แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1094
พวกคนที่มามุงดูก็ตกใจเล็กน้อยเหมือนกัน
“คุณหนูตระกูลจั่วมาแล้ว!”
“ตระกูลจั่วเป็นตระกูลที่สูสีกับตระกูลอานเชียวนะ!”
“ได้ยินว่าการดูแลความปลอดภัยของงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ครั้งนี้ ตระกูลจั่วเป็นผู้รับผิดชอบ ดูเหมือนน่าจะเป็นคุณหนูตระกูลจั่วคนนี้!”
คนที่มาคือจั่วเยว่เอ๋อร์ คุณหนูตระกูลจั่วที่รับผิดชอบงานด้านความปลอดภัย ของงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่อย่างแท้จริง
เมื่อตำรวจคนนั้นเห็นจั่วเยว่เอ๋อร์มาถึง รีบเก็บปืนพกทันที จากนั้นก้มหน้าพูดว่า “คุณจั่ว!”
“เกิดอะไรขึ้น” จั่วเยว่เอ๋อร์กวาดตามองอานหลิงหัวแวบหนึ่ง จากนั้นมองตำรวจคนนั้น แล้วถามด้วยเสียงเย็นชา
“มีคนก่อเรื่องครับ อีกทั้งยังจะใช้กำลังต่อต้านกฎหมายด้วย ผมกำลังจะคุมตัวเขากลับไปครับ!”
“ใครกล้าขนาดนี้!” จั่วเยว่เอ๋อร์พูดเสียงสูงอย่างเย็นชา
“เด็กคนนั้นครับ!” ตำรวจคนนั้นชี้เฉินโม่แล้วเอ่ยขึ้น
สายตาของจั่วเยว่เอ๋อร์หันไปทางเฉินโม่ วินาทีที่เห็นเฉินโม่ จู่ๆ เธอก็อึ้งไป
มองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าจั่วเยว่เอ๋อร์ยิ่งตะลึงขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจั่วเยว่เอ๋อร์เอามือถือออกมา เปิดอัลบั้มรูปในมือถือ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นภาพของเฉินโม่
“คุณจริงๆ ด้วย!” จั่วเยว่เอ๋อร์มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เฉินโม่รู้สึกประหลาดเล็กน้อย “เธอรู้จักฉันเหรอ”
จั่วเยว่เอ๋อร์ไม่ตอบ แต่จู่ๆ เธอเดินเข้ามาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นตรงหน้าเฉินโม่ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน จากนั้นพูดด้วยใบหน้านอบน้อมว่า “จั่วเยว่เอ๋อร์ตระกูลจั่ว คารวะผู้มีพระคุณ!”
ผู้มีพระคุณ!
นี่มันอะไรกัน
ทุกคนช็อกไปหมด มองจั่วเยว่เอ๋อร์อย่างไม่เข้าใจ ขนาดเฉินโม่เองก็ยังอึ้งเล็กน้อย ในความทรงจำของเขา ไม่เคยเจอจั่วเยว่เอ๋อร์มาก่อน
“ลุกขึ้นเถอะ!” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ พลังที่มองไม่เห็นดึงจั่วเยว่เอ๋อร์ขึ้นมา
จั่วเยว่เอ๋อร์สัมผัสได้ถึงพลังนั้น เผยแววตาเลื่อมใสออกมา หลังจากลุกขึ้นยืน เธอคารวะเฉินโม่แล้วพูดว่า “ผู้มีพระคุณอาจไม่รู้จักฉัน แต่ผู้มีพระคุณยังจำตระกูลกงซุนแห่งมณฑลซีไห่ได้ไหม!”
แน่นอนว่าเฉินโม่จำตระกูลกงซุนแห่งมณฑลซีไห่ได้ เพราะเรื่องน้ำชีวิต ทำให้เขาฆ่ากงซุนจั่วเสวียน ผู้นำตระกูลกงซุน อีกทั้งยังโดนลูกสาวของกงซุนจั่วเสวียน พาผู้อาวุโสในสำนักมายึดคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง
“เธอคือพวกคนที่โดนกงซุนจั่วเสวียน กดขี่ข่มเหงในตอนนั้นเหรอ”
จั่วเยว่เอ๋อร์พูดอย่างดีใจว่า “ดูเหมือนผู้มีพระคุณจำได้แล้ว ตอนนั้นพ่อฉันอยู่ที่นั่นพอดี อีกทั้งถูกกงซุนจั่วเสวียนบังคับให้เลือกข้าง โชคดีที่ผู้มีพระคุณทำลายแผนร้ายของกงซุนจั่วเสวียนจนไม่เหลือซาก และช่วยพวกเราเอาไว้!”
“แม้คุณออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เพื่อที่จะขอบคุณและระลึกถึงคุณ หลังจากตระกูลมากมายที่อยู่ในนั้นปรึกษากัน จึงตัดสินใจยกย่องคุณเป็นผู้มีพระคุณ อีกทั้งยังให้ทายาทจดจำบุญคุณยิ่งใหญ่ของคุณเอาไว้”
เฉินโม่พยักหน้า “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”
“แต่ฉันจำได้ว่าตอนนั้นไม่มีตระกูลจั่ว จำได้แค่ว่ามีตระกูลอาน……”
เฉินโม่ยังไม่ทันพูดจบ จั่วเยว่เอ๋อร์หัวเราะขัดจังหวะ “ผู้มีพระคุณอาจยังไม่รู้ แม้ตอนนั้นตระกูลจั่วของเราเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ที่ไม่โดดเด่น แต่หลังจากตระกูลกงซุนล้มลง ตระกูลมากมายได้ประโยชน์ไม่น้อย ตระกูลจั่วของเราคือตระกูลที่ได้รับความกรุณาจากคุณมากที่สุด”
“อืม” เฉินโม่พยักหน้า ในที่สุดก็เข้าใจต้นสายปลายเหตุสักที
ตำรวจคนนั้นสีหน้ากระอักกระอ่วน มองจั่วเยว่เอ๋อร์แล้วถามว่า “คุณจั่ว งั้นยังต้องสอบสวนไหมครับ”
จั่วเยว่เอ๋อร์พูดเสียงเย็นชาว่า “ผู้มีพระคุณคือบุคคลที่เหมือนกับมังกรเทพบนสวรรค์ จะเป็นคนที่ก่ออาชญากรรมได้ยังไง ถึงผู้มีพระคุณทำร้ายคนอื่น ก็ต้องเป็นเรื่องที่มีเหตุผลแน่นอน”
“จบภารกิจ พวกนายพาคนกลับไปก่อน!” จั่วเยว่เอ๋อร์พูดสั่ง
“ครับ!” ตำรวจคนนั้นพยักหน้า แผดเสียงดังพูดกับลูกน้องว่า “จบภารกิจ!”
จั่วเยว่เอ๋อร์เป็นผู้รับผิดชอบดูแลด้านความปลอดภัย ของงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ครั้งนี้ แม้อายุกับประสบการณ์ไม่เท่าตำรวจคนนั้น แต่เธอเป็นคนตระกูลจั่ว ไม่มีใครกล้าสบประมาทเธอ
“กล้ามาก จั่วเยว่เอ๋อร์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าทำเรื่องผิดกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว ตระกูลจั่วของพวกเธอจัดการเรื่องแบบนี้เหรอ” อานหลิงหัวแผดเสียงเย็นชาออกมา
จั่วเยว่เอ๋อร์จ้องอานหลิงหัวอย่างเย็นชา พูดเสียงเย็นชาว่า “อานหลิงหัว นายเลิกพูดใส่ร้ายตระกูลจั่วของฉันเถอะ นายเป็นคนตระกูลอาน เห็นผู้มีพระคุณอยู่ต่อหน้า คิดไม่ถึงว่าจะทำเหมือนไม่เห็น ถ้าคุณลุงอานรู้ ต้องลงโทษนายอย่างหนักแน่นอน!”
อานหลิงหัวแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้มีพระคุณอะไรกัน ถ้าไม่มีตระกูลอานของฉัน เขาคงโดนกงซุนจั่วเสวียนฆ่าไปนานแล้ว! พวกเธอยอมรับเขาเป็นผู้มีพระคุณ เพราะพวกเธอได้ผลประโยชน์ ตระกูลอานของเราไม่ยอมรับหรอก!”