แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 184
“ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน งั้นก็ทำตามที่ฉันบอก พวกนายทั้งหมดลงไปในน้ำ หากฉันยังไม่สั่ง ถ้ามีใครกล้าถอยล่ะก็ ตายสถานเดียว !”
ใบหน้าของอู๋ไต้ซือมืดทมิฬ น้ำเสียงเย็นชา นักบู๊ต่างพากันก้มหน้าลงไม่มีแม้แต่คนกล้าแม้จะสบตา ไม่เว้นแม้แต่นักบู๊แดนในชั้นสมบูรณ์สองคนนั้น ก็ทำได้เพียงก้มหน้าด้วยความโกรธแค้นเท่านั้น พวกเขาต่างรู้ดีว่า ตนเองไม่อาจเอาชนะอู๋ไต้ซือได้
เมื่อเห็นความร้ายกาจของอู๋ไต้ซือดวงตาของเว่ยจื่อหยุนก็เกิดประกายทันที เขาหัวเราะอย่างตื่นเต้น “อู๋ไต้ซือผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าเป็นท่าน ต้องจัดการสัตว์ประหลาดได้แน่ !”
ซุนจิ้งไฉสีหน้าดูเป็นกังวล เขากำหมัดแน่นมองไปที่อายู่ “อายู่ต้องไม่เป็นอะไร !”
มู่หรงยานเอ๋อร์มองไปที่เฉินโม่ด้วยความกังวล และกระซิบบอกว่า “เฉินโม่ สัญญากับฉันสิ ว่านายจะไม่ไปชิงยาวิเศษนั่นใช่ไหม ?”
เฉินโม่มองไปที่หรงยานเอ๋อร์ ใบหน้าเรียวงามดูจะเป็นกังวล เขามองด้วยสายตาอ่อนโยน “อย่ากังวลไปเลย ฉันไม่ทำอะไรที่ฉันไม่มั่นใจหรอก !”
แน่นอนว่าเฉินโม่จะไม่ยอมทิ้งพรุนแดงสามใบแน่ แต่การที่เขาจะได้มันมา เขาก็มีความมั่นใจอยู่เต็มที่ และนี่ก็ไม่ได้เป็นการโกหกมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วย
แต่ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ไม่ได้รู้เรื่องนี้ เพียงแค่เฉินโม่ให้คำมั่นสัญญากับเธอ เธอก็มีความสุขจนหยุดไม่อยู่แล้ว
อู๋ไต้ซือเหลือบมองทุกคน และพูดอย่างเย็นชา”ทั้งหมดลงน้ำได้ !”
นักบู๊ต่างมองหน้ากันและกัน ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งอู๋ไต้ซือทำได้เพียงค่อย ๆ เดินลงบึงด้วยความไม่เต็มใจ บ้างก็ถืออาวุธที่คิดว่าจะพอมีประโยชน์ที่สุดลงไปด้วย
อู๋ไต้ซือยืนอยู่บนฝั่งคอยสั่งการทุกคนด้านหน้า เขาตะโกนเสียงดังด้วยใบหน้าอันชั่วร้าย “ไม่มีคำสั่งฉัน หากใครกล้าถอยแม้แต่ครึ่งก้าว มันต้องตาย !”
“พวกนายวางใจเถอะ หากฉันได้ยาวิเศษมา ฉันจะนำพรุนแดงมาสกัดเป็นโอสถสีชาดแบ่งให้กับพวกนายทุกคน !” อู๋ไต้ซือเกรงว่าทุกคนจะไม่พยายามอย่างเต็มที่ จึงบอกเรื่องผลประโยชน์ไป
ผลลัพธ์ คือ ฝีเท้าของทุกคนเร็วขึ้นอีกหนึ่งขั้น
ในชั่วพริบตา ทุกคนเดินลงไปในบึงได้ไกลกว่าห้าเมตร ระดับน้ำในบึงลึกจนถึงระดับเอว แต่ก็ยังไร้วี่แววของสัตว์ประหลาด ความหวาดระแวงนี้สร้างความทรมานให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
อายู่เดินตามหลังทุกคนไป ในใจนึกเสียใจอย่างยิ่ง รู้อย่างนี้คงไม่ลงมาในบ่อโคลนนี่หรอก
น้ำในบึงลึกมาถึงระดับอก นักบู๊หยุดฝีเท้าลง ไม่มีใครกล้าเดินต่อไปข้างหน้า ถ้าลงลึกไปมากกว่านี้ พวกเขาจะไม่สามารถใช้กำลังกายได้แล้ว และหากถูกสัตว์ประหลาดโจมตี คงมีแต่ตายเท่านั้น
อู๋ไต้ซือพูดอย่างเย็นชา “เดินไปข้างหน้าอีกหน่อย แบบนี้จะล่อมันออกมาแบบนี้ได้ยังไง”
ทุกคนหมดหนทางต้องเดินหน้าต่อ แต่เมื่อระดับน้ำจมมาถึงคอ ก็ไม่มีใครกล้าก้าวต่อไปข้างหน้า
บนชายฝั่ง ซุนจิ้งไฉมองไปยังอายู่ที่เหลือเพียงแค่ศีรษะโผล่พ้นน้ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เขากำสองหมัดแน่น นึกเสียใจที่มายังเขาหลิงอู่นี้
เฉินโม่ยังคงดูสงบนิ่ง คอยอยู่เคียงข้างมู่หรงยานเอ๋อร์ แต่บางครั้งเขาก็จะเหลือบมองลงไปในบึงน้ำบ้างเป็นครั้งคราว
“อ๊ากกก !”
ทันใดนั้น นักรบวัยกลางคนที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ร้องออกมาเสียงดัง เขายกมีดยาวในมือขึ้น และฟาดลงด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ปัง !
ร่างของเขาถูกกระแทกเข้าอย่างแรง ปลิวตกลงไปบนฝั่ง เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก
อู๋ไต้ซือตะโกนขึ้นเสียงดัง “โจมตี !”
นักบู๊หลายสิบคนตอบสนองทันที ใช้พละกำลังทั้งหมดพุ่งเข้าไปยังจุดที่ชายวัยกลางคนเมื่อสักครู่ยืน หมัด เท้า ดาบ และมีด ถูกใช้ออกสารพัด พลังลมปราณแผ่รัศมีไปทุกทิศทุกทาง น้ำกระเซ็นขึ้นสูงกว่าสิบเมตร
ตึ้ง !
ทันใดนั้น สัตว์ขนาดยักษ์ที่มีร่างกายเป็นสีเหลืองทองก็พุ่งขึ้นมาจากน้ำ ปากยาวแหลมสีทองอ้าออกหันไปยังกลุ่มคน
อู๋ไต้ซือตะโกนทันที “ถอยออก ! ขณะถอยก็โจมตีไปด้วย ล่อมันขึ้นมาบนฝั่ง !”