แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่1657 ผมจะรอคุณอยู่ที่ปากประตูแห่งความตาย
“ได้! พ่อรับประกันกับลูกเลย!”
ชินทรพูดอย่างจริงจังมาก ทำให้นรมนรู้สึกอึ้งไป
คนในค่ายทหารยังหาพฤกษ์ไม่เจอ บุริศร์กับเจตต์ก็หาพฤกษ์ไม่เจอ คมทิพย์ก็ยังหาพฤกษ์ไม่เจอ แต่ว่าตอนนี้ชินทรบอกว่าเขาสามารถตามหาพฤกษ์เจอ แล้วก็พูดอย่างไม่ลังเลเลย มันทำให้นรมนอดสงสัยไม่ได้
“พ่อ พ่อมีเรื่องอะไรปิดบังหนูกับแม่อยู่รึเปล่า? ”
“เรื่องบางเรื่องที่พ่อไม่พูดเพราะว่าหวังดีกับพวกลูก เมื่อถึงเวลาที่พวกลูกควรจะรู้เมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เอง แค่ฟังพ่อก็พอแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็อย่าออกหน้ามา เข้าใจไหม? ”
คำสั่งของชินทรทำให้นรมนไม่สามารถรับปากได้
มีคนมากมายรอบตัวที่เธอต้องรับผิดชอบ เธอก็เลยไม่สามารถรับปากได้ แต่ว่าพอเห็นสายตาที่รอคอยของชินทร เธอก็เลยพยักหน้าช้าๆ
สองพ่อลูกพูดคุยกันเยอะแยะ สุดท้ายนรมนก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัว
มองดูท่าทางหลับปุ๋ยของนรมน แววตาของชินทรก็ดูไม่อยากจากไป
“เด็กบื้อ เรื่องหลายอย่างบนโลกใบนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่ลูกคิดนะ การที่มีบุริศร์คอยปกป้องอยู่ข้างๆ และมีพวกเด็กๆ คอยอยู่ข้างลูก แค่นี้พ่อก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว พ่อแค่หวังว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของลูกจะดีขึ้นเรื่อยๆ ราบรื่นทุกอย่าง พ่อที่อยู่บนท้องฟ้าก็จะคอยคุ้มครองลูกเหมือนกัน
พอชินทรพูดจบ ก็เอาเสื้อคลุมของเขาคลุมให้กับนรมน แล้วก็โน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของเธอ หลังจากนั้นก็หันหลังเดินออกมา
ฟ้าข้างนอกมืดมาก มันมืดจนมองไม่เห็นนิ้วของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ว่าแววตาของชินทรกลับลุกเป็นไฟสีแดง
แสงไฟในตาของเขาถ้ามีคนเห็นเข้าคงจะเข้ารู้สึกหวาดกลัวมาก เหมือนกับนภดลตอนเป็นบ้าทุกประการ!
พอเกิดสายตาแบบนี้ขึ้น ก็มีเสียงหอนดังขึ้นในความมืด เงาดำบางส่วนกระโดดออกมาจากความมืดอย่างรวดเร็ว ยืนอยู่ตรงหน้าของชินทร
ถ้าเกิดว่ามองอย่างละเอียดล่ะก็ บนร่างกายของคนพวกนั้นมีร่องรอยของสัตว์หลงเหลืออยู่
พวกเขาคือคนกลายพันธุ์!
ชินทรพูดอย่างเย็นชาว่า “ให้คนของพวกเราเร่งเดินทัพไป และต้องกลับมาที่เมืองหลวงก่อนรุ่งสาง!”
“ครับ!”
เงาดำพวกนั้นก็แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของชินทรกลับมาเป็นสีดำเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ขับรถกลับไปที่ที่พักด้วยความรวดเร็ว
คิมยังคงหลับอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าฝันดีอะไร ตอนนี้เธอกำลังยิ้ม
บางทีอาจจะกำลังคิดอยู่ว่าหลังจากที่ชินทรปลดประจำการแล้วจะไปเที่ยวที่ไหนดี หรือว่าความต้องการในหลายปีที่ผ่านมาในที่สุดมันก็กลายเป็นคนความจริงแล้ว แม้แต่ในความฝันมันก็ยังสวยงาม
ชินทรมองดูท่าทางที่มีความสุขของคิม แล้วแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความละอายใจ
“คิม ขอโทษนะ ที่ไม่สามารถเดินต่อไปกับคุณได้ ต่อไปวันเวลาที่ไม่มีผม คุณต้องมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งนะ ผมรู้ว่าผู้หญิงอย่างคุณ ตลอดชีวิตนี้ต้องการเพียงแค่ความรักเท่านั้น นอกจากความรักแล้ว พวกเรายังมีลูก ยังมีพ่อแม่ เราจะทำตามอำเภอใจไม่ได้หรอกใช่ไหม? ”
ชินทรนั่งลงข้างเธอ แล้วก็กุมมือของเธอเบาๆ พร้อมกับกระซิบว่า “ที่จริงผมมีความลับหนึ่งที่ไม่เคยบอกคุณเลย ตอนนี้คุณใกล้จะได้รู้ความลับนั้นแล้วนะ ให้ผมได้ซ่อนมันอีกสักสองสามวันแล้วกัน หนี้ที่ติดค้างคุณมาตลอดชีวิตนี้ ผมขอชดใช้มันในชาติหน้าแล้วกันนะ ผมก็อยากจะอยู่กับคุณจนแก่เฒ่า แล้วก็อยากท่องโลกไปกับคุณเหมือนกัน เป็นผู้ติดตาม คนรัก และคนปกป้องคุณ แต่ว่าคิม ผมเองก็เป็นพ่อคนหนึ่ง ลูกของนรมนหายตัวไป แต่ว่าเธอกลับไม่บอกพวกเรา คุณคิดว่าพวกเราเป็นพ่อแม่ที่เหมาะสมรึเปล่า? พวกเราพลาดการเจริญเติบโตของนรมน แยกกับลูกไปตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนี้อยากจะชดใช้แต่ก็หาโอกาสไม่ได้แล้ว แต่ในตอนนี้มันมีโอกาสนั้นแล้ว ผมก็จะไม่มีวันทิ้งมัน”
“ผมดิ้นรนต่อสู้เพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิต แต่ว่ากำลังจะได้ปลดประจำการแล้ว แต่ก็พึ่งจะมารู้ตัวว่าแม้แต่ลูกและหลานของตัวเองผมยังปกป้องไม่ได้เลย คนเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งสูง ชอบตัดสินทุกสิ่งอย่าง บางทีก็ทำตามอำเภอใจเกินไป แถมยังเอาเลือดของธนาคารแนวหน้าอย่างพวกเรามาโอ้อวดกำลังของตัวเอง แม้กระทั่งลักพาตัวคนในครอบครัวของพวกเราเพราะความเห็นแก่ตัวของตนเอง มีคนแบบนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงก็ถือว่าเป็นการไม่รับผิดชอบต่อประชาชน และก็เป็นการเสื่อมเสียเกียรติของลูกเราด้วย ผมจะละเลยมันไม่ได้ แล้วก็ไม่มีทางจะทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรไม่ได้ ดังนั้นคิม ให้อภัยผมด้วยนะ ผมรักคุณ แต่ว่าผมก็รักลูกเหมือนกัน ตอนนี้สุขภาพของคุณไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นคุณต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ แล้วผมจะรอคุณอยู่ที่ปากประตูแห่งความตาย”
ดวงตาของชินทรเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น
เขาเขียนจดหมายให้กับคิม แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองจะไปทำอะไร แค่บอกว่าได้รับคำสั่งมา ว่าต้องทำภารกิจให้เสร็จ ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ ให้เธอรอเขากลับมา
ตอนที่เขียนถึงตรงนี้นั้น มือของชินทรก็เริ่มสั่น
เขารู้ดีว่าครั้งนี้ตัวเองอาจจะกลับมาไม่ได้แล้ว แต่ว่าเขาก็อยากฝากข้อความไว้ให้คิม ไม่อย่างนั้นยัยผู้หญิงซื่อบื้อคนนี้ต้องตามเขาไปอย่างแน่นอน
หลังจากที่ชินทรจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ก้มลงจูบคิม
คิมที่อยู่ในความฝันสัมผัสได้ถึงลมหายใจของชินทร มือทั้งสองข้างของเธอคล้องคอและสู้ต่อเขาโดยที่ไม่รู้ตัว
ความเร่าร้อนนี้ทำให้ชินทรไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะดึงคิมออก เขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง พยายามจดจำเธอเอาไว้ในใจ แล้วก็หันหลังเดินออกมายังเด็ดเดี่ยว
พอมาถึงด้านนอกของป่ามืด ก็มีเงาดำ 10 กว่าคนยืนรอรับคำสั่งจากชินทร
ชินทรมองพวกเขา แล้วก็สั่งอย่างเย็นชาว่า “แบ่ง 3 คนให้ไปตามหาคมทิพย์ที่อยู่ที่สนามรบในต่างประเทศ ช่วยเธอหาพฤกษ์ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน หรือต่อให้ต้องตายก็ต้องปกป้องความปลอดภัยของคมทิพย์และพฤกษ์ให้ได้!”
“ครับ!”
ทันใดนั้นก็มีคน 3 คนออกจากแถว ทำตามคำสั่งของชินทรและมุ่งตรงไปที่สนามรบที่ต่างประเทศ
ความเร็วของพวกเขาเหมือนกับสายฟ้า เหลือเพียงแค่ภาพติดตาเท่านั้น
คนอื่นๆ ก็ไม่ได้ดูแปลกใจกับสิ่งนี้
ชินทรมองไปที่คนอื่นๆ และพูดว่า “คนที่เหลืออยู่ตามฉันไปที่เมืองหลวง ช่วยหลานชายฉันกลับมา มีโอกาสมากว่าครั้งนี้จะไปและไม่ได้กลับ ใครที่อยากจะอยู่ที่นี่ฉันก็จะไม่ห้าม หลังจากผ่านไป 3 วันจะมีคนมาแทนที่ตำแหน่งของฉัน และเขาจะดูแลพวกนายอย่างดี ตราบใดที่พวกนายไม่มีพิรุธ ก็จะไม่มีใครรู้ว่าพวกนายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ พวกนายสามารถอยู่ที่นี่แต่งงานและมีลูกได้ สามารถยื่นปลดประจำการได้ แต่ว่าจำเอาไว้นะ ถ้าเกิดว่าใครกล้าทำอะไรประเทศชาติและประชาชน ต่อให้ฉันตายไปแล้ว ผู้ช่วยของฉันในเงามืดก็จะตามฆ่าพวกนายอย่างสุดหล้าฟ้าเขียว !”
คำพูดนี้มีเจตนาฆ่าอย่างแน่วแน่
เงาดำ 10 เงาก้าวขึ้นไปข้างหน้า และตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน “เราจะตามท่านชินทรไปจนตายครับ!”
ชินทรน้ำตาคลอเบ้า
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้รับความเจ็บปวดแบบไหนในฐานทัพตลอดหลายปีที่ผ่านมาก่อนที่พวกเขาจะรอด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพื่อซ่อนความลับของพวกเขา
เพื่อให้ไม่เกิดอันตรายกับสมาชิกในครอบครัว พวกเขาต้องทำเครื่องหมายว่าเสียชีวิตแล้วในทะเบียนบ้านของตัวเอง
พวกเขาเป็นคน แต่ก็ไม่ใช่คน เพราะเขาไม่มีตัวตน แต่ว่ามีอาชีพที่ประเสริฐที่สุด
น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันไร้ทางเลือกและน่าปวดใจมากแค่ไหน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชินทรปรากฏตัวขึ้น และพาพวกเขาออกจากฐานทัพ พวกเขาก็จะไม่มีทางเป็นคนธรรมดาได้เลย
ตอนนี้ไม่ว่าชินทรต้องการจะทำอะไร เพราะเขาจะยอมรับเขาเป็นนายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น! ต่อให้ต้องตกอยู่ในอันตรายที่ใหญ่หลวง หรือร่างกายต้องแหลกสลายเป็นชิ้นๆ ก็ไม่เป็นไร!