็อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว
ถ้าหากความปลอดภัยของตัวเองต้องใช้ชีวิตของบุณพจน์รับประกัน เช่นนั้นเขาไม่ยินยอม
ในหัวของบุริศร์นึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มของบุณพจน์ นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าการมีพี่ชายอย่างนี้ช่างดีจริงๆ
บุริศร์มองพรวลัยซบกับอกนรมนร้องไห้กระซิก แล้วก็เดินออกไป
บางทีเขาควรทำอะไรบางอย่างแล้ว