แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 494
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 494
กงซุนหลีหัวเราะด้วยความภูมิใจ “นึกไม่ถึงว่าเธอจะช่างพูดขนาดนี้ ฟังสิ่งที่เธอพูดเมื่อสักครู่ เธอรู้จักคนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นเหรอ?”
ดวงตาของเจิ้งซิ่วลี่ประกายความโหดเหี้ยมที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้ แต่กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับพวกเขา ดังนั้นพวกเราต้องรู้จักกันเป็นธรรมดา”
มีร่องรอยความปีติยินดีอยู่ในดวงตาของกงซุนหลี “ถ้าอย่างนั้นเธอบอกรายละเอียดของเจ้าเด็กคนนั้นมาสิ”
เจิ้งซิ่วลี่กล่าวเยาะเย้ย “ความจริงแล้วมันก็ไม่มีอะไรน่าพูด เขาชื่อเฉินโม่ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว เป็นนักเรียนที่ย้ายมาจากอำเภอเล็ก ๆ มาเรียนที่โรงเรียนตี้ยี พ่อของเขาเป็นสารวัตรกำนันของอำเภอเฟิ่งซาน คุณเพียงแค่สอบถามก็สามารถรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้”
“สารวัตรกำนัน ยังมีตำแหน่งนี้ด้วยเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวเยาะเย้ย
ชายหนุ่มที่เหลือก็หัวเราะด้วยความเหยียดหยามเช่นกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ปกติลูกเศรษฐีเหล่านี้จะคบหาสมาคมกับนายกเทศมนตรีโดยตรง ซึ่งพวกเขาไม่สนใจสารวัตรกำนันเล็ก ๆ หรอก
กงซุนหลีพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา แล้วมองไปที่เฉินโม่ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม “ฮึ่ม! เป็นแค่ลูกชายของสารวัตรกำนันเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับมีสาวสวยอยู่ข้างกาย มันเหมือนกับดอกไม้ปักอยู่บนกองขี้ควาย!”
กงซุนหลีเย่อหยิ่งมาก แต่เขาไม่ได้เป็นคนโง่เขลา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเชื่อในสิ่งที่เจิ้งซิ่วลี่พูดทั้งหมด
“มีแค่นั้นเหรอ ยังมีอะไรอีกไหม?” กงซุนหลีถาม
ดูเหมือนเจิ้งซิ่วลี่จะรู้ว่าเพียงแค่สิ่งเหล่านั้น ไม่สามารถทำให้กงซุนหลีตัดสินใจจัดการเฉินโม่ได้ เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “จริงสิ ฉันได้ยินมาว่าเขายังได้ล่วงเกินเย่เทียนหนิง คุณชายใหญ่ของตระกูลเย่”
ดวงตาของกงซุนหลีประกายขึ้นทันที มองเจิ้งซิ่วลี่และถามว่า “นึกไม่ถึงว่าเขาจะล่วงเกินเย่เทียนหนิง เธอได้ยินใครพูดเหรอ?”
ความแข็งแกร่งของตระกูลกงซุนในมณฑลซีไห่นั้นเป็นอันดับสองรองจากตระกูลเย่ ปกติแล้วพวกเขาต้องการจะประจบตระกูลเย่มาโดยตลอด ตอนนี้เมื่อได้ยินว่ามีโอกาสดี เจิ้งซิ่วลี่คิดว่ากงซุนหลีจะไม่ปล่อยไปแน่นอน
เจิ้งซิ่วลี่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องไปฟังคนอื่นพูดหรอก นี่คือสิ่งที่ฉันเห็นด้วยตาของตนเอง คราวก่อนมีการจัดงานประมูลการกุศลอยู่ที่นี่ พวกเขาทั้งสองเกิดความขัดแย้งกัน
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะจินเพ่ยอวิ๋น คุณหนูของตระกูลจินขวางเอาไว้ พวกเขาเกือบจะลงไม้ลงมือกันแล้ว ถ้าคุณชายกงซุนไม่เชื่อ แค่สอบถามใครสักคนที่มาร่วมงานประมูลการกุศลครั้งที่แล้วก็จะรู้เอง”
เมื่อเห็นว่าเรื่องที่เจิ้งซิ่วลี่พูดนั้นสมเหตุสมผล กงซุนหลีเชื่อเจ็ดแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่เขาระมัดระวังมาก และตัดสินใจไปสอบถามคนอื่นก่อน ถึงจะสามารถวางใจ
“เอาล่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูล ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อน”
หลังจากกล่าวจบ กงซุนหลีพากลุ่มชายหนุ่มเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เจิ้งซิ่วลี่มองหลังของกงซุนหลีและคนอื่น ๆ ที่จากไป ด้วยสายตาที่เคร่งขรึม “นึกไม่ถึงว่ากงซุนหลีจะเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวัง ฉันประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว แต่มีสาวสวยรออยู่ เพย์บอยที่บ้ากามอย่างกงซุนหลีจะทนได้เหรอ?”
เจิ้งซิ่วลี่ละสายตาจากกงซุนหลี สีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจกับแผนที่ตนเองวางไว้ แล้วหันไปมองเฉินโม่ ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “เฉินโม่ ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะได้เจอแกทุกที่ หรือนี่เป็นโอกาสแก้แค้นที่สวรรค์มอบให้ฉัน”
เดิมทีเจิ้งซิ่วลี่เพียงแค่มาดูความครึกครื้นกับคนในครอบครัวเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้พบเฉินโม่ที่นี่ เธอต้องการแก้แค้นเฉินโม่มาโดยตลอด ดังนั้นเธอไม่ปล่อยโอกาสใด ๆ ไปอย่างแน่นอน
ขณะที่เธอกำลังคิดหนักว่าจะแก้แค้นเฉินโม่อย่างไร เธอบังเอิญเห็นกงซุนหลีเกิดความสนใจกับเอียนชิงเฉิง เมื่อก่อนเจิ้งซิ่วลี่เคยพบเขาโดยบังเอิญ รู้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลกงซุนในมณฑลซีไห่ และเป็นญาติกับตระกูลจินในฮ่านหยางอีกด้วย และเขาไม่รู้สถานะของเฉินโม่ และไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินโม่กับจินเพ่ยอวิ๋น
ดังนั้นสถานการณ์ของกงซุนหลี จึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับที่เจิ้งซิ่วลี่จะใช้จัดการเฉินโม่