แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1010
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1010
ผู้ชมการต่อสู้แอบเสียดาย “เฮ้อ ยังไงกำลังของคน ก็ยากจะต้านทานพลานุภาพฟ้าดิน!”
“ใช่ เฉินไต้ซือใกล้ฝืนไม่ไหวแล้ว”
“ค่ายกลหมื่นดวงดาวเก่งกาจตามคาดจริงๆ เกรงว่าถึงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ก็คงต้านทานไม่ได้!”
“แม้พละกำลังของเฉินไต้ซือยังไม่ถึงแดนเทพ แต่ความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าแดนเทพเลย คิดไม่ถึงว่าจะเสียท่าให้กับค่ายกลหมื่นดวงดาว! น่าเสียดาย น่าเสียดาย!”
เฉินโม่มองเสาแสงสีเงินขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ขมวดคิ้วเบาๆ “ไม่เสียแรงที่ค่ายกลหมื่นดวงดาว เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญสมัยโบราณหลงเหลือไว้ แม้ไม่รู้ว่าผ่านการกัดเซาะเป็นเวลานานเท่าไร แต่พลานุภาพยังคงแข็งแกร่งมาก”
เพียงพริบตา กระบี่สับสวรรค์โดนดันจนห่างจากหัวเฉินโม่ไม่ถึงสิบเมตร
เหมือนเฉินโม่ไม่มีแรงต้านทานค่ายกลหมื่นดวงดาวแล้ว ตัดสินใจไม่ต้านทานแล้ว ปล่อยให้เสาแสงสีเงินนั่นร่วงลงมา
ครืนน!
เสียงดังสนั่น ตำแหน่งที่เฉินโม่อยู่ มีแสงจ้าระเบิดออกมา สว่างจนทุกคนไม่กล้าลืมตา
แสงนั้นคงอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนที่จะหายไป ทุกคนรีบมอง เมฆรูปเห็ดลอยขึ้นจากตำแหน่งที่เฉินโม่อยู่ ปกคลุมแทบจะครึ่งฟ้า
เมื่อฝุ่นควันหายไป ตำแหน่งที่เฉินโม่เคยอยู่ กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่รัศมีประมาณหกเมตรกว่า
ส่วนตัวของเฉินโม่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทุกคนอดเดินมาด้านหน้าไม่ได้ อยากดูสภาพภายในหลุมให้ชัดเจน
คนตระกูลไช่ก็ลุกขึ้นทันที เดินมาด้านหน้า อยากดูว่าเฉินโม่ตายหรือยัง
“หลุมใหญ่ขนาดนี้ เฉินไต้ซือคงไม่รอดแล้วมั้ง” มีนักบู๊ถามอย่างไม่แน่ใจ
“ไม่แน่ ก่อนที่ยังไม่เห็นศพด้วยตาตัวเอง อย่าตัดสินอะไรมั่วซั่ว”
คนจำนวนมากมาข้างหน้าหลุมขนาดใหญ่ ยื่นหน้าไปมอง แต่หลุมนั่นลึกมาก ด้านในมีฝุ่นเต็มไปหมดมองไม่เห็นอะไรเลย
นักพรตยู่หลงยิ้มเยาะ “ไม่ต้องดูแล้ว ภายใต้ค่ายกลหมื่นดวงดาว เขาต้องตายอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำยืนยันของนักพรตยู่หลง บวกกับเวลานานขนาดนี้ ยังไม่เห็นเฉินโม่ปรากฏตัวออกมา ทุกคนอดเชื่อไม่ได้ว่าเฉินโม่ตายแล้วจริงๆ
ไช่เหวินหย่าสีหน้าดีใจ กัดฟันพูดว่า “ไอ้คนสมควรตาย ในที่สุดก็ตายได้สักที!”
“ใช่ ในที่สุดก็ตายสักที!” คนระดับสูงของตระกูลไช่ถอนหายใจ ก้อนหินใหญ่ที่กดทับอยู่ในใจร่วงลงสู่พื้นสักที
ไช่อิ้งเวินกอดโล่งใจไม่ได้ เฉินโม่ตายสักที ไม่งั้นตระกูลไช่ของเขาคงต้องตาย
“ดูเหมือนครั้งนี้เฉินไต้ซือตายแล้วจริงๆ!” เหมือนทุกคนมั่นใจ พากันแยกย้ายช้าๆ
นักพรตยู่หลงเหาะมาข้างไช่อิ้งเวิน ท่าทางไม่เป็นมิตรมาก “ผู้นำตระกูลไช่ เงื่อนไขที่เราตกลงกันไว้ ต้องเปลี่ยนเล็กน้อย ครั้งนี้ฉันเกือบตาย”
ไช่อิ้งเวินสีหน้าเปลี่ยนไป ถามออกมาว่า “นักพรตยู่หลงหมายความว่ายังไงครับ”
“สามเท่าของราคาที่เราเจรจาไว้ล่วงหน้า!” นักพรตยู่หลงใบหน้าแน่วแน่
“อะไรนะ!” คนตระกูลไช่มีสีหน้าโมโห แต่ทำได้แค่โมโหไม่กล้าพูดออกมา
ไช่อิ้งเวินก็มีความโกรธฉายขึ้นมาบนใบหน้า ค่าตอบแทนสามเท่า ยังมากกว่าที่เฉินโม่ต้องการในตอนแรกเสียอีก
ถ้ารู้ตั้งนานว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นคงตัดสินใจรับปากเงื่อนไขของเฉินโม่ไปแล้ว ไม่แน่อาจทำความรู้จักกับเฉินโม่ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องมาทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้
“นักพรตยู่หลง ราคาสามเท่าดูเหมือนจะสูงไปหน่อยไหมครับ” แม้ไช่อิ้งเวินโมโห แต่ไม่กล้าแสดงออกชัดเจนจนเกินไป พยายามกดเสียงต่ำใช้น้ำเสียงเจรจากับนักพรตยู่หลง
นักพรตยู่หลงยิ้มเยาะ “ข่าวที่พวกนายให้มาตอนนั้น เขาเป็นแค่ปรมาจารย์ธรรมดา แต่ตอนนี้ฉันเกือบตายคามือเขา ถ้าไม่เห็นแก่ความรู้สึกในอดีต ฉันจะเก็บนายสิบเท่า!”
ทุกคนในตระกูลไช่ ไม่มีใครกล้าพูดสักคน พละกำลังของเฉินโม่เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อสายตาของพวกเขา รับมือกับผู้แข็งแกร่งแบบนั้น ถึงให้ตระกูลไช่ทุ่มทรัพย์สินทั้งหมด ก็คงไม่มีใครกล้ารับ
ดังนั้นพูดกันอย่างจริงจัง อันที่จริงคำขอของนักพรตยู่หลงไม่เกินไปเลย