แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1430
ถึงว่าเจียงเหอซานถึงได้เตือนเฉินโม่ด้วยตัวเอง ให้เขาค่อยๆวางแผนเรื่องนี้ และหลีกเลี่ยงพลังการโจมตีของศัตรูในครั้งแรกแล้วค่อยโจมตีอย่างหนักเมื่อศัตรูเหนื่อยล้า
เฉินโม่ที่ยืนอยู่ในความว่างเปล่า เมื่อเห็นขบวนของโลกบู๊โบราณแล้ว อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสิบกว่าคน ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ก็ยุ่งยากอยู่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักบู๊อีกหลายร้อยคน
ถ้าหากคนพวกนี้ร่วมมือกันโจมตีทะเลสาบกลับคืนรัง แม้จะมีค่ายกลห้าธาตุกลับหัว เกรงว่าก็คงต้านได้ไม่นาน
“เมื่อมองแบบนี้ ความสามารถของโลกบู๊โบราณเมื่อเทียบกับโลกฝึกบู๊ แข็งแกร่งกว่ามากจริงๆ!”
หลินว่านเหนียนยืนอยู่ตรงเชิงเขาของทะเลสาบกลับคืนรัง มองดูเมฆหมอกที่ล้อมรอบเนินเขาวิหคจอด สัมผัสชี่ฟ้าดินเข้มข้นที่อยู่ด้านบน แววตามีความโลภอย่างห้ามไม่ได้
“เฉินไต้ซือคนนี้ มีความสามารถจริงๆ สามารถค้นพบสถานที่ที่เหมือนดินแดนสวรรค์บนโลกที่ขาดแคลนชี่ทิพย์ได้ ถ้าหากจับตัวเขามา บีบบังคับให้เขาสร้างมันอีกหลายแห่ง อย่างนั้นแล้วคนของโลกบู๊โบราณก็ไม่ต้องใช้อยู่แต่ในป่าทึบทั้งวันแล้ว
หลินว่านเหนียนคิดในใจอย่างเงียบๆ
ที่โลกบู๊โบราณต้องอาศัยอย่างสันโดษในป่าเขา ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะยินดี แต่มันมีความจำเป็น มีใครบ้างที่ไม่อยากจะอยู่ในเมืองแต่เลือกไปอยู่ในภูเขาป่าทึบที่เต็มไปด้วยแมลงพิษและสัตว์ร้ายล่ะ?
เป็นเพราะชี่ทิพย์ตรงนั้นเข้มข้น เหมาะแก่การฝึกฝนของนักบู๊ก็เท่านั้นเอง
หากเปิดสถานที่ที่มีชี่ทิพย์เข้มข้นแบบนี้ในเมืองที่ครึกครื้นสักแห่ง คนของโลกบู๊โบราณก็จะสามารถย้ายออกมาได้
หลินว่านเหนียนกระโดดลอยตัวขึ้น มองลงไปจากที่สูง ค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาลได้ครอบเนินเขาวิหคจอดเอาไว้ในนั้นด้วย ทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย
“ชี่ทิพย์กลายเป็นหมอก พวกนี้ล้วนเป็นชี่ทิพย์ทั้งนั้น!” หลินว่านเหนียนที่มองลงไปจากที่สูง ตกตะลึงอีกครั้ง แน่นอน ความโลภในแววตายิ่งมากขึ้น
“เฉินไต้ซือ ฉันหลินว่านเหนียนจากสำนักคุนชางแห่งโลกบู๊โบราณ ขอคารวะ!”
เสียงที่ก้องกังวานสะท้อนไปทั่วฟ้าดิน เชื่อว่าเฉินโม่ต้องได้ยินมันอย่างแน่นอน
หลินว่านเหนียนรอไม่ไหวแล้ว ถึงขนาดได้คิดไว้ในใจแล้ว ต้องฆ่าเฉินโม่ แล้วใช้ที่นี่เป็นสำนักของ สำนักคุนชางของเขา
เฉินโม่ได้ตอบกลับ ทำเพียงมองดูหลินว่านเหนียนอย่างเงียบๆ แล้วคิดหาวิธีกำจัดศัตรู
“เฉินไต้ซือ โปรดปรากฏตัวมาให้เห็นหน่อย!” น้ำเสียงของหลินว่านเหนียนเย็นชาเล็กน้อย
เฉินโม่ยังคงไม่ตอบ แววตาปรากฏขึ้นความเย็นชา
หลินว่านเหนียนก็ไม่ได้พูดอีก ทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที แล้วก็บินกลับไปอยู่ที่เดิม มองไปยังนักบู๊หลายร้อยคนแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ตั้งค่าย ทำลายค่ายกลคงรากของเขา”
“ครับ!”
สำหรับเรื่องที่กลุ่มคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรังมีค่ายกลคงราก ได้ถูกตระกูลหลิ่วแพร่กระจายไปทั่วโลกบู๊โบราณแล้ว หลินว่านเหนียนมาในครั้งนี้ ได้เตรียมการไว้นานแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พานักบู๊มาเป็นร้อย ก็เพื่อมาทำลายค่ายกลคงรากของเฉินโม่
ในนักบู๊หลายร้อยคน ความสามารถส่วนใหญ่อยู่ในแดนในชั้นสูงสุด และมีสิบกว่าคนที่ถึงแดนปรมาจารย์ พลังนี้เพียงพอที่จะกวาดล้างโลกฝึกบู๊ได้แล้ว จะเห็นได้ว่าความสามารถของโลกบู๊โบราณนั้นแข็งแกร่งกว่าโลกฝึกบู๊มากกว่าหลายเท่า
นักบู๊หลายร้อยคนตั้งค่ายกลรุก ภายใต้การกำกับของหลินว่านเหนียน โจมตีไปยังค่ายกลห้าธาตุกลับหัว
โครม!
การโจมตีของนักบู๊หลายร้อยคน เปรียบได้กับอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้เนินเขาวิหคจอดสั่นสะเทือน
เสียงที่เปรียบได้กับอาวุธนิวเคลียร์เปล่งออกมาด้วยพลังของพลังทิพย์ ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า “เฉินไต้ซือ คุณฆ่าคนของโลกบู๊โบราณ มันน่าเกรงขามมากขนาดไหน ตอนนี้จะเป็นเต่าหดหัวแล้วเหรอ? ฉันไม่อยากทำลายพลังทิพย์ของที่นี่ ตอนนี้คุณปรากฎตัวออกมาเถอะ!”
เฉินโม่ขยับร่าง แต่ไม่ใช่ไปเจอหลินว่านเหนียน แต่ได้กลับเข้าไปในกลุ่มคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง
“อาจารย์!” เอียนชิงเฉิงคำนับ
เฉินโม่มองเธอ พูดอย่างจริงจัง “เธอมาควบคุมค่ายกล ขวางพวกมันไว้สิบวัน”
ใบหน้าที่สวยงามของเอียนชิงเฉิงปรากฏขึ้นด้วยความแน่วแน่เตรียมสู้สุดชีวิต และพยักหน้ารับ “ค่ะ!”