แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1315
หมัดของเผยซื่อหาว เต็มไปด้วยพลัง พลังหมัดนั้นทำให้คนตกใจกลัว
“นี่ นี่มันใช่พลังของคนเหรอ?” หานเทียนฟ่างพูดอย่างตกตะลึง
ด้านหลัง หมารับใช้ของตระกูลหานคนหนึ่งยิ้มอย่างกวนประสาท “ยินดีกับประธานหาน มีไต้ซืออย่างคุณเผยอยู่ วันนี้ตระกูลเจี่ยคงยากที่รอดพ้นจากเคราะห์กรรมนี้!”
“สำหรับไอ้หนูที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ มารนหาที่ตายชัดๆ!”
“ใช่ครับ ยินดีกับประธานหานที่ได้รับความช่วยเหลือจากยอดฝีมืออย่างเผยไต้ซือ!” ผู้คนต่างประจบสอพลอตาม
ฝั่งของเจี่ยว่างชวน มองดูหมัดอันทรงพลังของเผยซื่อหาว ต่างก็หน้าซีดเผือด การโจมตีแบบนี้มันเกินขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์อย่างพวกเขาจะเข้าใจได้!
พวกเขาอดเป็นห่วงเฉินโม่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะสามารถต้านทานหมัดของเผยซื่อหาวได้มั้ย?
เจี่ยว่างชวนมองไปทางเจี่ยจวินเซี่ย พบว่าเจี่ยจวินเซี่ยกำลังกำมือแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นห่วงก็ไร้ประโยชน์ เฝ้าดูสถานการณ์และเตรียมรับมือจะดีกว่า!”
เจี่ยจวินเซี่ยโค้งคำนับ “ขอบคุณพ่อที่เตือน!”
เผยซื่อหาวเดิมใช้พลังไปแค่เจ็ดส่วน แต่เมื่อเห็นเฉินโม่ไม่ขยับเลย แถมยังชะล่าใจขนาดนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธ “ฮึ่ม ไอ้หนูคนนี้กล้าดูถูกฉันถึงเพียงนี้ มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”
แววตาของเผยซื่อหาวโผล่ขึ้นด้วยแรงสังหาร พลังที่เหลืออีกสามส่วนก็ได้ปล่อยมันออกมา
พลังหมัดสิบส่วนของปรมาจารย์แดนคุ้มกาย ชกไปทางเฉินโม่พร้อมกับเสียงแตกของอากาศ
อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว มองหมัดที่น่าสะพรึงกลัวของเผยซื่อหาว พูดอย่างราบเรียบ “ในที่สุดก็ยอมใช้พลังทั้งหมดแล้วเหรอ?”
“ช่างมันเถอะ เห็นแก่ความเมตตาของแกในเมื่อกี้ ฉันก็จะทำให้แกตายใจ”
เฉินโม่ที่มือไขว้อยู่ข้างหลัง รอให้หมัดของเผยซื่อหาวที่กำลังจะเข้าใกล้ร่างของเขา ลมหมัดที่รุนแรงได้พัดเสื้อของเฉินโม่จนปลิวไหว เฉินโม่ถึงได้เคลื่อนไหวร่างกาย
โดยการโบกมือ พลังอันดุเดือดและทรงพลังที่ศัตรูไม่สามารถเทียบได้ กวาดเอาเผยซื่อหาวลอยออกไปโดยตรง จนเผยซื่อหาวถึงกลับกระอักเลือดกลางอากาศ และร่วงลงสู่พื้น
“ห๊า! นี่ นี่มันเป็นไปได้ไง!”
ทุกคนมองจนอ้าปากตาค้าง!
“หมัดนั้นของเผยซื่อหาวที่มากไปด้วยพลังอันมหาศาล เขาแค่โบกมือก็ทำให้คุณเผยถึงกับตัวลอยจนกระอักเลือด!”
ใบหน้าของหานเทียนฟ่างกับเจี่ยว่างชวนต่างเต็มไปด้วยความตกใจ
เจี่ยว่างชวนเหลือบมองเจี่ยจวินเซี่ย ถามอย่างตกใจ “จวินเซี่ย เดิมทีที่พ่อนั้นคัดค้านไม่ให้ลูกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวหนาน แต่คิดไม่ถึงว่าลูกไปแล้วจะได้ทุกขลาภ ได้รู้จักเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นมังกรในหมู่มนุษย์ และได้เป็นเพื่อนกับคนที่สูงส่งแบบนี้ ตระกูลเจี่ยของพ่อ นับว่าได้เจอผู้มีคุณแล้ว!”
เจี่ยว่างชวนที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ชะตาชีวิตของคน ช่างน่าอัศจรรย์นัก!”
เฉินโม่มองเผยซื่อหาว ถามอย่างราบเรียบ “ตอนนี้ยังสงสัยตัวตนของฉันอีกมั้ย?!”
เผยซื่อหาวที่กุมหน้าอกเอาไว้ พยายามลุกขึ้นยืน จากนั้นก็โค้งคำนับให้เฉินโม่ “เฉินไต้ซือที่อยู่เบื้องสูง เมื่อกี้รุ่นน้องล่วงเกินคุณแล้ว โปรดจงอภัยให้ด้วย!”
“นี่……..” หานเทียนฟ่างมองภาพนี้ สีหน้าแย่ถึงขีดสุด เมื่อกี้เขายังหัวเราะเฉินโม่ที่ไม่รู้จักประเมินตน คิดไม่ถึงจะโดนเฉินโม่ตบหน้าเร็วขนาดนี้
ตาว่า ไม่เสียทีนักเล็งอย่างหานเทียนฟ่าง เป็นคนที่ปล่อยวางได้ง่าย รีบไปโค้งคำนับเฉินโม่ “เฉินไต้ซือที่อยู่เบื้องสูง เมื่อกี้ผมมีตาแต่ไร้แวว ล่วงเกินไต้ซือแล้ว ขอให้ไต้ซืออภัยให้ด้วย!”
“จากนี้ไปตระกูลหานยินดีที่จะสยบต่อเฉินไต้ซือ จะไม่มีวันทรยศ!”
ลูกชายของหานเทียนฟ่าง ก็คือชายหนุ่มคนแรกที่เฉินโม่กับพวกเจอที่หน้าประตูโรงแรม มองหานเทียนฟ่างอย่างไม่อยากจะเชื่อ กระซิบถาม “พ่อ พ่อเอาจริงใช่มั้ย?!”