แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 469
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 469
การทำความเคารพเช่นนี้ของลุงสุ่ย ทำเอาทุกคนตกตะลึงกันหมด
แม้ว่าหลายคนจะไม่รู้ตำแหน่งของลุงสุ่ยในตระกูลมู่หรง แต่ดูจากการกระทำที่มู่หรงยานเอ๋อร์ใให้ความเคารพกับลุงสุ่ยเมื่อกี้แล้ว บวกกับการกระทำที่ถ่อมตนของหยู่เหวินเฉิงผู้ไม่วางใครไว้ในสายตาที่มีต่อลุงสุ่ย ทุกคนต่างก็คาดเดาได้ว่าตำแหน่งของลุงสุ่ยในตระกูลมู่หรงต้องไม่ใช่เพียงแค่พ่อบ้านธรรมดาแน่นอน
แต่ว่า บุคคลผู้มีความสำคัญเช่นนี้ กลับทำความเคารพให้กับเฉินโม่เพียงเพราะหยกแขวนเส้นเดียว หยกแขวนเส้นนี้มีความเป็นมายังไงกันแน่?
ก่อนหน้านี้ลุงสุ่ยพูดว่าหัวใจแห่งมหาสมุทรมูลค่าร้อยล้านเมื่ออยู่ต่อหน้าหยกแขวนเส้นนี้แล้วถือเป็นแค่เพียงขยะ ทุกคนยังคิดว่าลุงสุ่ยเพียงแค่จงใจเล่นงานหยู่เหวินเฉิงเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เห็นได้ชัดว่าหยกแขวนเส้นนี้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา กระทั่งอาจจะสูงส่งอย่างมากด้วย!
ชั่วขณะนั้น แววตาของทุกคนที่มองไปยังเฉินโม่ มีความตกตะลึงปรากฏอยู่
หยูเจียหาวสีหน้าชั่วร้าย “ชิบหายเอ้ย อีกแค่นิดเดียวเจ้านี้ก็จะได้กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีตาแก่แบบนี้มาขวางกลางทาง แล้วยังให้ความสำคัญกับหยกแขวนชิ้นนั้นมากขนาดนี้อีก!”
“ทีนี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้เล่นงานเจ้านั่น แต่แล้วยังช่วยให้มันได้หน้าอีกด้วย น่าโมโหจริงๆ!”
แววตาที่อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ มีความซับซ้อนขึ้นมาอีกครั้ง “เฉินโม่ ทุกครั้งที่นายเจอกับปัญหา ก็มักจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์เสมอ ในตัวนายยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่อีกมากแค่ไหนกัน?”
มู่หรงยานเอ๋อร์มองเฉินโม่ ซาบซึ้งจนหน้าแดง ในใจมีความสุขเพิ่มขึ้นไม่หยุด “เฉินโม่มอบสิ่งของที่ล้ำค่ามากเช่นนี้ให้กับฉัน ดูแล้วภายในใจของเขา ตำแหน่งของฉันก็ยังถือว่าสำคัญมากเช่นกัน”
หยู่เหวินเฉิงสีหน้าชั่วร้าย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าลุงสุ่ย จึงไม่กล้าทำอะไรใดๆ
หยู่เหวินฟางเฟยสีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห บ่นเสียงเบาว่า “มีอะไรดีนักหนากัน ครั้งหน้าเดี๋ยวฉันมอบหยกแขวนที่ยิ่งใหญ่ยิ่งสวยมากกว่านี้ให้น้องยานเอ๋อร์เอง”
สำหรับคำพูดที่ดูออกได้ชัดเจนว่าเป็นคำพูดจากอารมณ์โมโห ลุงสุ่ยจึงทำแค่ยิ้มเล็กน้อย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งล้ำค่าของหยกแขวนชิ้นนี้คืออะไร ของบางอย่างไม่ใช่ว่าจะยิ่งใหญ่ยิ่งสวยแล้วจะดีกว่า
เฉินโม่สีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้สนใจการทำความเคารพของลุงสุ่ยสักนิด
เดิมทีลุงสุ่ยคิดว่าเฉินโม่อาจจะพูดจาตอบกลับเป็นมารยาท หรือทำความเคารพตอบให้กับเขา แต่เฉินโม่ทำแค่ยืนนิ่งเฉยๆ สีหน้าเรียบเฉย เหมือนว่าไม่ได้สนใจใส่ใจเขาสักนิด
ลุงสุ่ยหรี่ตาเล็กน้อย คิดในใจว่า “ผู้นำตระกูลบอกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้อวดดีอย่างมาก เป็นอย่างนั้นจริงๆ!”
ในตอนนี้ หน้าประตูมีเสียงวุ่นวายดังขึ้น รปภ.หลายคนถูกทำร้ายกระเด็นเขามา ล้มลงร้องโอดครวญบนพื้น
ตามมาด้วย ชายหนุ่มสองคนที่ในมือถือพวงหรีดสีขาวก้าวเดินเข้ามา
ทุกคนตกตะลึง วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหนูแห่งตระกูลมู่หรง แต่กลับมีคนนำพวงหรีดมามอบให้ นี่เป็นการทำลายเกียรติตระกูลมู่หรงชัดๆ!
มู่หรงเค่อที่กำลังพูดคุยอยู่กับพวกผู้มีอิทธิพลในเขตเจียงหนาน สีหน้าตกใจ แล้วรีบพาตัวลูกน้องสองคนเดินเข้าไปหา
พวกผู้มีอิทธิพลพวกนั้นเองก็เดินตามหลังมู่หรงเค่อ ต่างก็มีสีหน้าหลากหลายอารมณ์
แววตาของลุงสุ่ยมีความโมโห แล้วไหว้มู่หรงยานเอ๋อร์พูดว่า “คุณหนูครับ คุณรออยู่ที่นี่อย่าขยับไปไหนนะครับ ผมไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“ค่ะ รบกวนลุงสุ่ยด้วยค่ะ” มู่หรงยานเอ๋อร์พูดเสียงเบา
เฉินโม่มองชายหนุ่มสองคนที่ยืนถือพวงหรีดอยู่ตรงหน้าประตู แล้วนึกคิด ดูแล้วศัตรูของตระกูลมู่หรงมาแล้วละ
หยู่เหวินเฉิงรวมทั้งพวกลูกคนรวยของเขตเจียงหนาน ล้มเลิกการเล่นงานเฉินโม่ชั่วคราว แล้วเดินตามไป พวกเขาเองก็สงสัยเช่นกัน ว่าใครกันแน่ที่กล้ามาสร้างเรื่องวุ่นวายในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของมู่หรงยานเอ๋อร์ คงจะอยากตายแล้วสินะ!
แม้กระทั่งพวกเจิ้งหยวนฮ่าวและอานเข่อเยว่เเองก็เดินตามไปอย่างสงสัย แล้วยืนมองดูอยู่ที่ด้านหลังของพวกผู้ใหญ่