แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1414
“ดังคำกล่าวที่ว่าเดิมคนไร้ซึ่งความผิด แต่ถ้ามีหยกกับตัวจะมีโทษ คัมภีร์ยุทธ์ที่อยู่ในมือเรา รังแต่จะนำภัยมาให้พวกเรา!”
ศิษย์ที่ทั้งสองมีสีหน้าที่ไม่พอใจ แต่พวกเขาเข้าใจ หลินหยุนพูดถูก ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะสามารถปกป้องคัมภีร์นี้ได้ดีหรือไม่ แค่เฉินโม่ที่อยู่ตรงหน้า คัมภีร์ยุทธ์ที่ล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะมอบให้ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?
หลินหยุนคงกังวลว่าเฉินโม่เจตนาลองเชิงพวกเขา ดังนั้นจึงคืนคัมภีร์ยุทธ์นี้ให้กับเฉินโม่
“ศิษย์น้องพูดถูก พวกเราเลอะเลือนไปแล้ว คัมภีร์ยุทธ์ที่ล้ำค่าแบบนี้ มีเพียงแต่ผู้อาวุโสเท่านั้นที่สามารถปกป้องมันได้!”
เฉินโม่มองหลินหยุนไปแวบหนึ่ง ก็พูดอย่างราบเรียบ “ฉันรู้ว่าเธอนั้นสงสัยว่าฉันกำลังจะลองใจพวกเธอ จริงๆเธอคิดมากเกินไปแล้ว คัมภีร์ยุทธ์นี้ในสายตาของพวกคุณอาจจะเป็นเหมือนของล้ำค่า แต่ในสายตาฉัน มันไม่มีค่าเลย ให้พวกเธอก็เอาไว้เลย ขอเพียงมีฉันอยู่ ไม่มีใครกล้าแย่งของไปจากมือของพวกเธออย่างแน่นอน!”
หลินหยุนทั้งสามคนดีใจอย่างมาก คุกเข่าให้เฉินโม่พร้อมกัน “ขอบคุณผู้อาวุโส!”
“ลุกขึ้นเถอะ!” เฉินโม่โบกสะบัดมือเบาๆ พลังที่อ่อนโยนได้ดึงตัวพวกเขาสามคนขึ้นมา
สีหน้าของทั้งสามเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และพวกเขาก็สยบต่อความแข็งแกร่งของเฉินโม่อีกครั้ง
เฉินโม่หันหลัง และสะบัดมือ ของที่อยู่บนตู้ไม้ทั้งหมดก็ถูกเก็บเข้าไปในแหวนเก็บของ
เผชิญกับความพิเศษนี้ หลินหยุนทั้งสามคนอึ้งจนอ้าปากตาค้าง
“ไปกันเถอะ!” หลังจากที่เก็บของที่นี่แล้ว เฉินโม่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก มีทรัพยากรพวกนี้ ต่อไปเขาก็สามารถที่จะฝึกเหมือนกับผู้บำเพ็ญทั่วไปได้แล้ว
“พวกเขาออกมาแล้ว!” ผู้คนที่เฝ้าอยู่ตรงประตูมาโดยตลอด เห็นเฉินโม่และพวกปรากฏตัวขึ้น ก็รีบตะโกนในทันที
คุณชายฉางมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าที่ขุ่นมัว
“ไอ้หนุ่ม แกได้อะไรมาจากบนนั้นบ้าง? เอาออกมาแบ่งกับทุกคน ไม่เช่นนั้นนายไม่มีทางที่จะไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน! ”ปรมาจารย์หน้ากวางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เฉินโม่กวาดมองทุกคนด้วยสายตาที่เย็นชา แรงสังหารของไอเย็นได้แพร่ออกมาจากในร่างกาย “อยากจะแย่งของไปจากมือของฉัน ก็ต้องดูว่าพวกแกมีความสามารถหรือเปล่า!”
“ไอ้หนุ่ม นายออกมาจากเขตพลังต้องห้ามก่อน อย่าทำเหมือนเต่าหัวหด!” มีคนกังวลว่าเฉินโม่จะไม่ยอมออกมาจากประตูที่มีพลังต้องห้าม จึงพูดจายั่วยุ
เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร ค่อยๆก้าวเดินมาข้างหน้า ถือว่าได้ตอบคำถามของเขาแล้ว
“ผู้อาวุโส!” หลินหยุนที่อยู่ด้านหลังตะโกนด้วยความเป็นห่วง
เฉินโม่ไม่ได้หันกลับไป พูดอย่างเรียบเฉย “อย่าออกมา”
พูดจบ ก็มองทุกคนด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วพูด “ใครที่อยากจะแย่งของไปจากมือฉัน ออกมาเถอะ!”
เมื่อเห็นว่าเฉินโม่มีความมั่นใจมาก ทุกคนก็กลัวที่จะก้าวไปข้างหน้าชั่วขณะหนึ่ง
คุณชายฉางหัวเราะอย่างเย็นชา “ทำเป็นข่มขู่ หรือว่านายอยากที่จะเป็นศัตรูกับโลกบู๊โบราณเพียงคนเดียว?”
“ใช่ พวกเรามีกันตั้งมากมาย แค่ถุยน้ำลายคนละทีก็สามารถจมตายอยู่ในน้ำลายแล้ว! ทุกคนไม่ต้องกลัว ลุยพร้อมกัน!”
“ช้าก่อน ให้ฉันสู้กับไอ้หนุ่มที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ก่อน!” นักบู๊วัยกลางคนท่านหนึ่งก้าวออกมา มองเฉินโม่แล้วพูดอย่างเย็นชา
เฉินโม่มองเขา พูดอย่างเรียบเฉย “นายเพิ่งถึงแดนปรมาจารย์ ไม่คุ้มค่าที่ให้ฉันต้องลงมือ!”
“ไอ้หนุ่ม จองหอง!” รู้สึกว่าถูกเฉินโม่หยาม นักบู๊วัยกลางคนท่านนี้โกรธจนหมวกจะหลุดจากหัว ชกเฉินโม่ด้วยพลังหมัดสิบส่วน
เฉินโม่ไม่ขยับเลย รอจนกระทั่งนักบู๊วัยกลางคนเข้าใกล้เขาในระยะหนึ่งเมตร จากนั้นก็ตะโกนอย่างเสียงดังในทันที “ไสหัวไป!”
พลังอันยิ่งใหญ่ของมังกรที่แท้จริงเหมือนกับพลังฟ้าดิน โจมตีเข้าไปในหัวของนักบู๊วัยกลางคนโดยตรง
“อ้า!”
นักบู๊วัยกลางคนรู้สึกว่าจู่ๆเขาก็กลายเป็นมดตัวเล็กๆ แหงนมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ บนท้องฟ้า มังกรยักษ์พุ่งทะยานลงมา ได้พ่นพลังใส่เขาโดยตรงจนกลายเป็นผงขี้เถ้า
นักบู๊วัยกลางคนคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินโม่ ด้วยสีหน้าที่ล่องลอย
เฉินโม่สะบัด ร่างของนักบู๊วัยกลางคนก็กระเด็นลอยออกไป ไปตกท่ามกลางกลุ่มคน
“มังกร มังกรตัวใหญ่มาก…….” มุมปากของนักบู๊วัยกลางคนไหลเต็มไปด้วยน้ำลาย พูดด้วยสายตาที่ล่องลอย