แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 299
บทที่ 299
สีหน้าของคนตระกูลถานเต็มไปด้วยความตกใจและความโกรธ ทุกคนต่างรู้ว่าตระกูลหูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลจิน ถ้าคำพูดของหูเหวินเหว่ยเป็นจริง ทุกคนต่างรู้ดีอยู่ในใจว่าการที่คุณชายจินมาคราวนี้ เพื่อพุ่งเป้ามาที่ตระกูลถานอย่างแน่นอน
ชั่วขณะหนึ่ง แขกของตระกูลถานต่างมองถานกวงเย่าด้วยสายตาแปลก ๆ
สีหน้าของถานกวงเย่าเย็นชาเล็กน้อย มองไปที่หูเหวินเหว่ยและกล่าวว่า “งั้นหมายความว่าวันนี้ไม่มีช่องว่างสำหรับการเจรจาเรื่องนี้แล้วใช่ไหม?”
หูเหวินเหว่ยเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มและกล่าวว่า “นี่คือความคิดของคุณชายจิน หวังว่าไอ้น้องถานจะไม่โทษผม!”
ถานชิวเซิงที่ยังหนุ่มยังแน่น สิ่งที่เขาไม่สามารถทนเห็นก็คือท่าทางที่เจ้าเล่ห์ของหูเหวินเหว่ย โดยเฉพาะตระกูลหูเลือกที่จะโจมตีตระกูลถานในวันแรกของปีใหม่ ซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
“คุณพ่อ จะเกรงใจพวกเขาทำไม? ถึงแม้จะเป็นตระกูลจินแล้วยังไงล่ะ? อย่างมากที่สุดพวกเราขายทรัพย์สิน แล้วออกไปจากอำเภอเฟิ่งซาน และเริ่มทำธุรกิจใหม่ หรือว่าตระกูลจินจะสามารถมีอิทธิพลไปทั่วหัวเซี่ยได้!”
หูเจี้ยนหวากล่าวเยาะเย้ยว่า “คุณสามารถขายได้ แต่ก็ต้องมีคนกล้าซื้อ!”
ถานกวงเย่าไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน ถ้าตระกูลจินต้องการจัดการตระกูลถานจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถขายโรงแรมซื่อไห่ได้!
เพราะถานชิวเซิงยังเด็ก และไม่เข้าใจความร้ายแรงนี้
ถานชิวเซิงไม่เชื่อ ประสานมือทั้งสองแล้วคำนับแขกของตระกูลถาน “คุณลุงทุกท่าน ถ้าตระกูลถานยินดีที่จะขายโรงแรมซื่อไห่มีใครเต็มใจรับช่วงซื้อกิจการต่อครับ?”
สีหน้าของแขกของตระกูลถานต่างเคร่งขรึม และไม่มีใครพูดอะไร
สีหน้าของกลุ่มคนที่สองพ่อลูกตระกูลหูพามาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน พวกเขามองถานชิวเซิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหยอกล้อ
ถานชิวเซิงรู้สึกผิดหวังมาก แต่เขายังไม่ยอมแพ้ “ลุงจาง ลุงอยากเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมซื่อไห่ไม่ใช่หรือ? ลุงพูดอะไรหน่อยสิ?”
ชายวัยกลางคนหัวล้านที่ถูกถานชิวเซิงจ้องมอง สีหน้าของเขาเคร่งขรึม และถอนหายใจเล็กน้อย ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเขา
“ลุงหม่า ลุงหลิ่วแล้วพวกลุงล่ะ?” ถานชิวเซิงยังคงถามต่อไป สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ถึงแม้จะมีคนให้คำมั่นสัญญาด้วยวาจา มันก็สามารถพิสูจน์ว่าการคุกคามของหูเจี้ยนหวาเป็นเรื่องไร้สาระ!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครให้คำตอบ เป็นตามที่หูเจี้ยนหวากล่าว เมื่อถูกตระกูลจินกดดัน ตระกูลถานก็ไม่สามารถขายทรัพย์สินได้
สีหน้าของถานชิวเซิงขาวซีด เขานั่งลงบนเก้าอี้และในที่สุดเขาก็ยอมแพ้แล้ว
หูเหวินเหว่ยยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ไอ้น้องถาน วันนี้เป็นวันปีใหม่ ผมไม่พูดอ้อมค้อมกับพวกคุณแล้ว คุณชายจินเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่นและมีความสามารถมาก เขาต้องการเปิดคลับเฮาส์ระดับไฮเอนด์ ครอบคลุมไปทั่วทั้งฮ่านหยาง และแม้กระทั่งทั่วประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรวบรวมโรงแรมต่าง ๆ และสำหรับอำเภอเฟิ่งซานของพวกเรานั้นผมโชคดีที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของคุณชายจิน”
“คุณชายจินให้โรงแรมซื่อไห่สองทางเลือก ทางเลือกที่หนึ่งคือให้คุณเข้าร่วมทุน แล้วแบ่งหุ้นให้คุณส่วนหนึ่ง ทางเลือกที่สองคือขายให้พวกเราในราคาห้าล้าน คุณจะเลือกทางไหน?”
ถานชิวเซิงด่าว่า “ห้าล้าน! เห็นได้ชัดว่าพวกคุณกำลังปล้น โรงแรมซื่อไห่ของพวกเรามีมูลค่าอย่างน้อยสิบล้าน!”
ทุกคนต่างเงียบ และมองตระกูลถานด้วยความเห็นใจ ราคานี้ถูกกดลงไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการปล้นกันชัด ๆ
หูเจี้ยนหวาหัวเราะเยาะ “ห้าล้านถือว่ามากแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าครอบครัวของพวกเราเต็มใจซื้อ คุณลองขายดูสิว่าจะสามารถขายได้หรือไม่?”
ถานชิวเซิงพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง เมื่อสักครู่เขาลองแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลจิน หากต้องการขาย โรงแรมซื่อไห่ก็ต้องขายให้ตระกูลหูหรือตระกูลจินเท่านั้น
ส่วนการร่วมหุ้นและทำงานภายใต้ตระกูลหูนั้นไม่ต้องคิด ต่อไปตระกูลหูจะต้องกดขี่ตระกูลถานสุดกำลังอย่างแน่นอน ซึ่งการขายโรงแรมให้ตระกูลหูนั้นจะดีกว่า
สีหน้าของถานกวงเย่ามืดมน และไม่สามารถมองเห็นความคิดที่เฉพาะเจาะของเขาได้ เขามองไปที่หูเหวินเหว่ยและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ผมขอบคุณพี่หูและคุณชายจินสำหรับความเมตตา แต่โรงแรมซื่อไห่เป็นความพยายามครึ่งชีวิตของผม และผมยังไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้ ถ้าหากพี่หูไม่มีเรื่องอื่นแล้ว งั้นก็เชิญกลับเถอะ”
คำพูดของถานกวงเย่าเท่ากับการให้คำตอบว่าไม่ขาย!