แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 167
บทที่ 167
มีวัยรุ่นหน้าตายโสเย็นชา ตามมาข้างๆ จินเพ่ยอวิ๋น เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ภายใต้การคุ้มกันของพวกลูกน้อง
ทุกที่ที่เดินผ่าน แทบจะทุกคนที่ก้มหัวให้ ยิ้มอย่างถ่อมตนออกมา
กลุ่มคนหลีกทางให้จินเพ่ยอวิ๋น เดินเข้ามาโดยอัตโนมัติ
ซุนจิ้งไฉเห็นจินเพ่ยอวิ๋น รีบประสานมือทำความเคารพ “ซุนจิ้งไฉแห่งหลงฮั่ว สวัสดีครับคุณจิน”
มู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ข้างซุนจิ้งไฉ กลับมองจินเพ่ยอวิ๋นอย่างสงสัย แววตามีความนับถือ หรือนี่คือ ผู้หญิงที่โดดเด่นในบรรดาผู้หญิง
เจิ้งว่านหาว ประธานว่านหาน กรุ๊ป โค้ง 90 องศาอย่างถ่อมตน แล้วพูดว่า “ผมเจิ้งว่านหาว สวัสดีครับคุณจิน สวัสดีครับคุณชายเว่ย!”
จินเพ่ยอวิ๋นประสานมือทำความเคารพทั้งสองคน ยิ้มอย่างเป็นกันเอง “ทั้งสองล้วนเป็นผู้อาวุโส ไม่จำเป็นต้องเกรงใจค่ะ!”
ชายหนุ่มคนนั้น ก็ยิ้มให้เจิ้งว่านหาว แล้วพูดว่า “ประธานเจิ้ง ไม่ต้องเกรงใจครับ!”
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณชายตระกูลเว่ยแห่งเมืองซาเหอ และตระกูลเว่ยเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองซาเหอ รากฐานของเจิ้งว่านหาว ก็อยู่ที่เมืองซาเหอเช่นกัน ไม่กล้าล่วงเกินแน่นอน
จินเพ่ยอวิ๋นสีหน้าเย็นชา “ให้ฉันดูหน่อยสิ ใครกล้าดีมาก่อเรื่องที่นี่!”
หัวหน้าหลิวกับทุกคนรีบก้มหน้า ก้มตัวทำความเคารพ “คุณหนู เข้าใจผิดครับ เป็นเรื่องเข้าใจผิด”
จินเพ่ยอวิ๋นขมวดคิ้ว แล้วตำหนิว่า “เข้าใจผิดอะไร”
ขณะนั้น จินเพ่ยอวิ๋นเห็นเฉินโม่
“คุณ คุณเฉิน! ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้” สีหน้าจินเพ่ยอวิ๋นตกใจทันที
หัวหน้าหลิวมองเฉินโม่ แล้วมองจินเพ่ยอวิ๋น ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “คุณหนู พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ”
จินเพ่ยอวิ๋นพูดว่า “นี่คือเพื่อนฉัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เฉินโม่พยักหน้าให้จินเพ่ยอวิ๋น เป็นการตอบกลับ จากนั้นมองหัวหน้าหลิว แล้วพูดว่า “คืนบัตรธนาคารให้ฉันได้หรือยัง”
ถึงหัวหน้าหลิวจะโง่แค่ไหน ก็ดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจินเพ่ยอวิ๋นกับเฉินโม่ ไม่ธรรมดามาก
ครั้งนี้ หัวหน้าหลิวตกใจยิ่งกว่าตอนเห็นเงินห้าร้อยกว่าล้านในบัตร ไม่มีเวลาตอบคำถามจินเพ่ยอวิ๋น รีบยื่นบัตรธนาคารคืนให้เฉินโม่ด้วยสองมือ พร้อมด้วยสีหน้าประจบ “คุณ…คุณเฉิน เมื่อครู่ล่วงเกินไปมาก หวังว่าคุณจะไม่ถือสาหาความ ไม่ถือโทษโกรธเคือง!”
หัวหน้าหลิวงอเข่า จนแทบจะคุกเข่าให้เฉินโม่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก เขาคงจะคุกเข่าให้เฉินโม่ไปแล้ว
เงินเดือนสวัสดิการของที่นี่ เหนือกว่าสถานที่อื่นในอำเภอเฮยสุ่ยเป็นอย่างมาก ยังสูงกว่ามณฑลฮ่านหยาง ทุกคนต่างแย่งชิงกันมาที่นี่ เขาก็ใช้เส้นสาย เสียเงินไปมาก กว่าจะเข้ามาได้ มาถึงตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ได้ หัวหน้าหลิวก็เป็นคนเฉลียวฉลาด ไม่รู้ว่ามีตั้งกี่คนที่จ้องอิจฉาตำแหน่งของเขา ถ้าล่วงเกินเพื่อนของคุณหนู ตำแหน่งไม่มั่นคงแน่นอน ไม่แน่อาจโดนไล่ออก ถึงกระทั่งที่ต่อไป จะตายยังไงก็ไม่รู้!
ดังนั้นแค่ตอนนี้เฉินโม่ยอมอภัยให้เขา อย่าว่าแต่คุกเข่าเลย ถึงต้องเอาหัวโขกพื้น เพื่ออ้อนวอน หัวหน้าหลิวก็ยอม
อันที่จริงจินเพ่ยอวิ๋นไม่ต้องถาม ก็พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมทันที “หัวหน้าหลิว ฉันกำลังถามนายอยู่ นายไม่ได้ยินเหรอ”
หัวหน้าหลิวตกใจจนทรุดลงบนพื้น เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนเดิมทุกอย่าง ด้วยสีหน้าน้อยใจ ไม่กล้าปิดบังสักนิด และไม่กล้าใส่สีตีไข่ด้วย
สุดท้าย หัวหน้าหลิวมองรปภ.สองคน ที่โดนเฉินโม่จัดการจนล้มลงไปกับพื้น แล้วก่นด่าว่า “คุณหนู เพราะไอ้โง่สองคนนี้ ทำให้ผมเข้าใจผิดคุณเฉิน!”
รปภ.สองคนนั้นไม่ได้โง่เหมือนกัน รู้นานแล้วว่าวัยรุ่นตรงหน้า น่ากลัวกว่าประธานว่านหาว กรุ๊ปเป็นร้อยเท่า ดังนั้นจึงหักหลังเจิ้งว่านหาว
ถึงหัวหน้าหลิวจะโง่แค่ไหน ก็ดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจินเพ่ยอวิ๋นกับเฉินโม่ ไม่ธรรมดามาก
“หัวหน้าหลิว คุณหนู เรื่องนี้เราไม่ผิด เพราะหลานสาวของประธานเจิ้งบอกให้เราทำ! ไม่เกี่ยวกับเรานะครับ!” รปภ.สองคนนั้นพูดอ้อนวอนเสียงดัง
จินเพ่ยอวิ๋นหันไปมองเจิ้งว่านหาวที่มีสีหน้าอึ้งอยู่ข้างๆ