แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 189
มู่หรงยานเอ๋อร์หน้าซีดด้วยความตกใจ เฉินโม่ปรากฏตัวออกมาแบบนี้ไม่ต่างกับการรนหาที่ตายหรอกหรือ ?
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเฉินโม่เก่งในการต่อสู้ แต่พวกก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ผิดกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าเธอ ล้วนเป็นนักบู๊ที่ท่องยุทธภพมาหลายสิบปี ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินโม่อย่างแน่นอน “เฉินโม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย รีบหนีไปเร็ว !”
เฉินโม่ฉีกยิ้มเบา ๆ หันไปทางมู่หรงยานเอ๋อร์ “ยานเอ๋อร์ อย่าได้กลัวไป เธอจำสิ่งที่ฉันพูดกับเธอได้หรือไม่ ว่าฉันจะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด !”
มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะจำมันได้ เธอก็คิดว่าเฉินโม่เพียงแค่พูดเล่นให้เธอพอใจเท่านั้น เธอไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะสามารถจัดการกับอู๋ไต้ซือได้เลย
“เข่อเยว่พูดถูก เฉินโม่ นายชอบทำตัวกล้าหาญอะไรนัก !” ในใจของมู่หรงยานอ๋อร์กังวลจนถึงขีดสุด
ซุนจิ้งไฉมองไปยังเฉินโม่ด้วยใบหน้าละอายใจ ตลอดทางเขาพยายามเฝ้าระวังเฉินโม่มาโดยตลอด ไม่คิดว่าในวินาทีสุดท้ายจะเป็นเฉินโม่ที่ออกมาช่วยเหลือเขา
เฉินโม่มองไปยังอู๋ไต้ซือฉีกยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “คนของพรรคภูตผีถูกฉันฆ่าตายไปแล้วสองคน บอกฉันหน่อยสิ ว่านายอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินโม่ อู๋ไต้ซือถึงกับตกตะลึง !
อู๋ไต้ซือมองเฉินโม่ด้วยด้วยความโกรธแค้น “ที่แท้เฉินไต้ซือก็คือแก ! ฉันกำลังจะตามหาแกอยู่แท้ ๆ ไม่นึกเลยว่าแกจะมาหาฉันเองถึงที่ เพื่อแก้แค้นให้แก่พี่น้องของฉัน ฉันจะจับวิญญาณแกขังทรมานจนชั่วกัปชั่วกัลป์ !”
เมื่อเห็นว่าอู๋ไต้ซือกำลังจะลงมือ มู่หรงยานเอ๋อร์ที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ก็ตะโกนด้วยความสิ้นหวัง “อู๋ไต้ซือช้าก่อน ฉันยอมรับเงื่อนไขของท่าน ขอแค่ท่านปล่อยเฉินโม่กับลุงของฉันไป ฉันสัญญาว่าจะเชื่อฟังคำสั่งท่าน !”
หลังจากพูดจบ น้ำตาแห่งความอัปยศก็เอ่อล้นใบหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์ !
“ไร้สาระ ยานเอ๋อร์ นี่เธอกำลังพูดไร้สาระอะไรน่ะ !” ซุนจิ้งไฉโกรธจัด ดึงตัวมู่หยงยานเอ๋อร์ไปหลบข้างหลังเขา
เฉินโม่มองไปที่มู่หรงยานเอ๋อร์ หัวใจของเขาก็เกิดความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น
ทันใดนั้นเฉินโม่ก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกผูกพันที่มีกับมู่หรงยานเอ๋อร์ หัวใจของเขาเจ็บแปลบราวกับถูกแทง เหตุการณ์เบื้องหน้าดูคุ้นเคยราวกับเคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทันใดนั้น ใบหน้าเรียวงามกับดวงตาสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ก็ปรากฏขึ้น แววตาของคนที่ต้องผูกพันแต่ต้องบอกลากันอย่างไม่เต็มใจ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเฉินโม่อย่างมาก
“ศิษย์น้องหญิง !”
เฉินโม่หลับตาแน่น เสียงคำรามดังกึกก้องภายในจิตใจของเขา ลมหายใจแห่งความสิ้นหวังแผ่พุ่งออกมา ต้นสนที่อยู่ใกล้ ๆ เฉาตายในทันที
จะเป็นหรือตายก็เพียงแค่นึกคิดเท่านั้น
นับตั้งแต่เกิดใหม่ อดีตอันน่าเศร้าที่ถูกผนึกไว้ของเฉินโม่ เพิ่งจะถูกกระตุ้นออกมาเป็นครั้งแรก
ใครที่มาหาเรื่องผิดกับเขา ต้องไม่ตายดี !
ทันใดนั้น เฉินโม่ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเทา ราวกับฟ้าดินกำลังสลาย ทำลายล้างทุกสิ่งสิ้น “พวกแกทั้งหมดต้องตาย !”
ร่างของเฉินโม่ปกคลุมไปด้วยพลังอันกล้าแกร่ง เขาวาดเส้นอักขระบนความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว ไม่นานยันต์อัสนีก็เสร็จสมบูรณ์
เฉินโม่เอื้อมมือออกไปคว้ามันไว้ พลังซี่ทิพย์หลั่งไหลออกมา ยันต์อัสนีทำงานทันที
“อัสนีฟาดฟัน !”
เปรี้ยง !
บนท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง จู่ ๆ ก็เกิดฟ้าแลบขึ้น ทันใดนั้นสายฟ้าขนาดมหึมาที่มีรูปร่างเหมือนกับงูยักษ์ ก็พุ่งลงมาในมือของเฉินโม่
“ตายซะ !”
เฉินโม่ขว้างมันออกไปอย่างรุนแรง สายฟ้าพุ่งออกไปราวกับมีชีวิต ตรงดิ่งเข้าหาอู๋ไต้ซือ!
เมื่อเห็นสายฟ้าในมือเฉินโม่ ใบหน้าของอู๋ไต้ซือก็ถอดสี กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว “ท่านเทียนซือโปรด ไว้ชีวิตฉันด้วยเถิด !”
เปรี้ยง !
ฟูวว…..
สายฟ้าฟาดใส่อู๋ไต้ซืออย่างแม่นยำ
ราวกับจุ่มเหล็กกล้าลงน้ำ ร่างของอู๋ไต้ซือถูกเผาจนควันฟุ้ง ล้มลงไปนอนกับพื้น
ในครั้งนั้น ที่เฉินโม่สังหารชิวอู๋มิ่งและหวางหย่งซาน เขาเพียงแค่ใช้เคล็ดเชิญสายฟ้าที่ธรรมดาที่สุดในโลกบำเพ็ญเซียนเท่านั้น เป็นการเรียกสายฟ้าโดยใช้เพียงการประสานมือ
แต่ในครั้งนี้ เพื่อจัดการกับอู๋ไต้ซือซึ่งมีพลังวัตรมากกว่าทั้งคู่ เฉินโม่ใช้พลังยันต์อัสนีที่แรงกว่าเคล็ดเชิญสายฟ้าถึงสิบเท่า
อู๋ไต้ซือมีพลังวัตรสูงกว่าชิวอู๋มิ่งเล็กน้อย แต่ก็ยังห่างชั้นกับผู้นำตระกูลหลินนัก จึงถูกสังหารได้ภายในกระบานท่าเดียว
เหล่านักบู๊มองไปยังเฉินโม่ราวกับเป็นเทพเจ้าสายฟ้า ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในสายตาของพวกเขา อู๋ไต้ซือสังหารนักบู๊แดนในสมบูรณ์ได้ภายในด้วยกระบวนท่าเดียว เขาในตอนนี้ไม่ต่างกับปรมาจารย์ !