แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 222
บทที่ 222
ด้านล่าง คือหลินเสวี่ยและแม่ของเธอที่นอนหมดสติด้วยความอิดโรย
จู่ๆกุยโหย่กวงก็เผยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมออกมา เขาหมุนแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ และพูดด้วยน้ำเสียงที่แก่ชรา:”ในที่สุดคุณก็มาถึง”
ด้านในตำหนักใหญ่ เฉินโม่ยืนมองดูทั้งหมดอย่างเงียบๆ สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมาทันที
“วิชาดูดหยินเติมเต็มหยาง เป็นวิชาโหดเหี้ยมมากๆและไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ฝึกบู๊ทุกยุคทุกสมัยเลย คุณไม่ได้เอาแค่พลังหยินจากร่างกายของพวกเธอเท่านั้น แม้แต่จิงชี่ของพวกเธอ คุณก็ไม่ละเว้นเช่นกัน วิชาที่อำมหิตขนาดนี้ แม้แต่โลกฝึกบู๊ก็คงไม่ปล่อยคุณไว้อย่างแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่คุณหลบอยู่ในที่ห่างไกลและรกร้างขนาดนี้”
กุยโหย่กวงรู้สึกตกใจเล็กน้อย:”เด็กหนุ่ม คิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณมองเพียงแค่ครั้งเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าฉันฝึกฝนวิชาอะไรอยู่! ไม่แปลกใจเลยที่เด็กหนุ่มอย่างหลินสุ่นจะตายด้วยน้ำมือของคุณ คุณเป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“แต่คุณพูดผิดไปเรื่องหนึ่ง ฉันไม่ได้หลบอยู่ตรงนี้ เพียงแต่ฉันไม่อยากออกไปเท่านั้น ตรงนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีสาวงามจำนวนมากให้ฉันได้เชยชม ตรงนี้คือสวรรค์บนดินชัดๆ ทำไมฉันยังต้องออกไปด้วย?”
“พูดกันตามตรง ถ้าฉันอยากจะออกไป ใครสามารถขวางทางฉันได้เหรอ!”เมื่อพูดจบ สีหน้าของกุยโหย่กวงเคร่งขรึมและแสดงความเย่อหยิ่งอวดดีออกมาทันที
ใต้ฝ่าเท้าของกุยโหย่กวง เดิมทีหลินเสวี่ยที่นอนหมดสติด้วยความอิดโรย ตอนนี้เธอเงยหน้าขึ้นมาและมองเฉินโม่ที่อยู่ในตำหนักใหญ่ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอิดโรย:”นายท่าน ช่วยฆ่าไอ้เดรัจฉานคนนี้ เพื่อแก้แค้นให้ฉันกับแม่ด้วย!”
กุยโหย่กวงหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม เขากระชากศีรษะของหลินเสวี่ยและยกตัวเธอขึ้นมา:”เด็กหนุ่มอย่างหลินสุ่นชอบซ่อนของดีเอาไว้ ไม่ยอมยกสาวสวยอย่างเธอมาให้ฉัน หลายวันมานี้ฉันได้ประโยชน์จากร่างกายของเธอมาไม่น้อย คิดไม่ถึงจริงๆว่าพลังหยินที่อยู่ในร่างกายของเธอจะบริสุทธิ์ขนาดนี้ เธอในฐานะนักบู๊แดนใน จิงชี่ในร่างกายก็มีเยอะกว่าผู้หญิงธรรมดาอยู่แล้ว ฉันต้องขอบคุณมากๆที่ส่งของขวัญชิ้นนี้มาให้ฉัน ”
ร่างกายของหลินเสวี่ยแข็งแกร่งขึ้นเพราะยาเสริมจิต แน่นอนว่าร่างกายของเธอแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว แม้แต่นักบู๊แดนในขั้นสูงสุดก็คงเทียบเธอไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าคนที่ได้ผลประโยชน์จากร่างกายของเธอคือไอ้สารเลวคนนี้
สีหน้าของเฉินโม่เย็นชามากๆ สายตาของเขามีแต่รังสีฆ่าฟัน:”คุณสมควรตายจริงๆ!”
กุยโหย่กวงหัวเราะเสียงดังออกมา:”หลายสิบปีก่อนก็เคยมีคนพูดแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันยังมีชีวิตรอดอยู่ แต่คนที่สาปแช่งฉัน มันตายไปตั้งนานแล้ว”
“นั้นเป็นเพราะก่อนหน้านี้คุณไม่เคยเจอฉันต่างหาก”
เมื่อเฉินโม่พูดจบก็ก้าวเท้าออกมาทันที วินาทีต่อมา เขาก็มาถึงด้านหน้าของกุยโหย่กวงแล้ว
ตูม!
หมัดที่เต็มไปด้วยความโกรธ โจมตีใส่กุยโหย่กวงทันที การโจมตีครั้งนี้ เขาโจมตีด้วยท่าที่หนึ่งของหมัดเทพเทียนเสวียน สยบขุนเขา
สีหน้าของกุยโหย่กวงเปลี่ยนไปทันที เขาทิ้งหลินเสวี่ยเอาไว้และถอยหนีทันที
ตูม!
เก้าอี้ด้านหน้าสุดโดนหมัดของเฉินโม่จนแตกเป็นเสี่ยงๆ
เฉินโม่ไม่ได้ไล่ตาม เขาพยุงหลินเสวี่ยขึ้นมาและเอายาเสริมจิตหนึ่งเม็ดให้เธอทันที
“รีบกินโอสถและเริ่มฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเดี๋ยวนี้”
สีหน้าของหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง:”ขอบคุณนายท่านมากๆ! ฉันอยากจะให้นายท่านลงมือช่วยแม่ของฉันด้วย!”
เฉินโม่มองดูหญิงวัยกลางคนที่นอนอยู่ข้างๆหลินเสวี่ย เธอคล้ายกลับหลินเสวี่ยมากๆ ถึงแม้จะมีอายุแต่ก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆเช่นกัน
เฉินโม่ไม่ได้ลังเลเลย เขาหยิบยาเสริมจิตอีกหนึ่งเม็ดให้หลินเสวี่ย สำหรับนักบู๊แล้ว ยาเสริมจิตสามารถเพิ่มพลังและทำให้เส้นลมปราณกว้างขึ้น แต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว ยาเสริมจิตสามารถทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
เฉินโม่มองครั้งเดียวก็รู้ทันที แม่ของหลินเสวี่ยโดนกุยโหย่กวงดูดซับพลังหยินกับจิงชี่มาหลายปี ทำให้เลือดลมของเธอหายไปเยอะมากๆ ยาเสริมจิตสามารถรักษาชีวิตของเธอได้
กุยโหย่กวงพูดด้วยความโกรธ:”เด็กหนุ่ม คุณไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีฉันจริงๆ เป้าหมายของคุณคือช่วยชีวิตพวกเธอสองคน”
เฉินโม่ยิ้มเบาๆและพูด:”คุณยังพอมีความฉลาดอยู่บ้าง”
สายตาที่หลินเสวี่ยมองไปที่เฉินโม่ด้วยความซาบซึ้งใจมากๆ
“เด็กหนุ่ม ฉันจะฆ่าคุณให้ได้”กุยโหย่กวงโกรธมากๆ เขาอยู่มาร้อยกว่าปี นี่คือครั้งแรกที่มีคนกล้าแกล้งเขาแบบนี้
เฉินโม่สองมือไขว้หลัง พูดด้วยสีหน้าปกติ:”มันก็ต้องดูว่าคุณมีความสามารถพอหรือเปล่า!”