แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1225
สีหน้าของจีอู๋หยาเคร่งขรึม และกล่าวเบา ๆ ว่า “พวกเขาไม่สามารถตกลงอันดับได้ การปรึกษาหารือล่ม ตอนนี้พวกเขากำลังรอให้เฉินโม่กลับมา แล้วบีบบังคับถามเฉินโม่เกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้ได้แกนอสูรจำนวนมาก”
“ถ้าเช่นนั้น พวกเราแจ้งเฉินโม่ดีไหม? บอกเขาว่าอย่ากลับมาเด็ดขาด!” เหลยจ้านกล่าว
จีอู๋หยายิ้มด้วยความขมขื่น และกล่าวว่า “มันสายไปแล้ว ผมรับรู้ได้จากหินกำหนดตำแหน่งว่า ตอนนี้เฉินโม่กำลังเดินมุ่งหน้ามาหาพวกเราอย่างรวดเร็ว เขาน่าจะรู้ว่าเกิดเรื่องกับพวกเราแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบกลับมาช่วยพวกเรา”
จางเจิ้นกล่าวด้วยความเย็นชา “ถือว่าเจ้าเด็กคนนี้ยังมีน้ำใจอยู่บ้าง ไม่ได้หนีไปคนเดียว ถ้าพวกเรามีชีวิตออกไปจากที่นี่ได้ ผมจะขอโทษเขา!”
เหลยจ้านกล่าวเยาะเย้ย “การที่พวกเรามีชีวิตออกไปจากที่นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้เฉินโม่กลับมา มันก็แค่จำนวนคนที่ตายมากขึ้นอีกคนเท่านั้น!”
สีหน้าของทุกคนเคร่งขรึม เหลยจ้านพูดถูก ถึงแม้เฉินโม่จะกลับมา แต่แล้วไงล่ะ? เพราะคราวนี้คนที่พวกเขาต้องเผชิญคือสี่ประเทศ
ถ้าพวกเราสามารถเป็นพันธมิตรกับประเทศรัสได้ พวกเขาอาจจะสามารถต่อต้านสามประเทศได้ แต่ตอนนี้เฉินโม่ทำให้หัวเซี่ยกลายเป็นที่หนึ่ง แม้แต่คนประเทศรัสก็ยังอิจฉา
อแมนดัส คนประเทศอเมที่พูดภาษาหัวเซี่ยได้ เดินมาอยู่ตรงหน้าจีอู๋หยา และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าพวกคุณยอมบอกว่าไปหาแกนอสูรจำนวนมากมาจากที่ไหน ผมสามารถปล่อยบุคคลนั้นได้!”
จีอู๋หยาส่ายศีรษะ “พวกเราไม่รู้เช่นกัน ถึงแม้ว่าพวกเรารู้ แต่พวกเราก็ไม่บอกคุณหรอก คุณล้มเลิกความคิดนั้นเสียเถอะ!”
อแมนดัสกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมรู้ว่าคุณเจตนากระตุ้นให้ผมโกรธ เพื่อต้องการให้ผมฆ่าพวกคุณโดยเร็วที่สุด ไม่ ไม่ ไม่ ผมจะใช้พวกคุณเป็นเหยื่อล่อ เพื่อรอให้เฉินโม่มาช่วยพวกคุณ!”
“เพราะคนประเทศหัวเซี่ยเป็นคนที่เห็นความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพมากที่สุดไม่ใช่เหรอ? ถ้าใช้ชีวิตของพวกคุณขู่เขา เขาต้องเต็มใจบอกความลับให้ผมอย่างแน่นอน”
“และแน่นอนว่า หลังจากเขาบอกความลับแล้ว ผมค่อยฆ่าเขา แล้วความลับนั้นก็จะเป็นของผม!”
อแมนดัสยิ้มด้วยความชั่วร้าย
“ถุย! ฝันไปเถอะ!” จางเจิ้นถ่มน้ำลายใส่อแมนดัส และอแมนดัสหลบอย่างรวดเร็ว
อแมนดัสพาลโกรธ “แกมันรนหาความตาย!”
จางเจิ้นดุด่าว่า “กูกำลังรนหาความตายแหละ ถ้ามึงแน่ใจ ก็ต่อสู้กับกูสิ!”
อแมนดัสหายโกรธอย่างรวดเร็ว มองจางเจิ้นแล้วหัวเราะเยาะ “ฉันไม่หลงกลแกหรอก แกต้องการกระตุ้นให้ฉันโกรธ ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันจะรอให้เฉินโม่มาช่วยพวกแก แล้วจับเขาต่อหน้าพวกแก!”
“เลวทรามต่ำช้า!” เซี่ยไห่หลงดุด่า
หลังจากอแมนดัสกล่าวจบ เขาก็เดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
จางเจิ้นมองจีอู๋หยา และถามเบา ๆ “หัวหน้า พวกเราควรทำอย่างไรดี? พวกเราจะรอจนกว่าเฉินโม่จะมาถึงจริง ๆ เหรอ? ด้วยความเร็วปัจจุบันของเฉินโม่ คาดว่าอีกไม่นานเขาก็มาถึงแล้ว!”
จีอู๋หยากล่าวด้วยสีหน้ามุ่งมั่น “รอก่อน ตอนนี้พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อีกสักครู่ถ้าเฉินโม่มาถึงแล้ว พวกเราจะสู้ตายกับคนเหล่านี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เฉินโม่หลบหนี”
“ทำไมต้องให้เฉินโม่หนีด้วย? ทำไมไม่เป็นคุณล่ะ? คุณมีชีวิตอยู่ดีกว่าเฉินโม่มีชีวิตอยู่เสียอีก!” ลี่เซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ทุกคนรู้ความหมายที่อยู่ในคำพูดของจีอู๋หยา เมื่อเฉินโม่มาถึงแล้ว พวกเขาหกคนจะใช้ชีวิตของตนเอง เพื่อเปิดโอกาสให้เฉินโม่หลบหนี
ลี่เซี่ยวพูดถูก จีอู๋หยามีชีวิตอยู่ ต้องมีประโยชน์มากกว่าเฉินโม่มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน
คนที่เหลือไม่พูดอะไร แต่พวกเขามองจีอู๋หยา จากนั้นเหลยจ้านก็กล่าวว่า “ถ้าคุณคิดว่าตนเองเป็นหัวหน้าทีม แล้วรู้สึกละอายใจที่จะมีชีวิตรอดอยู่คนเดียว ถ้าเช่นนั้นคุณคิดผิดแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ เมื่อชื่อเสียงและเกียรติส่วนตัวเทียบกับประโยชน์ของประเทศชาติแล้ว ไม่สามารถถือเป็นอะไรได้ ผมขอแนะนำให้คุณมีชีวิตอยู่ เพราะมันมีประโยชน์มากกว่าน้องใหม่อย่างเฉินโม่มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน!”