แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1011
แต่ราคานี้สำหรับตระกูลไช่ ดูเหมือนจะได้ไม่คุ้มเสีย
ตอนนี้คนตระกูลไช่เสียใจและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำในตอนแรก
แต่เมื่อกี้เห็นความแข็งแกร่งของนักพรตยู่หลงแล้ว อย่าว่าแต่เพิ่มค่าตอบแทนเป็นสามเท่าเลย ถึงต้องการทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลไช่ คนตระกูลไช่ก็ไม่กล้าต่อต้านสักนิด
ไช่อิ้งเวินหลับตาลงเหมือนยอมรับชะตากรรม ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงลืมตาขึ้นช้าๆ “ได้ สามเท่าก็สามเท่า!”
พวกนักบู๊ที่มุงดูอยู่รอบๆ แม้ไม่ค่อยรู้ว่านักพรตยู่หลงทำข้อตกลงอะไรกับตระกูลไช่ แต่เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็พอรู้อะไรในใจแล้ว
คนจำนวนมากแอบหัวเราะเยาะ คนตระกูลไช่กำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยน
“ไปกันเถอะ รอบนี้ไม่ได้มาเสียเปล่าแล้ว ได้เห็นการต่อสู้ไร้เทียมทานเช่นนี้!”
“ใช่! แต่น่าเสียดายเฉินไต้ซือ จากพรสวรรค์ของเขา ถ้าให้เวลาอีกสักระยะ ต้องทะลุสู่แดนเทพได้แน่นอน!”
มีนักบู๊จำนวนแอบรู้สึกเสียดายแทนเฉินโม่
ขณะที่ทุกคนเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ พื้นดินด้านล่างเท้าสั่นไปมาครู่หนึ่ง
“หืม? เกิดอะไรขึ้น!” ทุกคนอึ้งไป หันไปทางหลุมนั้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
สาเหตุของการสั่นสะเทือน มาจากในหลุมใหญ่หลุมนั้น
“อย่าบอกนะว่า……”
ความคิดเหลือเชื่อผุดขึ้นในหัวทุกคน
เงาหนึ่ง เหยียบอากาศเดินออกมาทีละก้าว เหมือนมีบันไดที่มองไม่เห็นอยู่ใต้เท้าเขา
เสื้อผ้าของเฉินโม่ขาดเล็กน้อย ฝุ่นเต็มตัวไปหมด มองโดยรวมแล้วน่าเวทนาเล็กน้อย
“เฉิน……เฉินไต้ซือ!”
ทุกคนตกใจจนลูกตาแทบจะหล่นลงมาบนพื้น
“เขา เขายังไม่ตาย!” ไช่เหวินหย่าก็ไม่มีเวลาสนใจอะไรมาก พูดออกมาด้วยความตกใจ
เฉินโม่กวาดตามองเธอแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ผมยังไม่เอาของตัวเองคืน จะตายได้ยังไงล่ะ”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถึงขนาดนี้ยังไม่ตายอีกเหรอ เขายังใช่คนไหม!” คนตระกูลไช่ตกใจจนเกือบเสียสติ แววตาที่มองเฉินโม่เหมือนเห็นผี
สีหน้าไช่อิ้งเวินซีดเหมือนตาย ขนาดค่ายกลหมื่นดวงดาวยังฆ่าเฉินโม่ไม่ได้ นักพรตยู่หลงต้องแพ้แน่นอน
หลังจากนั้น ก็คือตอนที่ตระกูลไช่ของพวกเขา ทำตามสิ่งที่เดิมพันไว้
นักพรตยู่หลงมองเฉินโม่ ด้วยใบหน้าตกตะลึงเช่นกัน “นาย นาย นี่เป็นไปได้ยังไง!”
นักพรตยู่หลงพูดจาสะเปะสะปะไปหมด
“ภายใต้ค่ายกลหมื่นดวงดาว ทำไมยังมีคนรอดอีก!” จนถึงตอนนี้นักพรตยู่หลง ยังดูเหมือนไม่เชื่อ
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบว่า “ผมยืนปกติอยู่ตรงนี้ คือการยืนยันที่ดีที่สุดแล้ว!”
จู่ๆ นักพรตยู่หลงหัวเราะอย่างขมขื่น “ใช่ นายยังยืนอยู่ตรงนี้ ก็บอกทุกอย่างแล้ว!”
“นายคือคนแรกที่รอดจากค่ายกลหมื่นดวงดาว! พูดตามตรง เฉินไต้ซือ นายแข็งแกร่งมาก!” นักพรตยู่หลงใบหน้าปลง ขนาดค่ายกลหมื่นดวงดาวยังทำอะไรเฉินโม่ไม่ได้ การต่อสู้ครั้งนี้เขาแพ้แล้ว
แต่นักพรตยู่หลงไม่ยอม เขาเชื่อพลานุภาพของค่ายกลหมื่นดวงดาว ถึงเฉินโม่รอดมาได้ ตอนนี้พลังแข็งแกร่งต้องไม่เหลือแล้วแน่นอน
นักพรตยู่หลงสีหน้าเปลี่ยนไป มองเฉินโม่แล้วพูดยิ้มเยาะ “เฉินไต้ซือ แม้นายยังมีชีวิตอยู่ แต่ฉันสงสัยมากว่าตอนนี้นายยังมีกำลังเหลืออยู่เท่าไร”
ทุกคนอึ้งไป ใช่ แม้เฉินไต้ซือรอดมาได้ เกรงว่าพลังในตัวคงหมดไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ไม่ว่านักบู๊คนไหนคงสามารถฆ่าเขาได้!
แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง เพราะถ้าเฉินโม่ยังมีพลังเหลืออยู่ คนที่ตายก็คือตัวเอง
เฉินโม่รู้ว่านักพรตยู่หลงกำลังคิดอะไร ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “คุณมาลองดูได้!”
นักพรตยู่หลงแผดเสียงพูดเย็นชา “หึ นายคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ ไอ้หนุ่ม นายขู่ฉันไม่ได้หรอก!”
พูดจบ นักพรตยู่หลงกระตุ้นพลังที่เหลือ จากนั้นแผดเสียงดังออกมา “โซ่ผนึกมังกร!”