แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 206
ไอมีดคุกเข่าลงข้างเดียว พูดตอบอย่างเคารพว่า :”ครับ ผมจะนำไปบอกท่านฉู่แน่นอน”
เฉินโม่มองดูกว่าหลายศพที่นอนอยู่ในร้านอาหาร พูดอย่างนิ่งๆว่า : “แกจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย ทางที่ดีอย่างทำให้เรื่องถึงหูตำรวจ ฉันยังไม่อยากเจรจาต่อรองกับทางการ ”
ไอ้มีดขมวดคิ้ว คนตายเยอะขนาดนี้ เกรงว่าต้องจ่ายเงินไม่น้อยเลยถึงจะทำให้เรื่องเงียบได้ แต่เขากลับว่าไม่กล้าบ่นแม้แต่น้อย
“ครับ เฉินไต้ซือวางใจได้ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน”
เฉินโม่มองไปยังเจี่ยงหยาวแวบหนึ่ง พูดนิ่งๆว่า : “ช่วงเวลานี้ที่ฉันไม่อยู่ ข้าวของทุกอย่างที่ครอบครัวพวกเขาเสียหาย ชดใช้ 10 เท่า”
ไอ้มีดรีบพยักหน้าทันที : “ครับ ผมจะรีบหาหน้าร้านที่ดีที่สุด ให้ครอบครัวพวกเขา รับรองว่าต่อไปพวกเขาอยู่ที่อู่โจวไม่มีใครกล้ามาคุกคามแน่นอน”
เฉินโม่พยักหน้า เตรียมออกไป
แต่ว่า เดินไปได้สองก้าว เฉินโม่มองมายังจางหู่ที่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย
เฉินโม่ที่เดิมทีสีหน้าเย็นชาก็ค่อยๆบรรเทาลง: “นายทำได้ไม่เลวเลย”
พวกจางหู่ทั้งสามคนสีหน้าหวาดหวั่นทันที : “คุณเฉิน จางหู่ไร้ความสามารถ ทำหน้าที่ตามคำสั่งของคุณเฉิน”
เฉินโม่มองไปยังไอ้มีดอีก พูดกล่าว : “บอกฉู่เหวินสง ให้มอบเขตควบคุมหนึ่งในสามของอู่โจวให้เขา ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นกับเขา ให้ฉู่เหวินสงถือศีรษะมาพบฉัน”
“รับทราบ!”
ไอ้มีดและพวกลูกสมุนรู้สึกช็อกในใจ มองไปยังจางหู่ด้วยความอิจฉา เขตควบคุมหนึ่งในสามของอู่โจว ยังต้องได้รับการคุ้มครองจากลูกพี่ฉู่ ต่อไปผู้มีอิทธิพลในอู่โจว เกรงว่าต้องเพิ่มมาอีกคนแล้ว
สหายทั้งสองคนนั้นของจางหู่ตบไหล่จางหู่ด้วยความดีใจ : “พี่เสือ ยินดีด้วย!”
จางหู่สีหน้าเฉื่อยชา ไม่กล้าเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง ความฝันตั้งแต่เด็กของเขาก็คือสักวันหนึ่งจะได้กลายมาเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาในโลกใต้ดินของอู่โจว แต่จนกระทั่งถึงตอนนี้เขาไม่ได้เข้าร่วมโลกใต้ดินที่แท้จริง ทำได้แค่เป็นหัวหน้ากุ๊ยข้างถนน
ตอนนี้ จางหู่บรรลุถึงผลสำเร็จเพียงชั่วเวลาสั้นๆ กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในอู่โจวที่อยู่ภายใต้ฉู่เหวินสงคนเดียว และอยู่เหนือคนนับหมื่น
เมื่อเทียบกับความฝันของจางหู่ ใหญ่กว่าหลายร้อยเท่าพันเท่า
“ขอบคุณคุณเฉินมาก!”ในใจของจางหู่ตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่าเลือกที่จะเชื่อคุณเฉิน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต
เฉินโม่พยักหน้า มองไปที่เจี่ยงหยาวอีกครั้ง ยิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดว่า : “ฉันยังมีธุระอีกต้องขอตัวก่อน พวกคุณต้องการอะไรก็สั่งเขาได้เลย ถ้าหากเจอปัญหา อย่าลืมโทรมาหาฉันเลยทันที”
ไอ้มีดรีบเผยยิ้มทันที มองไปยังครอบครัวของเจี่ยงหยาว
เจี่ยงหยาวค่อนข้างอาลัยอาวรณ์ แต่เธอรู้ว่าเฉินโม่ไม่ใช่คนธรรมดา มีเรื่องของตัวเองต้องทำ เธอช่วยเฉินโม่ไม่ได้ ทำได้เพียงพยายามไม่ไปสร้างปัญหาเพิ่มให้เฉินโม่
“พี่เฉินโม่ไว้เจอกันใหม่ค่ะ!”
โบกมือ เฉินโม่เดินออกไปอย่างเงียบๆ
เฉินโม่กลับว่าไม่ได้ไปหาเฉินซงจื่อและพวกเลย แต่กลับมายังลานชุมชนเมืองแล้ว เข้าไปในห้องของตัวเอง นั่งขัดสมาธิที่ตำแหน่งของค่ายกลรวมพลังทิพย์
ผลลัพธ์ของค่ายกลรวมพลังทิพย์หายไปแล้ว ก็มาถึงช่วงของการเปลี่ยนหินหยก แต่ว่าเฉินโม่ไม่มีเวลาจัดวางขึ้นมาใหม่ และหยิบกระบี่ฟ้าดวงชะตาที่ได้มาจากงานประมูลใต้ดินเล่มนั้นออกมาแล้ว
ออกจากเขาหลิงอู่ เฉินโม่ฝึกร่างธาตุทองจนสมบูรณ์แบบ ด้านผลฝึกตนก็ประสบความสำเร็จก้าวเข้าสู่ชั้นสามแดนรวมพลัง
ชั้นสามแดนรวมพลัง มีกายสิทธิ์ของตัวเอง
ผู้บำเพ็ญเมื่อเข้าสู่ชั้นสามแดนรวมพลัง ตัวเองก็จะปรากฏกายสิทธิ์อย่างหนึ่งออกมา อย่างเช่นการล่องหนของกายสิทธิ์ระดับต่ำ เคลื่อนไหวซ่อนตัวเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกายสิทธิ์ระดับกลาง กายสิทธิ์ระดับสูง แต่ว่าส่วนใหญ่ผู้บำเพ็ญที่เพิ่งถึงชั้นสามแดนรวมพลังล้วนแต่เป็นกายสิทธิ์ระดับต้น ค่อนข้างไม่มีคุณค่า
ชาติก่อน กายสิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกของเฉินโม่คิดไม่ถึงว่าคือมองทะลุปรุโปร่ง ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย ครั้งนี้ เฉินโม่เตรียมละทิ้งกายสิทธิ์ของตัวเอง เลือกที่จะฝึกฝนกายสิทธิ์ระดับสูง
แม้ว่ากายสิทธิ์ที่ได้รับมาอิงจากการฝึกฝน ไม่ได้มีอยู่ในตัวเองตามธรรมชาติ แต่ว่าข้อดีคือสามารถเลือกประเภทของกายสิทธิ์ได้ ถ้าเกิดปรากฏการมองทะลุปรุโปร่ง เฉินโม่เกรงว่าจะหดหู่ตายพอดี
กายสิทธิ์ที่เฉินโม่เลือก ก็คือกายสิทธิ์กระบี่ฟ้า หลังจากฝึกฝนกายสิทธิ์นี้ก็จะได้รับวิธีการส่วนใหญ่ของเซียนกระบี่ ควบคุมกระบี่ฟ้า กระบี่เดียวทำลายสรรพสิ่ง