แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1074
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1074
“แต่นายคงไม่รู้ว่าตระกูลเย่กับตระกูลอานเป็นพันธมิตรกันแล้ว ดังนั้นนายล่วงเกินตระกูลอาน ก็เท่ากับล่วงเกินตระกูลเย่”
เฉินโม่พยักหน้า “เป็นแบบนี้นี่เอง”
อาเปียวยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “ในเมื่อนายรู้จักตระกูลเย่ งั้นฉันคงไม่ต้องแนะนำตระกูลอานให้นายรู้จักใช่ไหม”
“ไม่ต้องแล้ว” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ
อาเปียวดีดนิ้ว “รู้งานมาก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่อ้อมค้อมกับนายแล้ว ดาวมหาวิทยาลัยเจี่ยงเป็นผู้หญิงของคุณชายอาน ต่อไปนายอย่าโผล่หน้ามาหาเธออีก เข้าใจไหม” ประโยคสุดท้าย อาเปียวจงใจลากเสียงยาว
เฉินโม่พยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
อาเปียวดีดนิ้วอีกครั้ง “ถือว่านายฉลาด ในเมื่อเข้าใจแล้วก็ไปซะ เราจะได้ไม่ต้องลงมือ”
เฉินโม่ไม่ขยับไปไหน มองสองสามคนนี้ แล้วถามอย่างราบเรียบว่า “พูดจบหรือยัง”
“จบแล้ว” อาเปียวรู้สึกแปลกเล็กน้อย ตอบกลับโดยไม่รู้ตัว
“งั้นถึงตาฉันพูดบ้าง!” เฉินโม่ยิ้มบางๆ ออกมา ดูไร้พิษภัย
อาเปียวอึ้งไป “นายจะพูดอะไร”
จู่ๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเฉินโม่หายไป กวาดตามองอาเปียวและคนอื่น พูดด้วยเสียงเฉยเมยว่า “กลับไปบอกคุณชายอานอะไรนั่น ต่อไปอย่ามารบกวนหยาวหยาวอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
อาเปียวอึ้งไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นหัวเราะออกมาทันที ชายหนุ่มสองสามคนด้านหลังเขาก็ยิ้มเย็นชา
“ไอ้หนุ่ม นายเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้ในมหาวิทยาลัยซีเป่ย!”
“ไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งคุณชายอาน ดูเหมือนนายพูดด้วยดีๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ!”
อาเปียวหุบยิ้ม มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าอึมครึม ดูท่าทางจะลงมือแล้ว
เฉินโม่พูดสิ่งที่จะพูดจบแล้ว จากนั้นแผดเสียงเย็นชาออกมา “ไสหัวไปซะ!”
“ไอ้หนุ่ม ถ้านายกล้า ถ้านายกล้าก็พูดอีกรอบสิ!” อาเปียวและคนอื่นสีหน้าโมโห พวกเขาวางอำนาจบาตรใหญ่ในมหาวิทยาลัยซีเป่ย ไม่เคยมีใครกล้าพูดคำนี้กับพวกเขามาก่อน
“ไสหัวไปซะ!” เฉินโม่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพูดด้วยเสียงเย็นชาอีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่กลัวว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัย เขาไม่มีทางพูดไร้สาระกับคนพวกนี้หรอก ตบให้ตายทีเดียวไปเลย
“นายอยากโดนใช่ไหม!” อาเปียวและคนอื่นทนไม่ไหวแล้ว เดินเข้ามาล้อมเฉินโม่ทันที
“พวกนายจะทำอะไร” เจี่ยงหยาวแผดเสียงอย่างเย็นชา เธอไม่ได้เป็นห่วงเฉินโม่ แต่เธอกังวลว่าเฉินโม่จะทำคนตายเพราะกำลังโกรธ นั่นจะเป็นเรื่อง
อาเปียวและคนอื่นรู้ซะที่ไหนว่าผู้ชายหน้าตาธรรมดาตรงหน้า แท้จริงคือบุคคลเก่งกาจที่มีพละกำลังสูงมาก ยังเข้าใจว่าเฉินโม่เป็นคนนอกที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
“พี่สะใภ้ เมื่อกี้คุณก็ได้ยินแล้ว ไอ้หนุ่มนี่พูดอวดดี ถ้าเราไม่สั่งสอนเขาสักหน่อย ต่อไปเราจะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะ!” อาเปียวพูดด้วยใบหน้าโมโห
เฉินโม่มองเจี่ยงหยาวแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันรู้ว่าเธอกำลังกังวลอะไร แต่เธอไม่ต้องกังวลเลย ฉันรู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง”
เจี่ยงหยาวพยักหน้า แล้วพูดกำชับว่า “งั้นระวังตัวด้วย”
เฉินโม่หันมามองพวกอาเปียว ใบหน้านิ่ง ไม่เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตาสักนิด “พวกนายเข้ามาพร้อมกันให้หมดเลย!”
อาเปียวและคนอื่นโมโหมาก วัยรุ่นหนึ่งในนั้นพูดอย่างโมโหว่า “ไอ้หมอนี่อวดดีจริงๆ ให้ฉันเข้าไปลองดูก่อน!”
“ได้!” อาเปียวตอบตกลงอย่างดีใจ เขาดูเหมือนบุ่มบ่าม แต่อันที่จริงรอบคอบเป็นอย่างมาก เขากังวลว่าเฉินโม่อวดดีขนาดนี้ ไม่แน่อาจมีที่พึ่งอะไรก็ได้
หลินเหม่ยหลิงที่อยู่ข้างเจี่ยงหยาว พูดด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “ไอ้หมอนี่ ไม่รู้ที่เป็นที่ตายจริงๆ อีกฝ่ายมีหกคน เขาแค่คนเดียว คิดไม่ถึงว่าจะฝืนอีก เขาคิดว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือยุทธภพ สามารถจัดการหกคนด้วยตัวคนเดียวเหรอ”
“หยาวหยาว ฉันอยากพูดกับเธอสักหน่อย แฟนเธอคนนี้ธรรมดามาก!” สีหน้าของหลินเหม่ยหลิงดูไม่ได้ดั่งใจ