แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 250
บทที่ 250
ยังไม่ทันเดินไปได้กี่ก้าว จู่ ๆ ด้านหน้าก็มีกลิ่นไหม้โผล่ออกมา พร้อมกับคนตะโกนเสียงดังลั่น “รีบมาดูเร็ว อาคารไอค์ไฟไหม้แล้ว !”
เมื่อเห็นตึกสูงสามสิบชั้นข้างหน้าห่างออกไม่กี่ลี้ เกิดไฟไหม้ลุกโชนจากอาคารชั้นที่สิบห้าขึ้นไปจนอาคารครึ่งนึงถูกไฟลุกท่วม
ทันใดนั้นเอง เสียงไซเรนก็ดังไปทั่วทั้งเมือง !
รถดับเพลิงรีบวิ่งเข้าไปยังที่เกิดเหตุทีละคัน ๆ อย่างเร่งรีบ มีหนึ่งคันที่เพิ่งจะขับผ่านพวกเฉินโม่ไป กลุ่มคนแออัดค่อย ๆ ขยับทางออก
บางคนถอยออกห่างจากตึกสูง แต่บางคนที่ชอบอยากรู้อยากเห็นก็รีบเข้าไปใกล้ ๆ หาความสนุกดู
เฉินโม่เองก็เดินตามไปเช่นกัน เพื่อไปดูว่าจำเป็นที่เขาจะต้องให้การช่วยเหลือหรือเปล่า
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ รอบตึกห้าสิบเมตรถูกขึงไว้ด้วยเทปนิรภัย ทั่วทั้งตึกที่เหลือเริ่มจะเกิดการลุกไหม้ บันไดปีนหลายอันยื่นออกไปกลางอากาศ นักผจญเพลิงฝ่าอันตรายถือสายยางดับเพลิงเข้าไปดับไฟ
เปลวไฟลุกลาม ปรากฏเสียงปะทุของเปลวไฟ เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ติดอยู่ในตึก และเสียงร้องอุทานด้วยความตกใจ
วัตถุที่ถูกเพลิงไหม้หล่นลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างร้องออกมาด้วยความตกใจจนต้องเผลอถอยหลังออกมา
ทีมนักผจญเพลิงสั่งอพยพผู้ที่หลบหนีออกมาจากอาคารได้สำเร็จ ส่วนอีกสองทีมที่เหลือก็รีบเร่งเข้าไปยังภายในอาคาร เพื่อช่วยเหลือคนที่อยู่ด้านในออกมา
เฉินโม่เดินเข้าไปยังจุดสั่งการชั่วคราวของนักผจญเพลิง เขามองไปยังชายวัยกลางคนที่ขนาดรองเท้ายังสวมผิดข้างกำลังออกคำสั่งอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเน้นย้ำ ว่าจะต้องรับประกันเรื่องความปลอดภัยของคนในตึกไว้ให้ได้
แต่น่าเสียดาย ที่บันไดจากทีมนักผจญเพลิงขึ้นไปได้สูงสุดเพียงแค่ชั้นสิบเจ็ดเท่านั้น ไม่สามารถขึ้นไปสูงมากกว่านี้ได้อีก
สมาชิกนักดับเพลิงคนหนึ่งที่ถูกรมควันวิ่งเข้ามาด้วยลมหายใจที่ติดขัด เขาพูดออกมาว่า “หัวหน้า สาเหตุของเพลิงไหม้ตอนนี้ถูกตรวจสอบจนแน่ชัดได้แล้วว่าเกิดจากผนังฉนวนของอาคารที่มีอายุมากแล้ว จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ตอนนี้ไฟได้ลามเข้าไปถึงด้านในตัวอาคารแล้ว บันไดที่ยื่นออกไปของพวกเราสามารถช่วยชีวิตคนที่อยู่ต่ำกว่าชั้นยี่สิบได้เท่านั้น เกรงว่าชั้นที่อยู่สูงกว่านั้นจะ….”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเย็นเฉียบลงทันที “จัดกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ให้คอยออกคำสั่งอพยพคนอยู่ด้านล่าง ส่วนคนอื่น ๆ ตามฉันขึ้นไปด้านบน ทนไหวได้นานแค่ไหนก็แค่นั้น !”
“ไม่ได้นะหัวหน้า คุณต้องอยู่สั่งการที่นี่ คุณจะเข้าไปด้านในไม่ได้ ถ้าคุณไปผมจะไปด้วย !” หนุ่มที่มีแผลไฟไหม้อยู่บริเวณคางข้าง ชายวัยกลางคนพูดเสียงดัง
“ไม่ต้องสั่งการแล้ว มากับฉันให้หมด !” หัวหน้าวัยกลางคนตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็เข้าไปด้านในทันที
สมาชิกอีกหลายคนตามหลังชายวัยกลางคนเข้าไปอย่างกระตือรือร้น เข้าไปในสนามเพลิง ราวกับว่าที่ที่เขาเข้าไปนั้นไม่ใช่สนามไฟสุดอันตรายแต่อย่างใด แต่กลับเป็นสถานที่ที่ให้พวกเขากลับมาเฉลิมฉลองกับชัยชนะ !
เฉินโม่มองไปยังอาคารไอค์ที่ย้อมครึ่งท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดงด้วยสายตานิ่งเรียบ
จู่ ๆ เฉินโม่ก็ค่อย ๆ ออกมา เดินไปยังมุมเปลี่ยว ๆ ด้านหลังฝูงชนที่มีเฉิงซงจื่อและอีกสองคนยืนอยู่
“เปลวไฟไร้ความรู้สึก คนมีอกมีใจ ในเมื่อฉันมาเจอแล้ว งั้นฉันจะช่วยพวกนายสักครั้ง”
เมื่อยื่นมือออกไป หยกแขวนก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเฉินโม่
“น้ำยาวพัน !”
เสียงตะโกนดังขึ้น เฉินโม่รีบส่งพลังซี่ทิพย์เข้าไปยังหยกแขวน กระตุ้นค่ายกลน้ำยาวพันภายในนั้น
บนหยกแขวนปรากฏประกายแสงสีเงินวิบวับ พื้นที่รอบ ๆ เกิดลมพัดกรรโชก ท้องฟ้ายามค่ำคืน จู่ ๆ ก็มืดครึ้ม
ซ่า ซ่า ซ่า !
ปรากฏเมฆขึ้นในวินาทีนั้น จากนั้นฝนก็กระหน่ำลงมา
“ฝนตกแล้ว ! ฝนตกแล้ว !”
“สวรรค์มีตาแล้ว !”
“ขอบคุณพระเจ้า สวรรค์มีตาจริง ๆ !”
บรรดาผู้ที่ออกมาจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ต่างก็คุกเข่าลง คุกเข่าพื้นคำนับฟ้าดินไม่หยุด ห่างจากตัวอาคารไปห้าเมตรกลับไม่ปรากฏเมฆเลย ปรากฏการณ์นี้พันปีจะเจอสักครั้ง
“หรือว่าฟ้าจะมีตาจริง ๆ ? หรือว่าจะเป็นผีสางเทวดากัน !”
ทุกคนต่างก็เดา ๆ กันว่าฝนที่ตกลงมาครั้งนี้มันช่างดูแปลกเสียเหลือเกิน
เมื่อมองไปยังไฟที่ค่อย ๆ มอดดับลง เฉินโม่ก็เก็บหยกแขวนไปและพูดอย่างราบเรียบว่า “ไปกันเถอะ !”
ด้านหลัง เฉินซงจื่อและคนอื่น ๆ อีกสองคนต่างก็ตกตะลึงในพลังของเฉินโม่ เป็นอีกครั้งแล้วที่จิตใจของพวกเขาได้รู้สึกชุ่มชื่นขึ้นมาอีกครั้ง