แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 232
บทที่ 232
ใบหน้าของเฉินโม่เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก เขาชอบเอาศีรษะไปแนบชิดกับหน้าอกอันใหญ่ของเวินฉิงตลอด การกระทำทุกครั้งของเขา ทำให้เวินฉิงหน้าแดงและหัวใจเต้นเร็ว
เฉินโม่เผยรอยยิ้มออกมาและเรียกเบาๆ:”พี่เวินฉิง!”
เวินฉิงมองมายังทิศทางของเสียง จู่ๆเธอก็อึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดด้วยความดีใจ:”เสี่ยวโม่ นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อพูดจบ เวินฉิงรีบเดินเข้ามาทันที รองเท้าส้นสูงสีขาวกระแทกพื้นจนเกิดเสียงสะท้อนทันที
เวินฉิงเดินเข้ามาและกอดเฉินโม่ทันที จากนั้นก็ลูบศีรษะของเฉินโม่เบาๆ และพูดด้วยความอ่อนโยน:”มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่โทรศัพท์มาหาฉันก่อน?”
เวลาผ่านไปหกร้อยปีแล้ว เฉินโม่รู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้ง ทำให้เขาเกือบจะควบคุมจิตใจไม่ได้!
ไม่มีใครรู้เลย เพื่อปกป้องเฉินโม่ ตอนที่เวินฉิงแต่งงานกับศัตรูอย่างตระกูลว่าน ตอนนี้เฉินโม่เสียใจมากๆ
ชาติที่แล้วเฉินโม่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เหตุผลหลักเพราะเขารู้ว่าเวินฉิงแต่งงานกับศัตรูที่ชื่อว่านเหวินโยว
ถึงแม้เฉินโม่ฝึกฝนถึงแดนดั่งเทพ แต่เวินฉิงคือความเจ็บปวดที่เฉินโม่ไม่สามารถลบออกจากชีวิตของเขาได้
เมื่อกอดเวินฉิงอยู่ สายตาของเฉินโม่แน่วแน่มากๆ:”พี่เวินฉิง ชาติที่แล้วพี่คอยปกป้องฉัน ชาตินี้ ฉันจะเป็นคนที่คอยปกป้องพี่เอง!”
เฉินโม่ปล่อยมือทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม:”เดิมทีอยากจะมาเซอร์ไพรส์พี่กับแม่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าต้องนัดล่วงหน้าด้วย ขณะที่ฉันกำลังจะโทรหาคุณแม่ ฉันก็มองเห็นพี่เดินเข้ามา”
เวินฉิงจ้องเขม็งพนักงานหญิงต้อนรับทันที และพูดอย่างเขินอาย:”นี่คือกฎระเบียบของบริษัท นายมาบริษัทน้อยมากๆ พวกเขาไม่รู้จักนายก็เป็นเรื่องธรรมดา”
“แต่ตอนนี้นายคงเจอประธานกรรมการหลี่ไม่ได้ เพราะเธอออกไปหา……คุยธุรกิจ ไม่รู้จริงๆว่าวันนี้จะกลับมาไหม?”คำพูดของเวินฉิงนั้นมีอะไรปิดบังอยู่
เฉินโม่สังเกตเห็นทันที แต่เขาไม่ได้พูดมันออกมา:”ไม่เป็นไร ครั้งนี้ฉันคิดว่าจะอยู่ที่นี่สองสามวัน ฉันไม่รีบอยู่แล้ว”
“โอเค ฉันจะไปเตรียมห้องพักให้นายก่อน”เวินฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันยังมีเพื่อนมาด้วยหลายคน ต้องรบกวนพี่เวินฉิงเตรียมห้องพักให้พวกเขาด้วย”เฉินโม่กวักมือเรียกเฉินซงจื่อและคนอื่นๆที่นั่งอยู่ในโซนพักผ่อน ทั้งสามคนรีบเดินมาทันที
เมื่อมองเห็นเฉินซงจื่อที่ใส่ชุดนักพรต ทำให้เวินฉิงตกตะลึงทันที แต่เธอก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเธอมองเห็นเอียนชิงเฉิง ทำให้เวินฉิงตกใจจนอ้าปากค้าง
“เสี่ยวโม่ ผู้หญิงคนนี้คือ?”เวินฉิงเผยรอยยิ้มออกมาและถาม
เฉินโม่พูดเบาๆ:”พี่อย่าเข้าใจผิด เธอเป็นเพื่อนนักเรียนของฉัน”
ผู้ชายวัยรุ่นที่ยืนอยู่ด้านหลังเวินฉิง เขาสังเกตเห็นเอียนชิงเฉิงมานานแล้ว เมื่อมองเห็นเฉินโม่เป็นคนพาเอียนชิงเฉิงมาที่นี่ สายตาของเขามีแต่ความอิจฉา
“เสี่ยวฉิง คนๆนี้คือลูกชายที่ไม่เอาไหนของประธานกรรมการหลี่ใช่ไหม?”
สีหน้าของเวินฉิงเย็นชาขึ้นมาทันที เธอจ้องเขม็งผู้ชายคนนั้นด้วยความโกรธจนหน้าอกของเธอสั่นไหว:”ฉือรุ่ยปิง ระวังคำพูดของคุณให้ดีๆ ให้เรียกชื่อเต็มของฉัน! ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ห้ามพูดจาดูถูกเสี่ยวโม่!”
ฉือรุ่ยปิงหรี่ตาอันบวมของตัวเองทันที เขามองหน้าเฉินโม่และพูดอย่าดูถูก:”ตั้งแต่เรียนชั้นประถมเป็นต้นมาก็ได้อันดับสุดท้ายของโรงเรียนมาโดยตลอด จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเข้าเรียนประถมปลาย แต่ก็ยังได้อันดับสุดท้ายของโรงเรียนเหมือนเดิม เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์เหรอ?”
“คุณ!”เวินฉิงโกรธมากๆ แต่เธอกลับคิดไม่ออกว่าจะพูดแก้ตัวยังไง
ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีพ่อเป็นผู้ถือหุ้น เวินฉิงคงเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยลากตัวเขาออกไปแล้ว
เฉินโม่สองมือไขว้หลังและมองฉือรุ่ยปิงอย่างเงียบๆ ในความทรงจำของชาติที่แล้ว เฉินโม่ยังจำคนๆนี้ได้ เขาเป็นลูกชายของผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของเหม่ยหวากรุ๊ป และเขาก็ชอบเวินฉิงมาโดยตลอด
ต่อมาเมื่อเฉินโม่เข้ามาบริหารเหม่ยหวากรุ๊ปแล้ว ตระกูลฉือก็ร่วมมือกับคู่แข่งและใส่ร้ายป้ายสีเฉินโม่ การที่เหม่ยหวากรุ๊ปถูกคู่แข่งอย่างตระกูลว่านโจมตีจนต้องล้มละลายก็เพราะได้ตระกูลฉือคอยช่วยเหลือ