แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 130
บทที่ 130
โจงเซิ่งหัวก็มีสีหน้าผงะ มองดูเฉินซงจื่อ ตกใจจนพูดไม่ออก “นี่มัน เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
“ของปลอม ใช่แล้ว จะต้องเป็นของปลอมแน่นอน มันจะต้องใช้วิธีอะไรบางอย่าง ให้ไอ้คนนี้มันได้รับพลังของนักบู๊แดนใน มันไม่มีทางสู้หลินหรูเฟิงได้!”
เฉินซงจื่อก็ไม่รอช้า ตอนนี้พละกำลังของเขาปะทุขึ้นมา กำลังเป็นเวลาที่จะปลดปล่อยออกมา หลินหรูเฟิงเป็นบันไดขั้นแรกที่ให้เขาก้าวเข้าสู่โลกฝึกบู๊!
“ไปตายซะ!”
เฉินซงจื่อเคลื่อนตัว เอากำปั้นที่มีความรุนแรง ต่อยไปยังหลินหรูเฟิง จนเกิดเป็นเสียงตัดผ่านอากาศดังขึ้น!
หลินหรูเฟิงรีบตั้งรับไว้ แล้วใช้กำลังทั้งหมดต่อยกลับมาหนึ่งหมัด
ตุบ!
ตัวของหลินหรูเฟิงถอยออกไปอย่างเร็ว!
แคร่ก!
แขนของหลินหรูเฟิงหัก!
โจงเซิ่งหัวก็อึ้งตาค้าง แล้วก็บ่นพึมพำว่า “พลังหมัดเดียว ไม่น่าจะรุนแรงขนาดนี้!”
หลินหรูเฟิงมีสีหน้าตกใจ ไม่รอช้าเตรียมจะหันตัวหนี
“เหอะ คิดจะหนีไปไหน?”
เฉินซงจื่อเคลื่อนตัวเข้ามา รวดเร็วกว่าหลินหรูเฟิงหลายเท่า แล้วก็ต่อยไปยังแผ่นหลังของหลินหรูเฟิง
“เฮือก!”
หลินหรูเฟิงไม่ได้ป้องกัน เลยกระเด็นลอยไป จนไปกระแทกกับกำแพง จนเกิดเป็นเสียงกระดูกหักดังขึ้น
หมัดที่สอง หลินหรูเฟิง ตาย!
เฉินซงจื่อเอาเท้าเหยียบร่างของหลินหรูเฟิง บนตัวสวมชุดนักพรตเต๋า ราวกับเทพเจินอู่ต้าตี้ลงมาจุติ “กูบอกแล้ว มาเหยียดหยามอาจารย์กู ต้องตาย!”
โจงเซิ่งหัวตกใจจบต้องฟุบลงพื้น แล้วก็โขกหัวคำนับขอร้องต่อเฉินโม่ “ไต้ซือ ผมไม่ดีเองที่มองคนอื่นต่ำไป เมื่อครู่เสียมารยาทไป อภัยให้ผมด้วยเถอะครับ!”
โจงเซิ่งหัวไม่ได้โง่ เฉินซงจื่อมีบารมีเกรียงไกรแบบนี้ สองหมัดก็ฆ่าหลินหรูเฟิงตาย แต่เขาก็รู้ดี ทุกอย่างของเฉินซงจื่อ ล้วนได้มาจากวัยรุ่นคนนี้
ประมาณ8นาที ก็สร้างยอดฝีมือแดนในขึ้นมาได้ วิธีที่สะเทือนฟ้าดินแบบนี้ ใครได้ยินก็ต้องตกใจ!
ถึงว่าเขาถึงได้ไม่ค่อยสนใจนักบู๊แดนใจ เพราะพลังของเขาไม่รู้ว่าแข็งแกร่งไปถึงระดับไหนแล้ว?
พอนึกถึงที่เพิ่งได้พบกันเมื่อครู่นี้ บอว่าเฉินซงจื่ออายุเยอะแล้ว ชีวิตนี้คงไม่มีหวัง แต่ในพริบตา เขาก็ได้กลายเป็นยอดฝีมือแดนในคนหนึ่งขึ้นมาได้
โจงเซิ่งหัวอับอายจนอยากตาย อยากจะมุดแผ่นดินหนี!
เฉินโม่ไม่ได้สนใจโจงเซิ่งหัวที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น แต่มองไปทางฉู่เหวินสงนิ่งๆ “วันหลังถ้ามีคนของตระกูลหลินมาอีกล่ะก็ คุณก็ให้พวกมันมาหาผมได้เลย!”
มองไปที่เอียนชิงเฉิงที่กำลังอึ้งตกใจ เฉินโม่ก็พูดนิ่งๆ ว่า “ไปกันเถอะ!”
เฉินโม่ไม่มีอารมณ์ใดๆ จากไปอย่างนิ่งๆ เฉินซงจื่อก็ตามอยู่ด้านหลังอย่างเคารพนบนอบ พลังองอาจเต็มตัวเมื่อครู่นี้ ไม่ได้เหลืออยู่แล้ว ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ที่จงรักภักดี
ฉู่เหวินสงก็เพิ่งได้สติกลับมา “เฉินไต้ซือรอก่อนครับ เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งคุณกลับ!”
ไม่สนใจโจงเซิ่งหัวที่คุกเข่าที่พื้น ฉู่เหวินสงรีบก้าวเดินตามออกไป สีหน้าเต็มไปด้วยความเกรงกลัว
โจงเซิ่งหัวมองเห็นเงาด้านหลังของเฉินโม่หายไป ตนเองก็นั่งหมดแรงอยู่ที่พื้น ยิ้มแหยสีหน้าหมดหวัง “ถึงว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาถึงไม่มองกูเลยแม้แต่หางตา กูก็นึกว่าเขากลัว ที่แท้เขาไม่อยากจะมองกูเลยเสียด้วยซ้ำ!”
“เหอะๆ นี่แหละถึงจะเป็นคนเก่งของจริง อย่างกูก็เป็นได้แค่ตัวตลก!”
โจงเซิ่งหัวอับอายอย่างมาก จนกระอักเลือดออกมา เขาใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดไป แล้วลุกขึ้นเดินโซเซจากไป
พอกลับมายังลานชุมชนเมือง เฉินโม่ก็ย้ำกับเฉินซงจื่อว่า “นายใช้พลังของยามาเพิ่มพลัง จะต้องรีบทำให้พลังมั่นคง หลายวันนี้นายยังไม่ต้องฝึกวิชา เดี๋ยวฉันจะสอนวิชาหมัดให้ นายรีบฝึกให้คล่อง!”
เฉินซงจื่อพูดอย่างเคารพว่า “รับคำสั่ง!”
เฉินโม่เดินเข้าห้องไป แล้วเอาวิชาหมัดเทพเทียนเสวียนที่ย่อลงมากแล้วสามท่าแรก สอนให้กับเฉินซงจื่อตามทักษะมาตรฐานของโลกฝึกบู๊ในโลกไอกานี้
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่วิชาหมัดเทพเทียนเสวียนที่เฉินโม่ถ่ายทอดให้กับเฉินซงจื่อ เมื่อเทียบกับทักษะยุทธของโลกฝึกบู๊แล้ว ก็ยังแข็งแกร่งกว่าร้อยเท่า