แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1165
หลี่ซู่เฟินถามออกมาไปด้วยความเป็นห่วง “เป็นไงบ้าง ?”
เฉินจิงเย่มองมาที่หลี่ซู่เฟิน ไม่ได้พูดอะไร เดินเข้าไปในห้องโดยตรง
หลี่ซู่เฟินขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็หันมามองเฉินโม่ “เสี่ยวโม่ พ่อของลูกเป็นอะไรไปงั้นเหรอ ?”
เฉินโม่ยิ้มออกมา “อาจจะยังรับไม่ได้ แต่อีกไม่นานก็จะดีขึ้นเอง”
หลี่ซู่เฟินพยักหน้า เธอไม่ได้กังวลกับการทดสอบในครั้งนี้ เฉินโม่นำเงินห้าหมื่นล้านออกมาช่วยเหลือเหม่ยหวากรุ๊ป อย่าว่าแต่การทดสอบจิ๊บจ๊อยครั้งนี้เลย แม้ตระกูลเฉิน เกรงว่ามันก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
ส่วนเฉินจิงเย่ หลี่ซู่เฟินตะคอกออกมาอย่างเย็นชา “ฮึ่ม อายุขนาดนี้แล้ว แต่กลับคิดเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ฉันจะไปด่าเขาเดียวนี้ !”
“แม่……” เฉินโม่ยื่นมือออกไปห้ามเขาไว้ แต่หลี่ซู่เฟินเข้าไปด้วยอารมณ์อันรุนแรง เฉินโม่ยิ้ม “ซวยแล้วท่านพ่อ”
วันแรกของปีใหม่ ลานบ้านอันยิ่งใหญ่แห่งตระกูลเฉิน
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิอยู่ในใจของประชาชนหลายร้อยล้านคน เป็นเทศกาลที่สำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้ประตูของตระกูลเฉินเปิดออก ลานบ้านของตระกูลเฉินประดับด้วยโคมไฟและพู่ห้อย มีการติดโคลงและเทพประจำประตูไว้ที่ประตู คนตระกูลเฉินต่างสวมเสื้อผ้าใหม่ เด็กน้อยสวมชุดผ้าฝ้ายในงานรื่นเริง หัวเราะและกันเล่นในลาน
ในห้องโถงของตระกูลเฉิน ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลเฉินนั่งอยู่บนที่ตั้งอันสูงตระหง่านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รอการเคารพจากเหล่าลูกหลาน
เฉินโม่ตามเฉินจิงเย่เข้ามา ยืนอยู่ด้านข้างของห้องโถง
สีหน้าของเฉินจิงเย่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย ไม่ได้เป็นเพราะเรื่องที่ถูกหลี่ซู่เฟินจัดการเมื่อวานนี้ แต่เป็นเพราะยังมีเรื่องอื่นอยู่ในใจ แม้แต่ใบหน้าของหลี่ซู่เฟินเองก็ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย
หลังจากผ่านการทดสอบเมื่อวาน ชื่อเสียงของเฉินโม่โด่งดังในตระกูลเฉิน แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ในตระกูล สุดท้ายเขาก็เป็นเพียงแค่คนนอกคนหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนยังคิดอยู่ในใจว่าเฉินโม่เป็นคนของตระกูลหลี่แห่งยานจิง
ทัศนคติที่ทุกคนมีต่อเฉินโม่ มันไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะความแข็งแกร่งของเฉินโม่ ตรงกันข้าม มันกลับดูถูกยิ่งขึ้น
เฉินหลินแอบพูดถึงเฉินโม่ว่า “เมื่อวานเจ้าเด็กเฉินโม่สร้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในการทดสอบของตระกูล วันนี้จะต้องระงับความเย่อหยิ่งของเขาไว้ให้ได้ !”
เฉินหลี้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “ไม่ต้องกังวล ครอบครัวของพวกเขาอยู่ด้านนอกตลอดทั้งปี ในหนานซูก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไร คิดจะทำให้พวกเขาอับอาย มันง่ายเหมือนกับพลิกฝ่ามือ แม้เมื่อวานจะถูกเฉินโม่เอาชนะไปได้ครั้งหนึ่ง แต่วันนี้พวกเขาก็ยังคงเหมือนกับปีที่ผ่านมา เป็นตัวตลกที่ใหญ่ที่สุดของตระกูล !”
เฉินหลินหัวเราะอย่างชั่วร้ายหัวเราะเบา ๆ ราวกับนึกถึงอดีต พูดออกมาด้วยใบหน้าอันตื่นเต้น “ใช่ ปีที่ผ่านมาครอบครัวของเขาเป็นตัวตลกของตระกูลเฉินมาโดยตลอด ปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน พวกเรามารอดูความสนุกที่จะเกิดขึ้นกันเถอะ !”
ตรงข้ามกับเฉินหลี้ เฉินเหล่ยยืนนิ่งอยู่ด้านหลังพ่อของเขา และด้านหลังของเขาก็มีน้องชายหลายคนเดินตามเขามา
ชายหนุ่มในแจ็กเก็ตหนังสีดำกระซิบว่า “พี่เหล่ย เมื่อวานขยะอย่างเจ้าเฉินโม่บังอาจมาแย่งที่หนึ่งของพี่ไป พี่จะทนและยอมให้มันเป็นแบบนี้งั้นเหรอ ?”
ใบหน้าเฉินเหล่ยไร้ความรู้สึก มองไปยังเฉินโม่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องโถงในระยะไกลโดยไม่พูดอะไร
ผลการทดสอบประจำตระกูลของเฉินโม่นั้นเหนือชั้นกว่าเขาเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ไปง่ายดายแบบนี้
แต่เฉินโม่ประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้ เฉินเหล่ยคิดจะปราบปรามเฉินโม่และนำชื่อเสียงของเขากลับคืนมา สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“พี่เหล่ย พี่กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ?” เฉินฉีถามออกมา
เฉินเหล่ยมองไปยังเฉินฉี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดออกมาอย่างผ่อนคลายว่า “ฉันไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ แต่หากจะเอาชนะอีกฝ่าย จำเป็นต้องโจมตีจากจุดอ่อน จะโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ”
“เฉินโม่ดูเหมือนจะหยิ่งยโส แต่แท้จริงแล้วนั้นเขายากจะหยั่งถึง แถมยังมีผู้นำตระกูลคอยให้การสนับสนุน คิดจะจัดการเขา จะใช้วิธีปกติเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ จำเป็นต้องหาวิธีที่ดีที่สุด”