แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 446
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 446
“อะไรนะ!” หยางเชี่ยนเชี่ยนตกใจเหมือนแมวถูกเหยียบหาง “เฉินโม่ นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? เมื่อครู่นี้พวกเราทดลองกันหลายครั้งแล้ว ได้แต่เดินอยู่รอบนอก ถ้าเข้าไปก็จะหลงทาง ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน สุดท้ายก็ต้องกลับมาที่เดิม แต่นายกลับบอกว่าพักอยู่ด้านบนงั้นหรือ? ขอร้องล่ะ จะขี้โม้ก็ช่วยแต่งเรื่องให้มันดีๆ หน่อย!”
“ต่อให้นายอยากจะมาดึงดูดยานเอ๋อร์ ก็อย่าใช้ข้ออ้างบ้าๆ แบบนี้ได้ไหม?” หยางเชี่ยนเชี่ยนค่อนข้างดูถูก แล้วพูดออกมามากมาย
จางเสี่ยนก็เผยสีหน้าครุ่นคิด แล้วก็พูดอย่างไม่มั่นใจว่า “ผมจำได้ว่าบนยอดเขามีคฤหาสน์หลังหนึ่ง ได้ยินว่าเป็นของมหาเศรษฐีของเมืองฮ่านหยาง ว่านฉางหรู”
เจิ้งหยวนฮ่าวพูดเสียงเย็นว่า “ถูกต้อง คฤหาสน์บนยอดเขาเป็นของตระกูลว่าน ตอนนั้นที่ว่านฉางหรูซื้อคฤหาสน์หลังนี้ ผมกับพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยพอดี”
“ว้าว พี่ฮ่าว รู้จักกับมหาเศรษฐีของเมืองฮ่านหยางด้วยหรือนี่? ไม่ธรรมดาเลยนะ” หยางเชี่ยนเชี่ยนตะโกนอย่างเกินจริง
จางเสี่ยนก็มีสีหน้าชื่นชม “พี่ฮ่าว มหาเศรษฐีฮ่านหยางคงจะรวยมากใช่ไหม? ใส่เสื้อผ้าราคาเป็นล้านสินะ?”
เจิ้งหยวนฮ่าวจ้องมองสองคนที่ไม่เอาไหน แล้วก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “มหาเศรษฐีเมืองฮ่านหยาง ก็ต้องรวยอยู่แล้ว!”
อานเข่อเยว่ก็มองเจิ้งหยวนฮ่าวสุดหล่อ ในสายตาก็ภูมิใจ แล้วก็อดแอบเอาเขาไปเทียบกับเฉินโม่ไม่ได้
เหลือบมองดูเฉินโม่ แล้วอานเข่อเยว่ก็แอบส่ายหัว “เพื่อที่จะทำให้ยานเอ๋อร์สนใจ ถึงขั้นต้องพูดเกินจริง ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่ยังลาเรียนมาเที่ยวเล่น พอถูกจับโกหกได้ ก็ยังไม่รู้จักแก้ไขตัว…..เมื่อเทียบกับหยวนฮ่าวแล้ว หมอนั่นไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง!”
จางเสี่ยนถามด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เฉินโม่ มหาเศรษฐีฮ่านหยางยกคฤหาสน์ให้นายตอนไหน พวกเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”
สายตาของจางเสี่ยนเผยการดูถูกออกมา เขารู้ว่าเฉินโม่ต่อยตีเก่ง ดังนั้นก็เลยไม่กล้าที่จะไปทำให้เฉินโม่อับอายเลยตรงๆ ได้แต่พูดประชดประชัน
หยางเชี่ยนเชี่ยนก็เอามือปิดปากหัวเราะ ดีใจกับที่แฟนตนเองจับคำโกหกของเฉินโม่
เฉินโม่ก็มีสีหน้านิ่งๆ ไม่อยากจะมองหน้าพวกของหยางเชี่ยนเชี่ยนเสียด้วยซ้ำ สายตาจ้องมองไปที่มู่หรงยานเอ๋อร์อย่างเดียว “คุณก็ค่อยๆ เดินเล่นไปแล้วกัน ผมยังมีธุระ ขอตัวกลับก่อน”
มู่หรงยานเอ๋อร์ก็เริ่มแยกแยะผิดถูกไม่ออก คฤหาสน์บนยอดเขาเธอก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่าเป็นของมหาเศรษฐีของฮ่านหยาง แต่เฉินโม่กลับพูดว่าพักอยู่ด้านบน อย่างนี้ก็พูดโกหกน่ะสิ?
แต่มู่หรงยานเอ๋อร์รู้จักพลังของเฉินโม่ ไม่จำเป็นต้องพูดโกหกเลยด้วยซ้ำ!
ยืนมองเฉินโม่เดินไป มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่มีเวลาไปคิดว่าที่เฉินโม่พูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เธอรีบตะโกนไปว่า “เฉินโม่ พรุ่งนี้อย่าลืมไปงานเลี้ยงวันเกิดของฉันนะ!”
เฉินโม่หันหน้ามา แล้วยิ้มเบาๆ “วางใจเถอะ ผมไปแน่นอน!”
พูดจบ เฉินโม่ก็จะเดินเข้าไปยังขอบเขตที่ค่ายกลรวมพลังทิพย์ปกคลุมอยู่
หยางเชี่ยนเชี่ยนก็พูดอย่างตกใจว่า “เขาจะเข้าไปจริงๆ งั้นหรือ? ไม่กลัวหลงทางหรือไง?”
อานเข่อเยว่ขมวดคิ้วมองเฉินโม่ ค่อนข้างไม่ชอบนิสัยที่ไม่สนใจความเป็นความตายของเฉินโม่ เลยตะโกนไปว่า “นี่นาย อย่าอวดเก่งได้ไหม? ถ้าเข้าไปมันจะหลงทางนะ เมื่อครู่นี้พวกเราทดลองกันหลายครั้งแล้ว นายไปไม่ถึงยอดเขาหรอก!”
เฉินโม่ไม่หันกลับมา ก้าวเดินหน้าไปไม่หยุด
อานเข่อเยว่ค่อนข้างโมโห ตะโกนเพิ่มระดับเสียงไปว่า “นายอยากเด่นขนาดนั้นเลยหรือไง?”
เสียงที่ค่อนข้างโมโหของสาวน้อย สะท้อนอยู่ในภูเขา เงาของเฉินโม่ก็ได้เข้าสู่ขอบเขตของค่ายกลรวมพลังทิพย์แล้ว และหายไปจากสายตาทุกคน
การไม่สนใจ จริงๆ แล้วมันก็เป็นการตอบโต้ที่ดีที่สุด
ในใจของอานเข่อเยว่อยากจะบ้าตาย ครั้งก่อนที่เฉินโม่ดูถูกเธอก็เหมือนกัน เธอเกลียดท่าทางที่ไม่สนใจอะไรของเฉินโม่ที่สุด
ในสายตาของมู่หรงยานเอ๋อร์เผยความตั้งมั่นออกมา “ไม่แน่ว่าเฉินโม่อาจจะพักอยู่ด้านบนนั้นจริงๆ ก็ได้!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนก็มองบนใส่มู่หรงยานเอ๋อร์ ชักสีหน้าใส่ พูดลากเสียงยาวว่า “ขอร้องล่ะยัยคุณหนูยานเอ๋อร์ พี่หยวนฮ่าวก็พูดแล้ว ว่าคฤหาสน์ด้านบนเป็นของมหาเศรษฐีฮ่านหยาง เธอคิดว่าเฉินโม่จะรู้จักกับมหาเศรษฐีฮ่านหยางหรือไงกัน?”
มู่หรงยานเอ๋อร์ยิ้มพูดว่า “เฉินโม่บอกว่าพักอยู่ด้านบน แต่ไม่ได้บอกว่าพักอยู่ในคฤหาสน์นี่นา!ฉันรู้สึกว่าเฉินโม่น่าจะพูดจริง พวกเธอไม่เชื่อ ฉันเชื่อ!”