แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1229
นี่เป็นช่องว่างระหว่างกระสุนปืนใหญ่กับระเบิดนิวเคลียร์อย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าการที่เฉินโม่ฆ่าเกียร์ตายด้วยกระบวนท่าเดียว ถือว่าทำให้ทุกคนตกตะลึงแล้ว ตอนนี้เขาอัพเกรดจากกระสุนปืนใหญ่เป็นระเบิดนิวเคลียร์โดยตรง ไม่เพียงแค่พลังทำลายล้างสูงเท่านั้น แต่ยังมีผลยับยั้งในเชิงกลยุทธ์อีกด้วย
พวกอแมนดัสสี่คนปรึกษาหารืออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจส่งคนออกมาฝ่ายละสองคน ฝ่ายประเทศอเมส่งคนออกมาหนึ่งคน รวมเป็นเจ็ดคน
มันเกือบจะเทียบเท่าพลังของประเทศหนึ่งแล้ว
ในบรรดาเจ็ดคนนี้ รวมนักพรตคนหนึ่ง อัศวินโต๊ะกลมจากประเทศฟาหนึ่งคน และออร์คจากประเทศรัสสองคน
สามารถกล่าวได้ว่าการเตรียมการด้านการรบคราวนี้ยอดเยี่ยมมาก นักพรตรับผิดชอบโจมตีจากระยะไกล อัศวินโต๊ะกลมมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนออร์คเชี่ยวชาญในการป้องกัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นพลังของประเทศหนึ่ง มันก็เพียงแค่เท่านี้ กระทั่งอาจไม่ทรงพลังขนาดนี้
เหลยจ้านยิ้มแหย ๆ และกล่าวว่า “เฉินโม่ ผมว่าคุณไม่ต้องสนใจพวกเราแล้ว รีบหนีเอาชีวิตรอดเถอะ ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ พวกเขาอาจจะตามคุณไม่ทัน และคุณก็มีความสามารถในการล่าสัตว์ประหลาดเป็นพิเศษ ขอเพียงแค่คุณไม่ถูกพวกเขาจับ พวกเราก็ยังคงมีความหวังที่จะได้รับชัยชนะ”
จางเจิ้นตะโกนเสียงดังเช่นกัน “เฉินโม่ ถึงแม้ว่าคุณจะแข็งแกร่งมาก แต่ผมยังคงดูถูกคุณ เพราะคุณไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอันดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าคุณจะช่วยผม แต่ผมก็จะไม่ขอบคุณ คุณหรอก! ถ้าคุณตายอยู่ที่นี่ คุณก็จะกลายเป็นคนบาปของประเทศหัวเซี่ย!”
เฉินโม่หันไปมองเขาแวบหนึ่ง และกล่าวเบา ๆ “ผมเฉินโม่ จะทำเรื่องอะไร พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่ง!”
เฉินโม่หันไปมองคนเจ็ดคนที่สี่ประเทศส่งออกมา ชี้เส้นที่อยู่บนพื้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คนที่ล้ำเส้นจะต้องตาย!”
จีอู๋หยาถอนหายใจ “เฉินโม่เป็นคนดื้อรั้นมาก ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี? ผมไม่เชื่อว่าเขาคนเดียวจะสามารถต้านคนของสี่ประเทศได้!” เหลยจ้านกล่าวพร้อมกับเบ้ปาก
จีอู๋หยายิ้มด้วยความขมขื่น “อย่าว่าแต่คุณไม่เชื่อเลย ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่พวกเราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเฉินโม่ได้ ทำได้เพียงแค่เปลี่ยนแปลงตนเองเท่านั้น และพยายามร่วมมือกับเขาอย่างเต็มที่!”
“ร่วมมืออย่างไร?” จางเจิ้นถาม
จีอู๋หยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเฉินโม่ไม่อยากถอย ดังนั้นพวกเราก็เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เมื่อเฉินโม่ไม่สามารถต้านได้ ลี่เซี่ยว คุณรับผิดชอบพาเฉินโม่หลบหนี!”
จีอู๋หยาจี้มองลี่เซี่ยว “คุณเร็วที่สุด ดังนั้นคุณต้องทำภารกิจนี้!”
ความมุ่งมั่นประกายผ่านดวงตาของลี่เซี่ยว เขาพยักหน้าและกล่าวเบา ๆ ว่า “ผมจะพาเขาหนี แล้วรอพวกคุณกลับมา!”
จีอู๋หยาหัวเราะเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มที่กล้าหาญ “โอเค พวกเราจะต้องกลับไปแน่นอน!”
จีอู๋หยาและคนอื่น ๆ กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้ และผู้ที่ถูกเลือกทั้งเจ็ดคนได้เริ่มโจมตีเฉินโม่แล้ว
โดยมีออร์คของประเทศรัสสองคนเป็นผู้นำ ตามด้วยอัศวินโต๊ะกลมสองคนของประเทศฟา แล้วยอดมนุษย์ของประเทศอเมคนนั้น ก็เรียกลูกไฟขนาดใหญ่ปรากฏอยู่กลางอากาศ ส่วนอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอินยกกระบี่ใหญ่ขึ้น และรอโอกาสโจมตี
นักพรตคนนั้นเริ่มสวดคาถาอีกครั้ง แสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวร่อนลงมาจากท้องฟ้า แล้วปกคลุมเฉินโม่เอาไว้
วิชาเทพเจ้าชี้ขาดก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้ง และครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าครั้งแรกมาก!
เฉินโม่เอามือไพล่หลัง ด้วยสีหน้าราบเรียบ ร่างกายแผ่กระจายความเหยียดหยาม และไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
เมื่อออร์คของประเทศรัสสองคนนั้นข้ามเส้นที่เฉินโม่วาดเอาไว้ เฉินโม่พ่นลมออกมาอย่างเย็นขา แล้วปล่อยหมัดกระแทกไปที่พวกเขาสองคน
“ท่าที่สองหมัดสามท่าเทียนเสวียน แยกน้ำ!”
ออร์คทั้งสองคนจะรู้สึกถึงความน่ากลัวของหมัดนี้ของเฉินโม่ คำรามเสียงดัง เพียงแค่พริบตาเดียว ขนยาวบนร่างกายของพวกเขาก็ยาวขึ้นกว่าเดิม